การยกบ้านและดีดบ้านควรทำภายใต้การควบคุมดูแลจากวิศวกรโครงสร้างที่มีประสบการณ์และเชียวชาญเพื่อให้บ้านที่ทำการยกได้มาตรฐานและไม่เกิดการทรุดตัวหลังจากทำสำหรับสิ่งที่คุณควรทราบก่อนการทำจะได้แก่
1. การยกบ้านและดีดบ้านตามหลักกฎหมายถือเป็นการดัดแปลงอาคารดังนั้นก่อนทำคุณจำเป็นต้องขออนุญาตต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นกันเสียก่อนและตามกฎหมายต้องมีวิศวกรเป็นผู้ออกแบบและควบคุมงาน
2. การยกบ้านจำเป็นต้องเพิ่มบันไดหรือทำทางลาดเพื่อเข้าสู่ตัวบ้านทำให้พื้นที่ในการใช้สอยแตกต่างไปจากเดิม ซึ่งอาจจะส่งผลต่อผู้พักอาศัยบางคนได้โดยเฉพาะเด็กและผู้สูงอายุที่ต้องเดินขึ้นบันไดที่สูงขึ้นกว่าเดิม
3. ค่าใช้จ่ายในการดีดบ้านจะค่อนข้างสูงหรืออาจจะประมาณครึ่งหนึ่งของการปลูกบ้านใหม่กันเลยทีเดียวดังนั้นเจ้าของบ้านจึงควรพิจารณาในเรื่องนี้ให้ดีว่าต้องการดีดบ้านหรือนำเงินไปปรับปรุงบ้านในส่วนอื่นเพื่อให้ได้บ้านที่สวยและสมบูรณ์แบบกว่าในปัจจุบัน
4. ควรศึกษาข้อมูลต่างๆ ของผู้รับยกบ้านอย่างละเอียดถี่ถ้วนว่าสามารถทำการยกบ้านได้จริงและมีประสบการณ์ในการทำเพราะคุณต้องเสียค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงดังนั้นผลงานที่ออกมาควรได้มาตรฐานและมีคุณภาพ รวมไปถึงต้องปลอดภัยสำหรับทุกคน
ข้อคิดในกรณีที่อยากจะดีดบ้านข้อคิดในกรณีที่อยากจะดีดบ้าน
1. วิศวกรโครงสร้างที่มีความเชี่ยวชาญ สามารถดีดอาคารได้แทบทุกชนิด ทั้งโครงสร้างไม้, คอนกรีตเสริมเหล็ก หรือแม้แต่โครงสร้างเหล็ก แต่อาคารที่เหมาะในการยก คืออาคารเป็นหลังเดี่ยว เช่น บ้านเดี่ยว ไม่เหมาะสำหรับตึกแถวหรือทาวน์เฮ้าส์ เพราะการดีดจะต้องทำทั้งหลัง ไม่สามารถทำเฉพาะส่วนได้ ส่วนตึกแถวหรือทาวน์เฮ้าส์ หากต้องการทำ ต้องทำพร้อมกันทั้งแถว64477
2. การดีดหรือยกอาคาร ตามกฎหมายแล้วถือเป็นการดัดแปลงอาคาร จำเป็นต้องมีการยื่นขออนุญาตต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่น ซึ่งตามกฎหมายต้องมีวิศวกรออกแบบและควบคุมงาน เพื่อรับผิดชอบการทำงานดังกล่าว
3. ระดับน้ำท่วมในปี 2554 ไม่ใช่ระดับน้ำท่วมที่สูงที่สุดเท่าที่จะมีได้ เนื่องจากน้ำท่วมดังกล่าวเกิดจากความผิดพลาดในการบริหารจัดการน้ำระดับประเทศ ดังนั้น หากเกิดความผิดพลาดขึ้นอีก ไม่สามารถตอบได้ว่าน้ำจะท่วมในบริเวณเดิมอีกหรือไม่ หรือจะท่วมแค่ไหน อาจจะมากกว่าที่เคยท่วมก็ได้ เพราะหลังเหตุการณ์น้ำท่วมแล้ว ส่วนราชการในแต่ละพื้นที่ก็ต้องจัดทำแผน เพื่อป้องกันพื้นที่ของตนเอง ดังนั้น ไม่สามารถคาดเดาได้ยะลาว่า หากยกบ้านหนีน้ำแล้ว ระดับที่ยกนั้นจะเพียงพอ1305642962_42474238_6—
