9430006

ซ่อมคลัชนอกสถานที่ระนอง  โทร 065-3366118

หมวดหมู่สินค้า: rtd81 ซ่อมรถนอกสถานที่

26 เมษายน 2565

ผู้ชม 86 ผู้ชม

อู่ซ่อมรถใกล้ฉันระนอง
ซ่อมไดนาโมนอกสถานที่ระนอง  โทร 065-3366118
ซ่อมคลัชนอกสถานที่ระนอง  โทร 065-3366118
ซ่อมเกียร์นอกสถานที่ระนอง  โทร 065-3366118
ซ่อมเบรคนอกสถานที่ระนอง  โทร 065-3366118
ซ่อมรถนอกสถานที่ระนอง   โทร 065-3366118 อะไหล่รถยนต์มือสอง อะไหล่เชียงกง ไม่โดนหลอก และ ผิดหวัง
อู่ซ่อมรถระนอง   ,   ซ่อมรถยนต์ระนอง , ซ่อมรถนอกสถานที่ระนอง   ,  รถยนต์เสียระนอง  
ระนอง ซ่อมรถยนต์นอกสถานที่ ทุกๆ อาการ รถเสีย สตาร์ทไม่ติด ไม่ต้องตกใจ ตั้งสติ แล้วรีบโทรหาเรา 
 
ระนอง ช่างซ่อมรถใกล้ฉัน รับซ่อมรถรถเสีย อู่ซ่อมรถระนอง อู่รถ รับซ่อมรถยนต์ทุกรุ่นทุกยี่ห้อ ยกรถเสียมาซ่อมอู่ รถยก รถลากจูง รถสไลด์
ซ่อมไดนาโมนอกสถานที่ระนอง  
ซ่อมคลัชนอกสถานที่ระนอง  
ซ่อมเกียร์นอกสถานที่ระนอง  
ซ่อมเบรคนอกสถานที่ระนอง  
ซ่อมหม้อน้ำนอกสถานที่ระนอง  
สายพานขาด สายพานนอกสถานที่ระนอง  

                     ติดต่อช่างซ่อมรถ         



 
ช่างระบบไฟรถยนต์ระนอง  
แบตหมด รถสตาร์ทไม่ติด แบตเสื่อม แบตเสียเก็บไฟไม่อยู่ ขายแบตเตอรี่รถยนต์ บริการรับซ่อมไดนาโม ไดชาร์ท ไดสตาร์ท ซ่อมมอเตอร์เสีย ระบบไฟรถยนต์
รถสไลด์ รถลากรถเสียระนอง เข้าอู่ซ่อมรถยนต์

ยกรถเสียระนอง รถอุบัติเหตุ 
เคลื่อนย้ายรถ รถเสีย รถน้ำมันหมด รถสตาร์ไม่ติด รถชน รถอุบัติเหตุ #กดถูกใจเพจไว้เผื่อรถเสีย #บริการรถยก

ช่างซ่อมรถระนอง รับซ่อมเครื่องยนต์ 
วางเครื่อง ท่อไอเสีย ช่วงล่างเบรคครัช รับซ่อมเครื่องยนต์ดีเซล ยุโรป อเมริกา และญี่ปุ่น ด้วยทีมงานที่มีประสบการณ์สูง ผ่านการอบรมด้านเทคนิค อะไหล่ การซ่อมบำรุงให้ใช้งานได้มาตรฐานจากผู้ผลิต

ช่างซ่อมรถยนต์นอกสถานที่ระนอง  
ทุกๆ อาการ ที่รถยนต์เสีย  รถยนต์สตาร์ทไม่ติด  ไดชาร์จเสีย  ไดสตาร์ทเสีย  แบตหมด ต้องการพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์ บริการซ่อมรถยนต์รวดเร็ว และทันใจท่าน ทันที 
 
ซ่อมรถนอกสถานที่ระนอง ซ่อมถึงที่ บริการถึงบ้าน ทีมงานเราพรอ้มบริการคุณ ดูแลกันตลอดเส้นทาง แค่ใช้บริการเรา เราไม่ทอดทิ้งคุณ


