9423218

น้ำตกหินเทียมกระบี่ โทร 098-1682236

หมวดหมู่สินค้า: rtd48 หล่อพระ

02 เมษายน 2565

ผู้ชม 76 ผู้ชม

 

โรงหล่อพระ พระพุทธรูป ทุกขนาด ทุกแบบ รับสั่งทำตามต้องการ รับหล่อพระตามแบบประสบการณ์กว่า 40ปี หล่อพระพุทธรูป บริการ หล่อพระประธาน หล่อพระตามแบบ
ช่างบูรณะองค์พระพุทธรูปกระบี่  
ช่างจิตรกรรมฝาผนังกระบี่  
ช่างสีบูรณะโบสถ์กระบี่  
น้ำตกหินเทียมกระบี่  
น้ำตกจำลองกระบี่  
ปั้นหุ่นรูปเหมือนกระบี่  
ไฟเบอร์กลาสกระบี่  
ช่างปั้นหุ่นขี้ผึ้งกระบี่  
ช่างหล่อโลหะกระบี่  
งานหล่อทองเหลืองกระบี่  
 
          ช่างโรงหล่อพระ ปั้นหินเทียม

- ช่างปิดทองกระบี่ - ช่างปิดกระจก - ช่างลายปูนปั้น - ช่างจิตรกรรมฝาผนัง - ช่างดีดโบสถ์
- ช่างทำลายรดน้ำปิดสีทองคำเปลว. บริการแนะนำช่างฝีมืองานวัด
ยกโบสถ์กระบี่ ดีดโบสถ์ ย้ายโบสถ์ หมุนโบสถ์ เสริมฐานรากโบสถ์ แก้ไขโบสท์ทรุดตัว ซ่อมโบสถ์ทรุด ยกอาคาร


 
รงหล่อพระกระบี่ ไฟเบอร์กลาส  หล่อพระ  รับปั้นรูปเหมือนกระบี่ งาน ประติมากรรม รูปหล่อไฟเบอร์พระ  หุ่นขี้ผึ้ง  ไฟเบอร์กลาสราคา  หุ่นไฟเบอร์กลาส  ช่างปั้นพระพุทธ รูปรับทำหุ่นขี้ผึ้ง สร้าง พระประธาน   รับหล่อพระ  รับปั้นหุ่น หุ่นขี้ผึ้ง พระเกจิ  รับปั้นพระพุทธรูป
 

วิธีการดูพระเครื่อง “พระแท้-พระเก๊”
 
วันนี้ขอเอาใจคนชอบพระเครื่อง มีเทคนิคเบื้องต้นในการแยก "พระแท้-พระเก๊" ซึ่งปัจจุบันก็แยกยากมาก เพราะพระเก๊นั้นก็ทำได้เหมือนพระแท้เหลือเกิน แถมบางทียังปลอม "สวยกว่าของแท้" เสียอีกaขั้นตอนการสร้าง
 
ขั้นตอนการปั้นหุ่น

ช่างปั้นโบราณจะใช้ดินเหนียวคุณภาพดีมีสีเหลืองเรียกว่า “ดินขี้งูเหลือม” นวดผสมกับทรายละเอียด โดยการเหยียบให้เข้ากัน จากนั้นจึงเริ่มปั้นส่วนต่างๆ ขึ้นมาเป็นองค์พระ ถ้าเป็นการปั้นพระพุทธรูปขนาดใหญ่ อาจต้องปั้นส่วนต่างๆ ของพระวรกายแยกกัน เช่น นิ้วพระหัตถ์ นิ้วพระบาท พระกรรณ รัศมี และเม็ดพระศก แล้วจึงนำมาประกอบกันในภายหลัง แล้วตกแต่งองค์พระทั้งด้านนอกและแกนในให้ได้สัดส่วนสวยงามเกลี้ยงเกลาตามศิลปะสมัยนิยม
 
เมื่อปั้นหุ่นหรือพิมพ์ได้รูปแล้วก็มาถึงขั้นตอน การเข้าขี้ผึ้ง นับเป็นงานฝีมืออีกอย่างหนึ่งที่ต้องอาศัยประสบการณ์และความชำนาญอย่างมาก (ขี้ผึ้งทำมาจากรังผึ้งที่ต้มเคี่ยวจนนิ่มติดมือ แล้วนำไปผสมกับยางชันกรองด้วยผ้าขาวบางจนได้เนื้อขี้ผึ้งละเอียด) แช่พิมพ์ในน้ำสักพัก จากนั้นทาดินเหนียวบางๆ ทั้งสองด้านของพิมพ์เพื่อเคลือบให้ผิวดินและทรายเป็นเนื้อเดียวกัน กรอกขี้ผึ้งลงไปในพิมพ์ให้เต็มแล้วเทออกใส่อ่างน้ำ ในกระบวนการนี้ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากความร้อนจากขี้ผึ้งหลอมละลายมีอานุภาพทำให้มือและนิ้วแดงพองได้
 
