ซ่อมเกียร์นอกสถานที่อำเภอเขาชะเมา โทร 061-1586756
หมวดหมู่สินค้า: rtd62 ซ่อมรถยนต์นอกสถานที่
08 เมษายน 2565
ผู้ชม 95 ผู้ชม
ถ้าคุณอยู่ในพื้นที่อำเภอเขาชะเมาเกิดรถยนต์เราเสียกลางทาง ขับไม่ได้ และไม่รู้ว่าอู่ซ่อมรถแถวนั้นอยู่ที่ไหน โทรเรียกเราซิค่ะ เราคือ รถยก รถลากจูง รถสไลด์
อู่ซ่อมรถอำเภอเขาชะเมา บริการซ่อมรถยนต์นอกสถานที่
ซ่อมไดนาโมนอกสถานที่อำเภอเขาชะเมา
ซ่อมคลัชนอกสถานที่อำเภอเขาชะเมา
ซ่อมเกียร์นอกสถานที่อำเภอเขาชะเมา
ซ่อมเบรคนอกสถานที่อำเภอเขาชะเมา
ซ่อมหม้อน้ำนอกสถานที่อำเภอเขาชะเมา
สายพานขาดสายพานนอกสถานที่อำเภอเขาชะเมา
น๊อตล้อขาดล้อมีปัญหานอกสถานที่อำเภอเขาชะเมา
เช็คระบบไฟนอกสถานที่อำเภอเขาชะเมา
บริการซ่อมรถนอกสถานที่อำเภอเขาชะเมา
ช่างซ่อมรถอำเภอเขาชะเมา รับซ่อมเครื่องยนต์ วางเครื่อง ท่อไอเสีย ช่วงล่างเบรคครัช รับซ่อมเครื่องยนต์ดีเซล ยุโรป อเมริกา และญี่ปุ่น ด้วยทีมงานที่มีประสบการณ์สูง ผ่านการอบรมด้านเทคนิค อะไหล่ การซ่อมบำรุงให้ใช้งานได้มาตรฐานจากผู้ผลิต
อู่ซ่อมรถยนต์อำเภอเขาชะเมา รับซ่อมไฟแบตโชว์ ไดไม่ชาร์จ รถสตาร์ทไม่ติด ไดสตาร์ทเสีย บริการเปลี่ยนถึงที่
ทุกๆ อาการ ที่รถยนต์เสีย รถยนต์สตาร์ทไม่ติด ไดชาร์จเสีย ไดสตาร์ทเสีย แบตหมด ต้องการพ่วงแบตเตอรี่รถยนต์ บริการซ่อมรถยนต์รวดเร็ว และทันใจท่าน ทันที
ช่างระบบไฟรถยนต์อำเภอเขาชะเมา
แบตหมด รถสตาร์ทไม่ติด แบตเสื่อม แบตเสียเก็บไฟไม่อยู่ ขายแบตเตอรี่รถยนต์ บริการรับซ่อมไดนาโม ไดชาร์ท ไดสตาร์ท ซ่อมมอเตอร์เสีย ระบบไฟรถยนต์
แบตหมด รถสตาร์ทไม่ติด แบตเสื่อม แบตเสียเก็บไฟไม่อยู่ ขายแบตเตอรี่รถยนต์ บริการรับซ่อมไดนาโม ไดชาร์ท ไดสตาร์ท ซ่อมมอเตอร์เสีย ระบบไฟรถยนต์
ศูนย์บริการแบตเตอรี่รถยนต์อำเภอเขาชะเมา
เปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์ บริการพ่วงแบต จั๊มแบตเตอรี่รถยนต์ นอกสถานที่ ด้วยเครื่องจั๊มสตาร์ทคุณภาพสูง บริการรวดเร็ว ทุกพื้นที่
10 ข้อ “ดูแลรถยนต์” รู้ไว้ไม่เสียหายจะได้ซ่อมรถเป็นแบบชิล ๆ
เพื่อน ๆ หลายคนคงจะมีรถขับกันใช่มั้ยครับ วันนี้พี่หมีโกแบร์มีเรื่องที่เป็นประโยชน์กับผู้ใช้รถทั้งหลาย เพราะเชื่อว่าทุกคนคงเคยเจอปัญหารถเสีย รถพังกันอยู่แล้ว วิธีดูแลรถยนต์อย่างเบสิค 10 ข้อต่อไปนี้ จะช่วยให้เพื่อน ๆ ไม่สติแตกเวลารถเสียกลางทาง และสามารถซ่อมรถเองได้ง่าย ๆ นะครับ
1. เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง
เพื่อน ๆ ต้องเช็คน้ำมันเครื่องเป็นประจำนะครับ เพื่อรักษารถให้อยู่ในสภาพดี ขั้นตอนง่าย ๆ คือการถอดหัวอุดน้ำมัน ถอดไส้กรองปล่อยน้ำมันออกจนหมด แล้วใส่กลับเข้าไปใหม่จึงเติมน้ำมันเครื่องใหม่เข้าไปครับ