 
เรามีบริการ ซ่อมรถนอกสถานที่ระนอง ซ่อมจบหน้างาน ไม่ว่ารถจะเสีย ที่บ้าน ที่ทำงาน หรือระหว่างเดินทาง จบหน้างานที่รถเสีย ไม่ต้องยกไปไหน เครื่องมือพร้อม อะไหล่พร้อม รับปรึกษาปัญเรื่องรถ
*ระบบไฟฟ้ารถยนต์*ขับดับกลางอากาศ สตาร์ทไม่ติด บิดสตาร์ทเงียบไดร์ชาร์จ ไดร์สตาร์ท เครื่องยนต์ เบรก คลัช ความร้อนขึ้น ไฟหน้าปัดแสดงผิดปกติ(ซ่อมถึงที่ บริการถึงบ้าน)


 
 

ซ่อมหม้อน้ำนอกสถานที่

ปัญหาหม้อน้ำรั่วซึม หลายคนคงปวดหัวจี๊ดไม่รู้จะแก้อย่างไร หากรถยางรั่วยางแตกยังมีอะไหล่ให้เปลี่ยนได้ไม่ยาก แต่หม้อน้ำรั่วต้องจอดเข้าข้างทางสถานเดียว โดยเฉพาะคุณผู้หญิงหากเกิดรถเสียกลางทางในที่เปลี่ยวจะลำบาก ทางที่ดีที่สุดควรตรวจเช็กรถก่อนใช้งานเป็นประจำเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้น แต่หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ เรายังพอแก้ไขเหตุการณ์เฉพาะหน้าโดยอุดรอยรั่วชั่วคราวเพื่อนำรถเคลื่อนต่อ กลับไปซ่อมแซม
วิธีแก้ปัญหาเฉพาะหน้า (เฉพาะยามจำเป็นเท่านั้น)
 
1. สำรวจพื้นดินบริเวณรอบตัว หากเจอดินเหนียวให้ผสมน้ำแล้วเอามาอุดรอยรั่วแบบชั่วคราวได้
2. หากขับรถเดินทางท่องเที่ยว มีสบู่ก้อนอยู่ในกระเป๋า ให้เอามาบี้ๆ อุดรอยรั่วได้ชั่วคราว
3. ถ้ามีดินน้ำมันของลูกๆ หลานๆ เอามาอุดรอยรั่ว หรือหาซื้อติดรถไว้ยามฉุกเฉิน
4. ขับรถไปต่างจังหวัด หากเจอขี้วัวขี้ควายเอามาอุดรอยรั่ว อาจจะเหม็นสักหน่อยแต่ก็พอขับไปหาอู่ได้
 
     ถ้าไม่อยากทำทั้ง 4 ข้อ ให้ใช้มือถือเสิร์ช Google หาอู่ใกล้ที่สุด เพื่อลากรถเข้าอู่ไปซ่อมชั่วคราว
 
วิธีตรวจสอบดูแลรักษาหม้อน้ำเบื้องต้น
 
1. เช็กระดับน้ำหม้อน้ำอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง
 
2. เช็กสภาพท่อยาง ต้องไม่มีรอยแตกลายงา
3. เช็กการทำงานของพัดลมหม้อน้ำ หมุนปกติหรือไม่
4. สังเกตด้วยสายตา บริเวณหม้อน้ำใต้ท้องรถ ว่ามีรอยน้ำรั่วซึมหรือไม่
 
     ทั้งหมดนี้เป็นวิธีแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า และป้องกันก่อนเกิดปัญหารถเสียระหว่างเดินทาง ถ้ารถของคุณเริ่มมีอาการผิดปกติดังที่กล่าวมา เช่น น้ำในหม้อน้ำหายไปอย่างรวดเร็ว หรือเครื่องยนต์ร้อนเร็วมากๆ ทั้งตอนวิ่งทางไกล และตอนรถติด ให้ สันนิษฐานเบื้องต้นว่า อาจมีอะไรผิดปกติ ให้รีบเอารถเข้าอู่ใกล้บ้าน หรือศูนย์บริการรถของคุณ มิเช่นนั้นแล้วคุณจะปวดหัวจี๊ดเคว้งคว้างอยู่กลางทางระบบระบายความร้อนของรถยนต์จะใช้น้ำเป็นหลัก ส่วนนี้อาจจะไม่ต้องทำสำหรับรถที่เติมน้ำยาปัองกันสนิมในหม้อน้ำ แต่เพื่อความสบายใจอย่างน้อย ก็ควรล้างหม้อน้ำและเติมน้ำยาหม้อน้ำ เปลี่ยนถ่ายใหม่ เพื่อความสบายใจตัวอย่างการซ่อมระบบหม้อน้ำรถยนต์
1. รถที่ไม่ต้องซ่อมหรืออย่างมากก็แค่ล้างหม้อน้ำ เปลี่ยนวาล์วน้ำ เท่านั้นก็พอ ให้สังเกตุจากน้ำในหม้อน้ำ ไม่มีสีออกแดงหรือสนิมผสมในน้ำ ในหม้อน้ำ และหม้อพักสำรองไม่มีขี้สนิม ตลอดจนท่อน้ำทั้งหมด ก็ไม่มีรอยแตกหรือรั่ว น้ำไม่หาย ก็ไม่ต้องทำอะไรมาก แต่หากต้องการความสะบายใจก็ล้างหม้อน้ำ เปลี่ยนน้ำยาหม้อน้ำ แล้วรอดูอาการ ถ้าน้ำหายแสดงว่าปั้มน้ำแน่นอน
 