ปั้นขี้ผึ้งที่เทลงอ่างเป็นแท่งกลมยัดลงพิมพ์ให้แน่นที่สุด ใช้มีดเฉือนขี้ผึ้งส่วนเกินออก แช่พิมพ์ลงในน้ำสักพักก็สามารถแกะแบบพระพิมพ์ขี้ผึ้งออกมาได้ ส่วนรายละเอียดปลีกย่อยอื่นๆ จะใช้วิธีตีลาย คือนำขี้ผึ้งวางบนลายพิมพ์แล้วใช้ไม้รวกบดขี้ผึ้งจนเป็นลายตัดออกมาประกอบกับองค์พระ
 
ก่อนนำไปหล่อต้องทามูลวัวลงบนหุ่นพระขี้ผึ้งเสียก่อน เพื่อให้เนื้อของแบบพิมพ์เรียบสนิท ที่สำคัญคือช่วยรักษาความชัดเจนของรูปร่างและลวดลายขององค์พระไว้อย่างดีด้วย (ส่วนผสมที่เรียกว่ามูลวัว คือ การนำมูลวัวสดๆ มาคั้นเอาแต่น้ำ กรองด้วยผ้าขาวบาง จากนั้นนำมาผสมกับดินนวล) ทามูลวัวลงบนหุ่นพระขี้ผึ้งซ้ำไปซ้ำมา 3 ชั้น ตอกทอยเข้าไปในหุ่นเพื่อรับน้ำหนักให้สมดุลกัน (ทอยส่วนใหญ่มักทำด้วยเหล็ก) หุ่นที่ทามูลวัวเมื่อแห้งดีแล้วนำมาพอกด้วยดินเหนียวผสมทรายให้ทั่วอีกรอบ ก่อนนำออกผึ่งลมหรือตากแดดให้แห้งสนิท
 
กรรมวิธีต่อไป คือ การเข้าลวด ขั้นตอนนี้เป็นอีกขั้นตอนหนึ่งที่สำคัญเพราะลวดที่พันรอบหุ่นคือเกราะป้องกันการแตกตัวของดินเมื่อได้รับความร้อน หุ่นพระจะเสียหายและอาจต้องเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่หากดินแตก เมื่อผูกเหล็กเรียบร้อยแล้ว นำดินเหนียวพอกทับแม่พิมพ์อีกครั้งให้มิดลวด ขั้นตอนนี้เรียกว่า ทับปลอก จากนั้นจึงปั้นปากจอกหรือชนวนปิดบริเวณปากทางที่จะเททอง
 
ขั้นตอนการหล่อพระพุทธรูป
ภาษาช่างเรียกขั้นตอนการหล่อพระพุทธรูปว่า “การเททอง” หมายถึง การสุมทองหรือหลอมโลหะ เช่น ทองเหลือง ทองแดง ทองสัมฤทธิ์ ให้ละลายเป็นของเหลวแล้วเทโลหะหรือทองนั้นลงในแม่พิมพ์ การหลอมโลหะนับเป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยเวลาและความอดทน โดยเฉพาะทองแดง ต้องใช้เวลาหลอมละลายไม่ต่ำกว่า 10 ชั่วโมง
 
การหล่อพระนิยมใช้ฟืนเป็นเชื้อเพลิงเผาหุ่นและใช้ถ่านเป็นเชื้อเพลิงในการหลอมโลหะ ก่อนเททองต้องทำการสุมไฟหุ่นให้ร้อนจัด เพื่อสำรอกขี้ผึ้งที่ปั้นเป็นหุ่นอยู่ภายในหลอมละลายไหลออกมาจากแม่พิมพ์ ทางช่องชนวนจนหมด และเผาแม่พิมพ์ต่อไปจนสุกพร้อมที่จะเททองหล่อพระได้
 
การหล่อพระพุทธรูปขนาดใหญ่ต้องทำนั่งร้านสำหรับเททอง พระพุทธรูปที่มีขนาดใหญ่หรือมีความสูงมากๆ จะใช้วิธีหล่อเป็นสองท่อนแล้วนำมาประกบกัน เมื่อเผาแม่พิมพ์ได้ที่ขณะเดียวกับทองที่หลอมในเบ้าละลายดีแล้ว ก็เตรียมยกเบ้าทองไปเทลงในแม่พิมพ์ได้เลย การเททองต้องเทติดต่อกันมิฉะนั้นจะไม่ต่อเป็นเนื้อเดียว
 
ภายหลังการเททองเสร็จแล้วต้องปล่อยให้ทองในแม่พิมพ์เย็นตัวจึงจะจัดการทุบแม่พิมพ์ดินออกได้ รื้อแก้ลวดที่รัดแม่พิมพ์ออกให้หมด ถอนหรือตัดทอยออกแล้วใช้ตะไบหยาบขัดให้ทั่วทุกมุม พระพุทธรูปสำเร็จก็จะปรากฏให้เห็นอย่างเด่นชัด
 