2. เปลี่ยนยางรถยนต์
ข้อนี้น่าจะเป็นทักษะสำคัญในการดูแลรถยนต์ เพราะยางรถมีความสำคัญมาก ถ้าเพื่อน ๆ เจอยางแบนหรือยางแตกจะได้เปลี่ยนยางเป็นนะครับ เพียงถอดสลักเอายางเก่าออก ใช้แม่แรงยกรถขึ้น ใส่ยางอะไหล่ ขันสลักให้แน่นเท่านั้นเองครับ
3. เปลี่ยนหัวเทียน
หัวเทียนคือปลั๊กเล็ก ๆ ที่ดึงเชื้อเพลิงมาจุดให้เครื่องยนต์เราติดและวิ่งได้นะครับ ถ้าใช้ไปนาน ๆ เจ้าพวกนี้ก็เสื่อมสภาพเหมือนกัน ต้องหมั่นดูแลรถยนต์ให้ดีเสมอนะครับ
4. ลบรอยถลอก
เบื่อจริง ๆ เวลารถมีรอยถลอก ทำให้สีลอกไม่สวยงามเอาซะเลย วิธีแก้ก็แค่เอากระดาษทราบขัดเล็กน้อย แล้วนำครีมลบรอยมาขัด ล้างออกแล้วจึงลงแวกซ์ เท่านี้คุณก็ได้รักษารถให้สวยเหมือนใหม่แล้วครับ
5. เปลี่ยนแบตรถยนต์
เวลารถแบตหมดนี่เซ็งสุด ๆ เลยนะครับ ถ้าอยู่ข้างนอกอาจจะต้องโทรเรียกศูนย์หรือหาคนแถวนั้นมาช่วยจั๊มแบตให้ แต่ถ้าเห็นไฟเตือนตั้งแต่อยู่ที่บ้าน เพื่อน ๆ ก็สามารถเปลี่ยนแบตได้เอง โดยการเอาสายไฟประจุลบออกก่อน แล้วก็เอาก้านแบตออก จากนั้นก็ทำเหมือนกันของประจุบวก เปลี่ยนเอาแบตใหม่มาใส่แทน แล้วก็เสียบก้านแบต แล้วต่อสายเหมือนเดิมครับ
6. เปลี่ยนไฟหน้าหรือไฟท้ายรถ
ไฟรถดับนี่นอกจากจะขับไม่สะดวกแล้วยังอันตรายด้วยนะครับ ซึ่งวิธีซ่อมรถง่าย ๆ อันนี้ ก็แค่ไขน็อตดึงที่ครอบไฟออก เปลี่ยนหลอดแล้วก็ใส่ที่ครอบใหม่เท่านั้นเองครับ
7. เปลี่ยนที่ปัดน้ำฝน
ปกติแล้วเวลาคนเราซ่อมรถเนี่ย เจ้าที่ปัดน้ำฝนมักจะถูกละเลยนะครับ แต่จริง ๆ แล้วถือเป็นส่วนที่สำคัญมาก โดยเฉพาะช่วยป้องกันอุบัติเหตุเวลาฝนตก เราต้องคอยดูแลและเปลี่ยนใหม่ถ้าจำเป็นครับ
8. เปลี่ยนเครื่องกรองอากาศ
เจ้านี่ก็สำคัญมากนะครับ เพราะเป็นตัวกันฝุ่นและกรองเชื้อโรคได้อย่างดี เครื่องกรองอากาศราคาไม่แพง เพราะฉะนั้นต้องรักษารถโดยเปลี่ยนเจ้านี่ทุกปีเพื่อให้รถเราสะอาดอยู่เสมอนะครับ เปลี่ยนได้จากฝากระโปรงหน้าไม่ยากเลยครับ
9. เปลี่ยนผ้าเบรค
อันนี้สำคัญมากสำหรับการดูแลรถยนต์นะครับ เพราะชีวิตเราแทบจะแขวนอยู่บนสภาพผ้าเบรคกันเลยทีเดียว ซึ่งการเปลี่ยนผ้าเบรคก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไรเลยครับ แค่มุดไปเปลี่ยนใต้รถนิดหน่อย
10. จั๊มแบตเตอรี่รถยนต์เอง
อันนี้เป็นเรื่องเบสิคที่ควรทำเป็นกันนะครับ ถ้ารถของเพื่อน ๆ สตาร์ทไม่ติด ก็แค่ดับเครื่องรถ เข้าเกียร์ว่าง เอาสายพ่วงเบรคสีแดงมาต่อกับขั้วบวกของทั้งสองคัน และสีดำต่อกับขั้วลบ แล้วก็ลองสตาร์ทรถ เท่านี้ก็เรียบร้อยแล้วล่ะครับ
ประกันรถมอเตอร์ไซค์ จำเป็นต้องมีหรือไม่ ?