2. ส่วนกรณีที่ไม่มีการเติมน้ำยาคูลแล้นหรือน้ำยาป้องกันสนิมในหม้อน้ำ น้ำจะออกสีแดง ทั้งหม้อพักด้วย ก็จำเป็นจะต้องทำการซ่อมทั้งระบบ โดยเริ่มจาก การล้างหม้อน้ำก่อน เปลี่ยนวาล์วน้ำ เปลี่ยนปั๊มน้ำ เติมน้ำยาหม้อน้ำ
 
3. หากโชคร้ายเจอหม้อน้ำตัน ก็คงต้องเปลี่ยนทั้งใบ ประมาณ 3000 บาทขึ้นไป การล้างหม้อน้ำ จึงควรเลือกร้านซ่อมหม้อน้ำโดยตรง
 
4. วาล์วน้ำ ก็ต้องเปลี่ยนเช่นกัน
5. สำรวจข้อต่อท่อน้ำ และท่อน้ำทั้งหมด มีแตกหรือชำรุดก็จัดการซ่อมให้เรียบร้อย
6. ปั๊มน้ำก็ต้องเปลี่ยนเช่นกัน ถ้าหม้อน้ำมีสนิม ปั๊มน้ำจะมีสภาพดังรูปการซ่อมระบบระบายความร้อนจะมีอุปกรณ์ที่ร้านซ่อมหม้อน้ำจะไม่สามารถทำได้ก็คือ ปั้มน้ำ ซึ่งจะต้องไปทำที่ร้านซ่อมเครื่องยนต์ โดยซ่อมพร้อมกับการเปลี่ยนสายพานทามมิ่ง และอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซ่อมให้เรียบร้อยก่อน
 
จากนั้นก็เติมน้ำยาคูลแลน เป็นอันเสร็จสิ้นการซ่อมระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ เมื่อได้รถมาแล้วการล้างหม้อน้ำควรทำทันทีวิธีการแก้ไข และ ซ่อมหม้อน้ำ
ถ้ากระเป๋าตังของคุณเหลือเงินน้อยหรือไม่มีและ เพื่อให้มีระดับน้ำในหม้อน้ำของคุณเพียงพอสำหรับการที่จะให้รถคุณวิ่งไปได้ คุณอาจจำเป็นต้องใช้ความสามารถที่มีอยู่ของคุณเอง คุณสามารถซ่อมแซมหม้อน้ำด้วยตัวเอง จนคุณสามารถจ่ายได้เปลี่ยนอาชีพ หากปัญหาเป็นปัญหาเล็กๆ คุณสามารถแก้ไข ซ่อมแซม หม้อน้ำรถของคุณได้อย่างง่ายดาย  เป็นการแก้ใขสถานการณ์เฉพาะหน้าในกรณีที่จำเป็นจริงๆ
 
