รถยกกับรถลาก คืออะไร
1.รถยก หรือเรียกอีกอย่างว่ารถสไลด์
เหมาะสำหรับรถที่ขับเคลื่อนด้วย 4 ล้อ เน้นบริการรถที่เสียหายหนัก จนไม่สามารถใช้รถลากได้ วิธีการย้ายจะเป็นการนำรถที่เสียหายนั้นลากขึ้นไปบนรถกระบะหรือรถบรรทุกขนาดใหญ่ เพียงแค่บรรทุกไปโดยไม่ต้องลากตลอดทาง จะลากเฉพาะตอนขึ้นกับลงเท่านั้น เป็นวิธีที่ปลอดภัยกับช่วงล่างของรถยนต์มากที่สุด
2.รถลาก
สำหรับรถลากจะเป็นบริการ เคลื่อนย้ายรถยนต์แบบลากจูง เหมาะสำหรับรถที่ขับเคลื่อนด้วย 2 ล้อ ทั้งล้อหน้าและล้อหลัง โดยอาศัยอุปกรณ์
เช่น เชือก สลิง และแป๊ปลาก ส่วนใหญ่มืออาชีพนิยมใช้สลิงมากที่สุด เพราะมีความยืดหยุ่น ทนทานต่อการใช้งาน
ซึ่งรถที่ใช้ลากจูงนั้นก็จะเป็นรถกระบะ หรือรถที่มีกำลังมากพอในการลากจูง ข้อดีก็คือรถลากจะมีราคาถูกกว่ารถยก
แต่ถ้าจำเป็นต้องเคลื่อนย้ายวิธีนี้ก็ควรใช้ความระมัดระวังอย่างสูง
รถยก รถลาก ต่างกันอย่างไร สถานการณ์ไหนที่ควรเรียกใช้บริการ
หลายคนอาจจะมีโอกาสได้ใช้บริการรถยก-รถลากจากอุบัติเหตุหรือรถเสียกลางทางกันมาบ้าง ซึ่งผู้ใช้รถบางท่านอาจยังไม่ทราบข้อแตกต่างและเลือกใช้ผิดวัตถุประสงค์กันอยู่ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญเลยทีเดียวเพราะนำมาซึ่งการเสียค่าใช้จ่ายโดยใช่เหตุ วันนี้เรามาลองมาทำความเข้าใจไปพร้อมกันเลยครับ
รถยกและรถลากคืออะไร ใช้งานอย่างไร
เมื่อรถของคุณเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นไม่ว่าจะเป็น รถเสีย รถสตาร์ตไม่ติด หรือรถเกิดอุบัติเหตุ รถยก-รถลากจะถูกนำมาใช้สำหรับเคลื่อนย้ายรถของคุณไปยังอู่ซ่อม เป็นการช่วยอำนวยความสะดวก รวดเร็ว และอาจลดความเสียหายจากการเคลื่อนย้ายได้ครับ ซึ่งคุณสามารถเรียกใช้บริการรถยก-รถลากได้จากอู่ซ่อม ศูนย์ซ่อม หน่วยงานต่าง ๆ หรือผู้ให้บริการเอกชนนั่นเอง
รถยก
รถยก หรือเรียกอีกอย่างว่ารถสไลด์ เหมาะสำหรับรถที่ขับเคลื่อนด้วย 4 ล้อ (4-wheel drive) ที่เสียหายหนักจนไม่สามารถสตาร์ตหรือลากได้ วิธีการย้ายคือ นำรถที่เสียหายขึ้นไปบนกระบะหรือถาดสไลด์ จากนั้นรถยกจะทำหน้าที่บรรทุกรถที่เสียหายจากจุดเกิดเหตุไปยังอู่ซ่อมด้วยความปลอดภัย ด้วยระบบล็อกติดอย่างแน่นหนา ทำให้ช่วงล่างของรถยนต์ไม่เกิดการกระแทก เป็นการช่วยลดความเสี่ยงที่จะเสียหายเพิ่มขึ้นขณะเคลื่อนย้ายครับ
รถลาก