4. การดีดบ้านขึ้น จะทำให้ต้องมีการเพิ่มบันได หรือทางลาดเพื่อขึ้นบ้าน ดังนั้น การใช้สอยของตัวบ้านจะผิดจากลักษณะในปัจจุบัน ซึ่งอาจไม่เหมาะสมสำหรับผู้สูงอายุในการเข้าถึงตัวบ้าน เนื่องจากต้องเดินขึ้นบันไดที่ตามความสูงมากขึ้น
5. ค่าใช้จ่ายในการดีดบ้านค่อนข้างสูง เคยมีผู้ประเมินไว้ว่าประมาณครึ่งหนึ่งของราคาค่าก่อสร้างบ้านใหม่ขนาดเท่ากับบ้านที่จะดีด ดังนั้น ท่านเจ้าของบ้านควรพิจารณาว่า การดีดบ้านเพื่อให้สูงขึ้น แล้วได้บ้านเดิมสภาพเดิม เทียบกับการก่อสร้างบ้านใหม่ยะลา เพื่อให้ได้สภาพบ้านที่สมบูรณ์กว่า อย่างไหนคุ้มกว่ากัน
6. การดีดบ้านจำเป็นจะต้องใช้วิศวกรโครงสร้างผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น แม้แต่วิศวกรบางท่านที่มีประสบการณ์ในการก่อสร้างทั่วไปก็ยังยากที่จะสามารถทำงานแบบนี้ได้ ดังนั้น หากต้องการจ้างผู้มาดำเนินการดีดบ้าน ขอให้ตรวจสอบประสบการณ์และบุคลากรให้ดีว่าสามารถทำได้จริง แนะนำว่าควรขอข้อมูลของบ้านที่บริษัทเคยยก แล้วลองโทรไปคุยว่าการบริการเป็นอย่างไร เพื่อเป็นข้อมูลในการพิจารณา
ข้อควรระวังก่อนดีดบ้าน
ก่อนที่จะตัดสินใจว่าจ้างผู้รับเหมา เจ้าของบ้านควรศึกษาวิธีการและข้อควรระวังในการดีดบ้านให้เข้าใจเสียก่อน เพื่อที่จะสามารถตรวจเช็คการทำงานของช่างผู้รับเหมาเพื่อให้บ้านเกิดความปลอดภัยมากที่สุด โดยข้อควรระวังก่อนดีดบ้านมีทั้งหมด 7 ข้อ ดังต่อไปนี้
1. ศึกษาและตรวจสอบสภาพบ้านให้ดี ขั้นตอนแรกและเรียกได้ว่าเป็นหัวใจหลักของการดีดบ้านคือการประเมินโครงสร้างของบ้าน ว่าสามารถยกระดับได้มากน้อยแค่ไหน มีจุดผุกร่อนส่วนไหนของบ้านบ้างหรือไม่
2. วางแผนงบประมาณและประเมินราคาดีดบ้าน บางครั้งเจ้าของบ้านมักคิดว่าการซ่อมจะต้องใช้ค่าใช้จ่ายพอ ๆ กับการรื้อสร้างใหม่ ซึ่งความจริงไม่ได้เป็นแบบนั้นเสมอไป สำหรับการดีดบ้านโดยส่วนใหญ่ เจ้าของบ้านจะต้องเตรียมเงินไว้อย่างน้อยราวๆ 1 แสนบาทเป็นอย่างต่ำเพราะความผันผวนของราคาจะขึ้นอยู่กับสภาพความยากง่ายของการดีดบ้านแต่ละหลังนั่นเอง
3. ควรขออนุญาตดำเนินการให้ถูกต้อง ตามกฎหมายแล้วการดีดบ้านถือเป็นการเปลี่ยนแปลงรูปแบบของอาคาร จึงเป็นเหตุผลที่เจ้าของบ้านควรขออนุญาตตามขั้นตอนการดัดแปลงอาคารในเขตที่อยู่อาศัยให้เรียบร้อย เพราะในระหว่างดำเนินการอาจจะสร้างการรบกวนหรือเกิดความเสียหายให้กับผู้อยู่ใกล้เคียงได้ ซึ่งผู้ที่ต้องรับผิดชอบคือวิศวกรและผู้คุมงานทั้งหมด