 
มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า
 
คำแนะนำ
ค้นหาที่มาอาการของหม้อน้ำรั่ว โดยการมองหาตามขอบตะเข็บของหม้อน้ำ หรือตามรอยต่อต่างๆ คุณอาจไม่จำเป็นต้องแก้ไข ซ่อมหม้อน้ำ หรือเปลี่ยนหม้อน้ำรถของคุณก็เป็นได้ เพราะอาการรั่วอาจมาจากหนึ่งในท่อแทน เพื่อตรวจสอบเปิดกระโปรงหน้ารถและติดเครื่องยนต์ให้มันทำงานจนกว่าเครื่องจะอุ่นๆ คุณจะเห็นการรั่วไหลทันที ถ้ามันเป็นที่ท่อน้ำเข้าออก จากหม้อน้ำ ก็ซึ้อเปลี่ยนท่อยางก็เป็นอันจบ ราคาไม่แพง งบไม่บานปลาย
ตรวจสอบรอบฝาหม้อน้ำสำหรับการรั่วซึม หากมีของเหลวออกมาจากปาก ก็คงจะต้องเช็คดูว่าสภาพปากหม้อน้ำยังดีอยู่หรือเปล่า ถ้าไม่ดีแล้วก็ซื้อเปลี่ยนได้เลย เพราะส่วนใหญ่แล้วตรงฝาจะมีประเกนยาง ซึ่งเมื่อมันเสื่อมสภาพแล้วก็อาจะทำให้น้ำรั่วไหลออกมาได้
แก้ไขการรั่วไหลด้านนอก ถ้าหม้อน้ำรั่วที่ตะเข็บ ใช้พวกกาวซีเมน หรือที่เรียกกันว่าซีเมนเหล็ก ปะปิดรูรั่วนั้นๆ ไปก่อน แล้วมีเวลาก็นำรถเข้าอู่หรือร้านหม้อน้ำ เพื่อให้จัดการซ่อมแบบถูกวิธีและเพื่อความปลอดภัยของเครื่องของรถคุณด้วย เพราะซีเมนเหล็กมันทนได้ไม่นาน
หรือใช้สารชนิดเติม เพื่อหยุดการรั่วไหลที่สามารถใช้กับน้ำยาป้องกันการแข็งตัวสำหรับการแก้ไขง่าย เพียงทำตามคำแนะนำข้างกล่องของน้ำยาที่มีกาวอุดรูรั่งนั้นๆ ของผู้ผลิต ส่วนใหญ่ของผลิตภัณฑ์จะต้องให้คุณเติมตัวน้ำยาอุดรอยรั่วลงไปแล้วขับรถไปจนกว่าเครื่องยนต์จะอุ่น
ระบายหม้อน้ำถ้าคุณใช้สารเติมแต่งที่ไม่สามารถผสมกับน้ำหล่อเย็น ล้างหม้อน้ำด้วยน้ำธรรมดาและเติมน้ำพร้อมกับน้ำยากันสนิม แล้วขับไปประมาณ 80 กิโลเมตรถึงเพื่อให้ตัวน้ำยากันรั่วให้ทำงาน ระบายหม้อน้ำอีกครั้งและปล่อยให้มันแห้งออก เติมด้วยน้ำหล่อเย็นและอาการรั่วจะหมดไป (ชั่วคราว) 
 
 
คำแนะนำเพิ่มเติม:
 
     หากคุณพบมากของสนิมในหม้อน้ำโดยเฉพาะอย่างยิ่งภายใต้คุณอาจจำเป็นต้องเปลี่ยนมัน
 
     หากคุณมีท่อรั่วและวิธีการที่จะได้รับชิ้นส่วนที่ร้านไม่มีท่อห่อในเทปพันสายไฟ มันมีประโยชน์สำหรับระยะทางสั้น ๆ ตรวจสอบท่ออย่างละเอียดเพื่อให้แน่ใจว่าเทปมีการรั่วไหล
 
     อ่านฉลากของสารเติมแต่งเพื่อให้แน่ใจใด ๆ ว่ามันสมบูรณ์ปลอดภัยสำหรับรถของคุณ สารบางชนิดที่สามารถเกิดการอุดตันของระบบระบายความร้อนของรถ
 
     เสมอพกน้ำหรือภาชนะพิเศษของของเหลวหม้อน้ำ นี้จะช่วยให้คุณออกจากการจราจรติดขัดถ้าแก้ไขชั่วคราวไม่ทำงาน
 
     ไม่เพียงแค่เติมถังอย่างต่อเนื่องถ้าคุณสังเกตเห็นการรั่วไหล มันเสี่ยงเกินไปและมีราคาแพงเกินไปเมื่อคุณคำนวณค่าใช้จ่ายของของเหลว
 
     ระวังเมื่อคุณระบายน้ำหม้อน้ำ มันเป็นพิษต่อสัตว์เล็กและเด็กดังนั้นกำจัดอย่างถูกต้อง
 