รถลาก เป็นรถที่ทำหน้าที่ตรงตามชื่อเลยคือ ใช้สำหรับลากจูงรถที่เสียหายไม่หนักมาก เหมาะกับรถที่ขับเคลื่อนด้วย 2 ล้อ (2-wheel drive) ทั้งล้อหน้าและล้อหลัง โดยรถที่ใช้ลากนั้นจะต้องมีกำลังมากพอในการลากรถอีกคัน และอุปกรณ์ช่วยลากไม่ว่าจะเป็น เชือก สลิง หรือแป๊บลาก จะต้องทนทานเหมาะสมกับแรงดึงด้วยเช่นกัน และความเสี่ยงที่รถจะเสียหายจากการลากจูงก็มีไม่น้อยเลยทีเดียว
หลักการใช้บริการของรถยก-รถลาก อาจจะดูคล้ายคลึงกันนะครับ แต่ยังมีความแตกต่างที่เป็นทั้งข้อดีและข้อเสียอยู่บ้างในเรื่องของ “ราคา” และ “ความปลอดภัย” โดยรถยกอาจมีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าแต่กลับปลอดภัยกว่ารถลาก ในขณะที่ รถลากมีค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่าแต่มีความเสี่ยงที่รถจะได้รับความเสียหายบริเวณช่วงล่างขณะเคลื่อนย้ายนั้นมีมากกว่ารถยก
สถานการณ์ไหนที่ควรรถยกและรถลาก
รถยก
บางท่านเลี่ยงไม่ใช้บริการรถยกเนื่องจากสู้ราคาไม่ไหว อย่างที่บอกไปข้างต้นว่ารถยกมีค่าบริการที่สูง อาจจะเริ่มต้นที่ 1,000 – 3,000 บาท และคำนวณเพิ่มไปตามระยะทาง แต่พี่กู๊ดไม่ได้อยากให้มองเรื่องราคาเป็นปัจจัยแรก แต่ควรประเมินความเสียหายของรถคุณเป็นหลักก่อน หากเกิดความเสียหายมากก็ควรเลือกใช้บริการรถยกครับ เพราะหากคุณใช้รถลากในขณะที่รถของคุณเกิดความเสียหายอย่างหนัก นั่นอาจทำให้รถคุณพังหนักกว่าเก่าจากแรงกระแทก เผลอ ๆ คุณอาจต้องจ่ายค่าซ่อมรถที่สูงกว่าค่าบริการรถยกก็เป็นได้
รถลาก
ในทางกลับกัน หากรถของคุณเสียหายไม่มาก ล้อและกลไกขับเคลื่อนยังพอทำงานได้เป็นส่วนใหญ่ การใช้บริการรถลากอาจเป็นทางเลือกที่ประหยัดกว่ารถยก แต่อย่าลืมคำนวณระยะทางจากจุดเกิดเหตุด้วยว่าไกลกับอู่ซ่อมหรือศูนย์ซ่อมหรือไม่ หากไกลมากอาจจะเลือกเป็นบริการรถยกเพื่อความปลอดภัยในการเคลื่อนย้ายรถยนต์ของคุณครับ
ข้อดีการใช้รถยกขนย้ายรถ มีดังนี้
- รถยก/รถสไลด์ เหมาะสำหรับรถยนต์ใหม่ รถซุปเปอร์คาร์ และรถโหลดต่ำซึ่งจะช่วยดูแลช่วงล่างของรถยนต์ได้เป็นอย่างดี
- การใช้รถยกจะมีความปลอดภัยกับตัวรถยนต์ดีเยี่ยม มีระบบล็อคแน่นหนา ปลอดภัยในระหว่างการขนย้ายแน่นอน ไม่ทำให้ช่วงล่างของรถยนต์เสียหายด้วยล่ะ
- การใช้รถยกนั้น เหมาะสำหรับบริการรถยนต์เสียหายหนัก และมีความจำเป็นต้องยกไปซ่อมอู่ซ่อมในระยะทางไกล ๆ ตั้งแต่ 20 กิโลเมตรขึ้นไป