ขั้นตอนการปรับแต่งพระพุทธรูป
 
พระพุทธรูปเมื่อทุบแม่พิมพ์ออกแล้วผิวพื้นขององค์พระจะไม่เรียบ มีคราบเผาไหม้ปรากฏอยู่โดยทั่ว ดังนั้น เมื่อทำการหล่อแล้วจึงต้องมีการขัดแต่งผิวให้มันเงา ขั้นตอนการขัดมันในปัจจุบันนิยมใช้เครื่องขัดกดจี้กับองค์พระจนผิวเรียบเกลี้ยง จากนั้นเปลี่ยนผ้าขัดเงาให้เป็นผ้าที่มีความนิ่มปุยขัดต่อโดยใช้ยาขัดเงาสีแดงเป็นตัวเพิ่มความแวววาว จากนั้นจึงลงรักปิดทองด้วยการนำองค์พระล้างน้ำให้สะอาดก่อนลงรัก ใช้น้ำรักผสมสมุกบดให้เข้ากันจนข้นแข็งไม่ติดมือ นำน้ำรักมาเกลี่ยให้ทั่วองค์พระปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 10-20 วัน
 
 
อย่างแรกที่ต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับพระเครื่อง นั่นคือ ไม่มีสถาบันไหนเปิดสอนวิธีการดูพระแท้พระเก๊ ดังนั้นท่านต้องให้ความสนใจหมั่นศึกษาค้นหาข้อมูลเอง หรือการได้พูดคุยสนทนากับคนเล่นพระ เซียนพระเก่งๆ ที่จะช่วยให้คำแนะนำ พระเครื่องแต่ละประเภททั้งเนื้อผง, เนื้อดิน, พระเหรียญ ฯลฯ ก็จะมีวิธีดูที่แตกต่างกันออกไป เช่น ถ้าชอบพระเหรียญก็ต้องศึกษาเรื่องรอยตัดปั๊มขอบเหรียญ เซียนพระส่วนใหญ่ถ้าศึกษาในเรื่องใดก็จะเก่งในทางนั้น สำหรับคนที่ไม่ศึกษา หรือไม่มีข้อมูล ก็มักจะโดนหลอก อย่าลืมว่าพระเก๊นั้นปลอมได้แม้แต่ "ตำหนิ" ของพระ
 
คำแนะนำในการศึกษาอย่างง่ายๆ
 
- ศึกษาประวัติความเป็นมาให้ชัดเจน จำนวนการสร้าง วัสดุหรือเนื้อพระ อายุของวัสดุกี่ปี ความเสื่อมสภาพของวัสดุต้องมีความเก่าตามอายุการสร้าง รวมถึงกรรมวิธีการสร้างพระแต่ละพิมพ์แต่ละประเภทจะไม่เหมือนกัน ซึ่งถ้าศึกษาในจุดนี้ก็จะทำให้เราสามารถพิจารณาลักษณะพระแท้-พระเก๊ ได้ว่าแตกต่างกันตรงไหนอย่างไร
- ศึกษาจากรูปภาพ ถ้าไม่มีองค์จริงก็หาดูรูปไปก่อน โดยดูจากสื่อต่างๆ ที่เชื่อถือได้หรือซื้อรูปถ่ายพระมาดู ประกอบกับศึกษาประวัติที่มาไปด้วยจะทำให้เข้าใจได้เร็ว
- เช่าเพื่อศึกษาและใช้เทียบ หาเช่าพระจากเซียนหรือผู้ที่ไว้ใจได้เพื่อศึกษา
- พระแท้ไม่มีถูก ไม่ว่าจะราคาหลักร้อย จนถึงหลักแสน หรือหลักล้าน ก็มีปลอมหมด ถ้าดูไม่ละเอียดแต่ชอบเพราะราคาถูก อาจจะโดนของปลอมหลอกได้ อย่าซื้อพระเครื่องเพราะเห็นแก่ของถูก พระแท้ราคาถูกนั้นอาจมีแต่ก็น้อยมาก
 
วิธีการดูพระแท้-พระเก๊
 
1. ดูความเก่าของพระตามประเภท และความเสื่อมสภาพของวัสดุ จะต้องมีความเก่าแก่ตามอายุการสร้าง
2. พิมพ์ถูกต้อง
3. ตำหนิครบ
4. ความสมบูรณ์ขององค์พระ มีรอยบิ่น หัก ร้าว หรือไม่
5. ราคา ขึ้นอยู่กับระดับตลาดและความสมบูรณ์ขององค์พระ
 
การเล่นพระสมัยก่อนนั้นคนอาจคิดว่าการเช่าพระ ปล่อยพระ นั้นเป็นบาป แต่หากคุณเล่นพระอย่างถูกวิธี ผู้ขายประกอบอาชีพบนพื้นฐานซื่อสัตย์ สุจริต ไม่ไปหลอกลวงใคร ไม่เอาของปลอมไปปล่อยขายใคร ก็ถือเป็นเจตนาดี และนำเงินจากการขายพระไปทำบุญใส่บาตรบ้าง ก็จะช่วยให้เกิดความสบายใจได้
 
สำหรับผู้ที่จะเข้ามาซื้อ-ขายพระเครื่อง นอกเหนือจากดูจากภาพถ่ายในเว็บไซต์แล้ว อย่าลืมนัดดูของจริงเพื่อพิจารณากันด้วยเน้อ
 
Engine by shopup.com