     ทำให้มั่นใจได้ว่าเครื่องยนต์จะเย็นก่อนที่จะเปิดฝาหม้อน้ำ ถ้าคุณต้องเปิดมันเมื่อมันร้อนไปช้าและให้ความดันที่จะเปิดตัวครั้งแรก แล้วเอาฝาครอบ หม้อน้ำรถยนต์คืออะไรมีหน้าที่และการทำงานอย่างไร มีกี่แบบและในขณะที่”หม้อน้ำรถยนต์” มีปัญหาหรือมีอาการผิดปกติเรื่องความร้อนจน (Over heat) ไฟแจ้งเตือนความร้อนจะเตือนขึ้นมาทันที เรามาดูกันว่าวิธีดูหม้อน้ำรถยนต์ดูอย่างไรสังเกตจากอะไรบ้างอาการเป็นแบบไหนและควรแก้ไขอย่างไร ? รวมถึงการดูแลรักษาหม้อน้ำรถยนต์และครีบรังผึ้งหม้อน้ำให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ ขับรถยนต์ได้อย่างสบายใจไม่ดับกลางทาง
 
 
หน้าที่และการทำงานหม้อน้ำรถยนต์
  หม้อน้ำรถยนต์คือ อุปกรณ์หลักที่ทำหน้าที่ระบายความร้อนหรือหล่อเย็นให้กับเครื่องยนต์เพื่อไม่ให้เครื่องยนต์มีอุณหภูมิสูงจนเกินไป และทำให้เครื่องยนต์สามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง
 
  หลักการทำงานหม้อน้ำรถยนต์คือ ช่วยนำความร้อนออกจากเครื่องยนต์โดยอาศัยน้ำยาหล่อเย็นและพัดลมหม้อน้ำที่ทำหน้าที่ดูดอากาศจากด้านหน้าของหม้อน้ำ ผ่านครีบรังผึ้งหม้อน้ำหรือครีบระบายความร้อนที่ทำมาจากโลหะผ่านมายังด้านหลังหรือเรียกระบบนี้ว่าการแลกเปลี่ยนความร้อนด้วยอากาศ จึงทำให้อุณหภูมิน้ำยาหล่อเย็นในหม้อน้ำนั้นเย็นตัวลงแล้วก็หมุนเวียนเข้าสู่เครื่องยนต์
 
หม้อน้ำรถยนต์มีอยู่ 3 แบบด้วยกันคือ
1.หม้อน้ำอลูมิเนียมฝาเป็นพลาสติก
 
 – ข้อดีคือ มีราคาถูกและส่วนมากค่ายรถยนต์ต่างๆจะติดตั้งมาจากโรงงานเพราะมีน้ำหนักเบา ระบายความร้อนได้ดี ไม่อมความร้อน ไม่เป็นสนิม
 
 – ข้อเสียคือ หากเกิดการแตกหรือรั่วซึมตรงรอยต่อระหว่างพลาสติก โดยส่วนมากต้องเปลี่ยนทันทีไม่สามรถซ่อมแซมแก้ไขได้
 
2.หม้อน้ำอลูมิเนียมล้วน
 
 – ข้อดีคือ มีน้ำหนักเบาและผลิตมาจากอลูมิเนียมจึงทำให้ระบายความร้อนได้ไว มีความทนทาน ไม่เป็นสนิม
 
 – ข้อเสียคือ ถ้าเกิดการรั่วซึมของหม้อน้ำอาจจะซ่อมแซมไม่ได้
 
3.หม้อน้ำทองแดง
 
 – ข้อดีคือ มีความหนาและแข็งแรง หากมีการรั่วซึมสามารถซ่อมแซมได้
 
 – ข้อเสียคือ ระบายความร้อนได้ช้ากว่าแบบอลูมิเนียม อมความร้อน มีน้ำหนักมากกว่าแบบอลูมิเนียม ราคาค่อนข้างแพงจึงไม่เป็นที่นิยมในปัจจุบัน
 