4. คำนึงถึงความปลอดภัยมาเป็นอันดับแรก หลายครั้งที่การก่อสร้างหรือซ่อมแซมบ้าน อาจเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝัน ไม่ว่าจะเป็นอันตรายที่เกิดกับช่างก่อสร้างเอง หรือในกรณีที่ร้ายแรงที่สุดก็อาจจะเป็นการถล่มลงมาทั้งหลัง ดังนั้นควรใช้บริษัทที่มีวิศวกรควบคุมงาน และมีอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐานในการดีดบ้านมากที่สุด
5. การดีดบ้านอาจทำให้โครงสร้างบ้านเปลี่ยนไป การดีดบ้านเป็นการยกระดับบ้านให้สูงขึ้น ดังนั้นเจ้าของบ้านจะต้องเตรียมใจ และทำความเข้าใจไว้แล้วว่าโครงสร้างบ้านจะไม่เหมือนเดิม โดยอาจจะต้องมีการเพิ่มบันไดเข้าไป
6. วิศวกรต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น การเลือกวิศวกรมาวางแผนโครงสร้างและประเมินการซ่อมแซมเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะหากการวางแผนผิดพลาด บ้านทั้งหลังอาจจะเสียหาย และเจ้าของบ้านอาจจะต้องเสียเงินเพื่อการซ่อมแซมใหม่อีกครั้ง
7. ตั้งรับปัญหาที่เกิดขึ้นหลังการดีดบ้าน เนื่องจากตัวบ้านจะถูกยกระดับให้สูงขึ้น จึงต้องมีการเพิ่มบันไดเข้าไปให้เหมาะสมต่อการใช้งานของผู้อยู่อาศัย ซึ่งอาจจะไม่เหมาะกับบ้านที่มีผู้สูงอายุ และในขณะที่ช่างทำการดีดบ้าน ต้องทำการตัดน้ำและไฟก่อน ดังนั้น หลังจากซ่อมแซมเสร็จแล้วจะต้องมีการเดินสายใหม่ทั้งหมดซึ่งถือเป็นขั้นตอนที่ละเอียดอ่อน และต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมาก ไม่เช่นนั้นอาจจะเกิดปัญหาได้ในภายหลัง
หลังจากได้ศึกษาข้อมูลเบื้องต้นว่าการดีดบ้านคืออะไร หลักการทำงานเป็นอย่างไร และมีข้อควรระวังอะไรเป็นพิเศษบ้าง ผู้อ่านน่าจะเห็นภาพมากขึ้นว่าการดีดบ้านเป็นกระบวนการซ่อมแซมบ้านที่ค่อนข้างสร้างผลกระทบ อีกทั้งยังละเอียดอ่อนมาก เพราะต้องวางแผนโครงสร้างบ้านใหม่ทั้งหลัง ผู้รับเหมา ช่าง และวิศวกรต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญและมีความละเอียดรอบคอบเป็นอย่างมาก รวมถึงการใช้อุปกรณ์ต่างๆ ต้องได้มาตรฐานและสามารถตรวจสอบได้ทุกขั้นตอน
การให้ความสำคัญในการวางแผนทุกขั้นตอนโดยละเอียดตั้งแต่แรกจะช่วยป้องกันอันตรายได้อย่างรอบคอบที่สุด เพราะถ้าหากวางแผนผิดพลาดหรือคำนวณคลาดเคลื่อนไปเพียงเล็กน้อย อาจสร้างผลกระทบต่อโครงสร้างของบ้านทั้งหลัง กระทบทั้งบ้านที่อยู่อาศัย และอาจจะสร้างผลกระทบต่อบ้านและอาคารรอบข้างได้อีกด้วย เนื่องจากการซ่อมแซมด้วยการดีดบ้านนี้คือการยกระดับของพื้นบ้านทั้งหมด ดังนั้น การดีดบ้านจึงจำเป็นต้องใช้ช่างผู้เชี่ยวชาญและอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐานเพื่อการดีดบ้านที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยต่อผู้อยู่อาศัยสูงสุด