ในปัจจุบัน รถจักรยานยนต์ หรือมอเตอร์ไซค์ หรือแม้แต่บิ๊กไบค์เอง นับได้ว่าเป็นยานพาหนะที่เหนือกาลเวลา ไม่ว่ายุคไหนๆ ก็ล้วนได้รับความนิยม ด้วยราคาที่ถูกกว่ารถยนต์ อีกทั้งยังใช้ในการเดินทางระยะใกล้ได้สะดวกรวดเร็วกกว่า ใช้ประกอบอาชีพหลัก หรืออาชีพเสริมก็สามารถทำได้ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งยานพาหนะสารพัดประโยชน์ก็ว่าได้
แต่ทั้งนี้ การขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ก็จะมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุมากกว่ารถยนต์ด้วย ฉะนั้นการทำประกันรถมอเตอร์ไซค์ จึงเป็นเรื่องสำคัญ และไม่ควรมองข้าม ว่าแต่จำเป็นมากแค่ไหน ไปหาคำตอบกันดีกว่า
รู้จักให้มากขึ้นกับประกันรถมอเตอร์ไซค์
ประกันรถมอเตอร์ไซค์ คือ กรมธรรม์ที่ให้ความคุ้มครองเพื่อดูแลในทรัพย์สิน ชีวิต และร่างกายของผู้ซื้อประกัน รวมถึงค่ารักษาพยาบาล จากอุบัติเหตุที่เกิดจากมอเตอร์ไซค์ ตามที่ได้ทำเอาไว้
ในปัจจุบันกรมธรรม์ประกันมอเตอร์ไซค์ก็มีอยู่ด้วยกันหลายหลายบริษัทประกันที่ออกมาเพื่อรองรับความต้องการของผู้ขับขี่ โดยทั่วไปแล้ว ประกันรถมอเตอร์ไซค์ มีทั้งหมด 2 แบบ ด้วยกันดังนี้
- ประกันภาคบังคับ (พรบ.)
เป็นการทำประกันรถมอเตอร์ไซค์ ที่กฎหมายบังคับให้จักรยานยนต์ทุกคันต้องทำประกันภัย หากไม่ทำ หรือ พรบ. หมดอายุแล้วไม่ต่ออายุ ถือว่าผิดกฎหมาย มีโทษปรับ ในปัจจุบันการต่อ พรบ. เหล่านี้ ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะคุณสามารถต่อ พรบ. ได้ทางออนไลน์ หรือต่ออายุ พร้อมๆ กับการทำประกันภาคสมัครใจ ก็สามารถทำได้เช่นกัน
- ประกันภาคสมัครใจ
เป็นการเลือกทำประกันรถมอเตอร์ไซค์ที่สามารถเลือกได้ว่า จะทำหรือไม่ ถ้าไม่ทำก็ไม่ถือว่าผิดกฎหมาย แต่หากเลือกทำ ก็จะได้ความคุ้มครองต่างๆ เพิ่มเติมขึ้นเมื่อเกิดอุบัติเหตุ สามารถเลือกได้ตามใจผู้ทำประกันว่า ทำประกันชั้นไหน ของบริษัทใด ซึ่งความคุ้มครองต่างๆ ก็จะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับประเภทประกันที่ทำด้วย เช่น ประกันรถมอเตอร์ไซค์ 125 cc หรือ ประกันรถมอเตอร์ไซค์ bigbike เป็นต้น
จำเป็นมากแค่ไหน ที่ต้องทำประกันรถมอเตอร์ไซค์
ปฎิเสธไม่ได้เลยว่า มอเตอร์ไซค์ถือเป็นพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย และความสูญเสียก็มากเมื่อเทียบกับยานพาหนะอื่นๆ เนื่องจากมอเตอร์ไซค์เป็นรถขนาดเล็ก และถึงแม้จะเป็นมอเตอร์ไซค์คันใหญ่อย่างบิ๊กไบค์ ก็ยังถือว่าเล็กกว่าพาหนะอื่นๆ บนท้องถนนอยู่ดี อีกทั้งการขับขี่มอเตอร์ไซค์ แม้จะมีการสวมใส่อุปกรณ์ต่างๆ ทั้ง หมวกกันน็อค หรือเพิ่มความระมัดระวังในการขับขี่ให้มากเป็นพิเศษ แต่โอกาสเกิดอุบัติเหตุก็มีสิทธิ์เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
จริงอยู่ที่ตามกฎหมายแล้ว ได้มีการบังคับให้ผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์ทุกคนทำ พรบ. เพื่อเพิ่มความคุ้มครองได้อย่างทั่วถึง แต่ต้องยอมรับว่า พรบ. เอง มีความคุ้มครองต่างๆ ที่จำกัด วงเงินการรักษาพยาบาล หรือชดเชยค่าเสียหายต่างๆ อาจจะไม่สูงมากนัก
เช่น ประกันรถมอเตอร์ไซค์ bigbike เนื่องจากบิ๊กไบค์หลายรุ่น เพราะค่าซ่อมแซมจากอุบัติเหตุ มีราคาสูง อะไหล่หายาก หรือ ประกันรถมอเตอร์ไซค์ 125 cc แม้ว่าส่วนมาก รถมอเตอร์ไซค์ 125 cc เป็นรุ่นยอดนิยม หาอะไหล่ไม่ยาก ซ่อมไม่ยาก แต่หากเกิดอุบัติเหตุ มีค่ารักษาพยาบาล ก็อาจจะทำให้คุณเกิดภาระด้านการเงินที่คาดไม่ถึงได้