วิธีดูหม้อน้ำรถยนต์
1.วิธีดูหม้อน้ำรถยนต์รั่ว
 คอยสังเกตหม้อน้ำโดยรอบว่ามีคราบตะกรันหรือคราบน้ำไหลออกมาจากหม้อน้ำหรือไม่ และคอยสังเกตที่พื้นตรงตำแหน่งหม้อน้ำว่ามีคราบน้ำหยดหรือไม่ การตรวจสอบหม้อน้ำรั่วอีกวิธีคือในขณะเครื่องยนต์เย็นเติมน้ำหล่อเย็นในหม้อน้ำให้เต็มและเติมน้ำกระปุกหม้อพักน้ำให้อยู่ในระดับขีด MAX จากนั้นใช้งานรถยนต์ตามปกติ หรือจอดทิ้งไว้ข้ามคืน แล้วมาสังเกตอีกครั้งว่าระดับน้ำอยู่เท่าเดิมหรือไม่
 
อาการหม้อน้ำรถยนต์รั่ว
 น้ำหายและต้องเติมน้ำยาหล่อเย็นบ่อยผิดปกติ มีคราบน้ำหล่อเย็นไหลลงมาที่พื้น มีสถานะไฟแจ้งเตือนความขึ้นโชว์ที่หน้าปัทม์ ไปจนถึงเครื่องยนต์ดับกลางทางและทำให้เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้รถสตาร์ทไม่ติด
 
วิธีแก้หม้อน้ำรถยนต์รั่ว
 ตรวจสอบหาจุดรั่วซึมของน้ำยาหล่อเย็น เช่นบริเวณรอบๆหม้อน้ำ ตามท่อยางด้านบนและด้านล่าง ฝาหม้อน้ำ และหางปลาหม้อน้ำว่าขันแน่นหรือไม่ หากเจอจุดรั่วซึมเล็กๆที่หม้อน้ำอาจจะใช้ดินน้ำมันหรือน้ำยาอุดรอยรั่วหม้อน้ำอุดชั่วคราวแล้วหาน้ำเติมหม้อน้ำให้เต็มเพื่อช่วยประคองขับรถหาอู่ซ่อมหรือเปลี่ยนบริเวณไกล้เคียงได้ และหากเมื่อคุณตกอยู่ในสถานการณ์คับขันรถความร้อนขึ้นควรตั้งสติแล้วค่อยๆแก้ไข เรามาดูกันครับกับวิธีปฏิบัติเมื่อรถความร้อนขึ้น
 
2.วิธีดูหม้อน้ำรถยนต์ตัน
 เปิดฝาหม้อน้ำดูแล้วน้ำในหม้อน้ำและหม้อพักอาจจะอยู่ในปริมาณที่เท่าเดิมหรือพร่องลงไปเล็กน้อย แต่สีของน้ำนั้นอาจจะเปลี่ยนไปเช่นน้ำเปลี่ยนเป็นสีส้มๆแดงๆ มีคราบตะกอนหรือสิ่งสกปรกไปอุดตันทำให้น้ำในหม้อน้ำไม่สามารถหมุนเวียนในระบบเพื่อระบายความร้อนได้
 
อาการหม้อน้ำรถยนต์ตัน
 ในขณะขับขี่มีสถานะไฟแจ้งเตือนความขึ้นโชว์ที่หน้าปัทม์ รถความร้อนขึ้นในขณะที่วิ่งด้วยความเร็ว แอร์รถไม่เย็น หรือมีน้ำยาหล่อเย็นดันออกทางรูระบายของหม้อพักน้ำ
 
วิธีแก้หม้อน้ำรถยนต์ตัน
 เปลี่ยนถ่ายน้ำในระบบหล่อเย็นทันทีเมื่อรถยนต์ที่ผ่านการใช้งานมาเป็นเวลา 5-6 เดือนขึ้นไป เพื่อป้องกันคราบสกปรก คราบตะกรันและคราบสนิม สะสมและอุดตันในหม้อน้ำรถยนต์ หากตรวจสอบแล้วพบว่ามีคราบสนิมหรือคราบตะกรันเราไปดูกันครับ กับวิธีล้างหม้อน้ำรถยนต์ด้วยตัวเองเพียงไม่กี่ขั้นตอนง่ายๆที่ใครๆก็สามารถทำเองได้
 
การดูแลรักษาหม้อน้ำรถยนต์
 ส่วนใหญ่แล้วตำแหน่งของหม้อน้ำรถยนต์จะอยู่ด้านหน้าของเครื่องยนต์ และสาเหตุที่คนส่วนใหญ่มักจะใช้น้ำยาหล่อเย็นแทนการใช้น้ำเปล่าเติมหม้อน้ำนั้นคือน้ำยาหล่อเย็นสามารถช่วยป้องกันการเกิดสนิมหรือคราบตะกรันสะสม เมื่อใช้งานไปนานๆจะทำให้หม้อน้ำอุดตันและช่วยเพิ่มจุดเดือดของน้ำได้เป็นอย่างดี และการดูแลรักษาหม้อน้ำรถยนต์และน้ำในหม้อน้ำนั้นควรตรวจเช็คอย่างน้อยอาทิตย์ละ 1 ครั้งและควรตรวจสอบอุปกรณ์อื่นๆด้วย เช่น
 
1.ท่อยางหม้อน้ำ การตรวจสอบคือยังคงความยืดหยุ่นโดยใช้มือบีบๆ ท่อยางหม้อน้ำไม่ควรแข็งกรอบหรือมีรอยแตก ฉีกขาด เพราะจะทำให้เกิดการรั่วซึมของน้ำได้ และท่อยางหม้อน้ำนั้นต้องอยู่ในสภาพที่ไม่บวม หรือพับงอเพราะจะทำให้น้ำไหลผ่านไม่สะดวก
 
2.พัดลมหม้อน้ำ ควรอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ปกติ ใบพัดไม่มีแตกหักเพราะจะทำให้ใบพัดหมุนได้ช้าลงและไม่ได้จุดศูนย์กลาง จะทำให้ระบายความร้อนให้กับหม้อน้ำรถยนต์ได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ
 
3.ครีบรังผึ้งหม้อน้ำ ไม่ควรพับงอและมีสิ่งสกปรกต่างๆเช่น แมลง ใบไม้ หรือคราบโคลนต่างๆ มาปิดบังทางลมผ่าน ซึ่งจะทำให้ระบายความร้อนให้หม้อน้ำได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ
 
4.กระปุกหม้อพักน้ำ ควรอยู่ในระดับ MAX เสมอ และไม่ควรเติมจนเต็มหรือเกินขีด MAX เพราะน้ำในระบบที่มีความร้อนและแรงดันจะดันน้ำออกทันที และควรตรวจสอบสภาพของกระปุกหม้อพักน้ำด้วยว่ามีรอยแตกหรือรอยรั่วซึมของน้ำหรือไม่
 
การดูแลรักษาครีบรังผึ้งหม้อน้ำ
1.ควรเป่าสิ่งสกปรกออกจากครีบรังผึ้งหม้อน้ำและไม่ควรใช้น้ำที่มีแรงดันสูงฉีดเข้าหารังผึ้งของหม้อน้ำโดยตรงเพราะจะทำให้แผ่นครีบของหม้อน้ำนั้นล้มหรือพับงอ จนทำให้การระบายความร้อนได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ
 
2.ไม่ควรขับรถลุยน้ำท่วมสูงเพราะสิ่งสกปรกและดินโคลนต่างๆที่อยู่ในน้ำ จะมาเกาะและอุดตันตรงบริเวณครีบรังผึ้งหม้อน้ำ แนะนำว่าเมื่อขับรถลุยน้ำท่วมมาควรจอดรถแล้วสังเกตดูว่ามีหากมีอะไรมาติดบริเวณรังผึ้งควรใช้น้ำฉีดล้างออกทันที และควรเป็นน้ำที่แรงดันไม่สูงมาก
 
3.ควรหลีกเลี่ยงการขับรถตามรถหกล้อหรือสิบล้อที่บรรทุกดินทรายและไม่ควรขับผ่านบริเวณถนนที่มีฝุ่นละอองมากๆเช่น ถนนลูกรัง เพราะจะทำให้ฝุ่นละอองจะเข้าไปสะสมหรือเกาะตามครีบรังผึ้งหม้อน้ำ
 
 การดูแลรักษาและตรวจสอบสภาพของหม้อน้ำรถยนต์เป็นประจำนั้นจะสามารถช่วยยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์และเครื่องยนต์ให้ได้นานขึ้น หากเราเจออาการผิดปกติเกิดขึ้นควรรีบแก้ไขทันที เพราะสาเหตุความร้อนขึ้นอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุด้วยกัน อย่าฝืนขับต่อไปเรื่อยๆเพราะอาจจะทำให้เครื่องยนต์ได้รับความเสียหายตามไปด้วยปลี่ยนหม้อน้ำ ทำเองได้ ไม่ต้องง้อช่าง !
“หม้อน้ำ” เป็นหัวใจหลักในการระบายความร้อนของเครื่องยนต์ หากหม้อน้ำรั่ว หรือชำรุด จะส่งผลต่อการระบายความร้อนของเครื่องยนต์ ทำให้เกิดโอเวอร์ฮีทได้ DIY...คุณทำเองได้ ฉบับนี้ มีขั้นตอนการเปลี่ยนหม้อน้ำด้วยตัวเอง มาฝาก
หม้อน้ำ สำคัญอย่างไร
หม้อน้ำ (RADIATOR) มีหน้าที่ถ่ายเทความร้อนเครื่องยนต์ด้วยของเหลว หรือที่เรียกว่าระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ ซึ่งนิยมในเครื่องยนต์ยุคปัจจุบัน และยังมีพัดลมหน้าเครื่องยนต์เป็นตัวช่วยรักษาอุณหภูมิให้คงที่ตลอดเวลา ทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ    
ประเภทของหม้อน้ำ
หม้อน้ำทองแดง มีจุดเด่นเรื่องความทนทาน ระยะการใช้งานที่ค่อนข้างยาวนาน และยังสามารถซ่อมแซมได้ ข้อด้อย คือ หนัก ระบายความร้อนได้ไม่ดีเท่าอลูมิเนียม เพราะหม้อน้ำทองแดงในปัจจุบัน ส่วนที่เป็นทองแดงจริงๆ จะเป็นครีบระบายความร้อน แต่ส่วนอื่นๆ จะมีส่วนผสมของทองเหลือง และตะกั่ว ซึ่งมีค่าถ่ายเทความร้อนด้อยกว่าอลูมิเนียม และเกิดสนิม   หม้อน้ำอลูมิเนียม มีจุดเด่นเรื่องความเบา สวยงาม ระบายความร้อนได้ดีกว่าแบบทองแดง ไม่มีปัญหาเรื่องสนิม ข้อด้อย คือ อายุการใช้งานสั้นกว่า และถ้าเกิดการรั่วซึมต้องเปลี่ยนอย่างเดียวเท่านั้น    
เมื่อไรควรเปลี่ยนหม้อนํ้าเมื่อใช้งานรถประมาณ 150,000 กิโลเมตร ควรตรวจสอบสภาพของหม้อน้ำว่ามีจุดรั่วซึมหรือไม่ โดยสังเกตจากสีของน้ำยาหม้อน้ำที่ซึมออกมา ถ้าพบควรเปลี่ยน หรือซ่อม นอกจากนี้ ยังมีส่วนที่เป็นพลาสติค เช่น ฝาครอบแผงหม้อน้ำ บน/ล่าง ของหม้อน้ำอลูมิเนียม ต้องตรวจดูเนื้อพลาสติคว่าเสื่อมสภาพหรือยัง ถ้าเริ่มเสื่อมให้รีบเปลี่ยน เพราะเนื้อพลาสติคต้องรับแรงดัน และความร้อน โอกาสฝาครอบแตกขณะขับรถมีสูง    
อุปกรณ์ 1. หม้อน้ำใหม่ 2. คีมปากจิ้งจก 3. ประแจขันบลอค ลูกบลอค และลูกบลอคหัวจีบ 4. กรวยสำหรับกรอกน้ำเข้าหม้อน้ำ    
ขั้นตอนการเปลี่ยนหม้อนํ้า
1. ถ่ายน้ำหม้อน้ำออก   2. ถอดพัดลมไฟฟ้าหน้าเครื่องออก   3. ถอดแผงบนกระจังหน้าออก จะเห็นแผงหม้อน้ำ   4. ถอดแบทเตอรีออก เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการทำงาน    5. ถอดหม้อกรองอากาศออก    6. ถอดสายรัดท่อน้ำบน และล่างออก  7. ดึงหม้อน้ำเก่าออกมา  . ใส่หม้อน้ำใหม่แทนที่ของเดิม และเก็บงาน   9. เติมน้ำ และน้ำยาหล่อเย็นใส่หม้อน้ำ    10. สตาร์ทเครื่องยนต์ ตรวจสอบรอยรั่วครั้งสุดท้ายก่อนใช้งาน
Engine by shopup.com