5 เรื่องต้องรู้ ก่อนดีดบ้าน มิเช่นนั้นจะเสียใจภายหลัง
ด้วยสภาพภูมิประเทศของกรุงเทพฯ และพื้นที่ชานเมืองโดยรอบ อันถูกล้อมรอบด้วยแม่น้ำ จึงทำให้เมื่อเข้าสู่ฤดูมรสุม ฝนตกหนัก หลายบ้านต้องประสบกับปัญหาน้ำท่วมเฉียบพลัน อย่างไม่ทันตั้งตัว เหตุนี้เองจึงทำให้บรรดาเจ้าของบ้านพยายามหาทางออกด้วยวิธีการดีดบ้านให้สูงขึ้น เพื่อเป็นการแก้ปัญหาระยะยาว อันเป็นทางออกที่เสียสตางค์น้อยสุด แต่ก่อนจะลงมือติดต่อผู้รับเหมามาปฏิบัติการณ์ดังกล่าว ควรศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับการดีดบ้านอย่างถ่องแท้ ไม่เช่นนั้นอาจจะต้องมาเสียใจภายหลัง
1. ก่อนคิดจะดีดบ้าน ควรตรวจสอบสภาพของบ้านเป็นสำคัญ
ใช่ว่าคิดจะดีดบ้านจะสามารถทำได้เลย ควรจะพิจารณาถึงโครงสร้างบ้านเป็นสำคัญด้วย เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้บ้านได้รับความเสียหาย หรือเกิดอันตรายขึ้นในระหว่างที่ดีดบ้าน เหมือนดังที่ตกข่าวอยู่บ่อยๆ เพราะถ้าหากบ้านไหนทำการตรวจสอบแล้วพบว่า มีร่องรอยของการผุกร่อนในจุดใหญ่ๆ หรือมีปลวกกิน แนะนำว่าไม่ควรดีดบ้าน สืบเนื่องจากจะต้องเตรียมตัวรับมือกับความเสียหายอันมหาศาล ซึ่งเกิดขึ้นได้ขณะดำเนินการ ทางที่ดีแนะนำว่ารื้อแล้วสร้างใหม่จะคุ้มกว่า ส่วนถ้าหลังไหนพบว่าเสาเข็มทรุด จำเป็นต้องลงเสาใหม่ก่อนทำการดีดบ้านด้วย
2. งบประมาณคือ ตัวตัดสินใจในการดีดบ้าน
หลายคนที่กำลังคิดต่อเติมซ่อมแซมบ้าน เพื่อหนีปัญหาน้ำท่วม แน่นอนว่าเกิดความลังเลระหว่างรื้อแล้วสร้างใหม่หรือดีดบ้านขึ้นดี โดยคำตอบของทางเลือกดังกล่าวคงหนีไม่พ้นเรื่องงบประมาณ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วรูปแบบของการดีดบ้านนั้นจะต้องเตรียมค่าใช้จ่ายอยู่ราวๆ หลักแสน (ขึ้นอยู่กับสภาพและความยาก ง่าย ของการดีดบ้าน) ทั้งเรื่องของค่าแรง ค่าวัสดุก่อสร้าง รวมถึงการต่อเติมเพิ่มเติมหลังจากดีดบ้านด้วย แน่นอนว่าแม้มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง แต่ก็ถือว่าน้อยกว่ารื้อแล้วสร้างใหม่แน่นอน ซึ่งจะต้องเตรียมงบไว้เลยเป็นล้าน ดังนั้นใครที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย วิธีการดีดบ้านก็ถือว่าเป็นทางเลือกหนึ่งที่เหมาะกับคนที่มีงบประมาณจำกัด
3. ทุกครั้งก่อนดีดบ้าน ต้องขออนุญาตอย่างถูกต้อง
ดีดบ้าน ตามกฎหมายแล้วถือว่าเป็นเรื่องของดัดแปลงบ้านหรืออาคาร ดังนั้นก่อนที่จะดำเนินการใดๆ จำเป็นต้องขออนุญาตกับเขตที่อยู่อาศัยก่อน ทั้งนี้เพื่อเป็นการป้องกันหากเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น สามารถกล่าวอ้างถึงกฎหมายวิศวกรออกแบบและควบคุมงาน เพื่อทำการรับผิดชอบตามที่กำหมายได้ระบุไว้
4. ดีดบ้านอย่างไรให้ปลอดภัย
หลายคนคงเคยได้ยินข่าวเกี่ยวกับการดีดบ้านแล้วเกิดอุบัติเหตุทับคนงาน หรือบ้านพังทั้งหลังอยู่บ่อยครั้ง อาจเป็นเพราะความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ใช้ระบบวิธีเก่าๆ อย่างแม่แรง รอก หรืออุปกรณ์ไร้มาตรฐานมาใช้ในการดีดบ้าน เหตุนี้เองระยะหลังบรรดาผู้รับเหมาและวิศวกรจึงเพิ่มความปลอดภัยให้สูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสร้างฐานรองรับอุปกรณ์ดีดบ้านอย่างระบบแม่แรงไฮโดรลิค โดยจำเป็นต้องตรวจสอบอุปกรณ์ทุกครั้งให้มีสภาพพร้อมใช้งาน ทั้งนี้ข้อดีของแม่แรงไฮโดรลิคคือ สามารถยกทุกจุดในบ้านพร้อมกันได้ อีกทั้งยังสามรถเช็คระดับความสูง ฐานราก ความเอียงได้อีกด้วย จึงทำให้ช่วยเรื่องความปลอดภัยได้ในระดับหนึ่ง แต่ทั้งนีทั้งนั้นใช้ว่ามาตรฐานของอุปกรณ์อย่างเดียวจะพอ จำเป็นต้องมีการคิดคำนวณ วางแผน พิจารณาถึงความสูงของบ้านเป็นสำคัญด้วย
5. รับมือปัญหางานระบบตามมา เมื่อดีดบ้านแล้ว
แน่นอนเมื่อทำการดีดบ้านแล้ว ตัวบ้านจะสูงขึ้น สิ่งที่ต้องเพิ่มเติมต่อมาคือเรื่องระบบงานบันได อันจำเป็นต้องมีรูปแบบลักษณะให้เหมาะสมกับผู้อยู่อาศัย โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ อีกทั้งเรื่องของระบบไฟ และน้ำ จำเป็นต้องทำการวางระบบใหม่ทั้งหมด เนื่องจากในขณะที่ดีดบ้านช่างจะทำการตัดระบบน้ำ ไฟ ทั้งหมด ดังนั้นเมื่อทำการดีดบ้านเสร็จแล้ว จะต้องเดินสายใหม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องให้ความใส่ใจเป็นพิเศษ เพราะถ้าเดินระบบไม่ดี อาจจะให้เกิดปัญหาอย่างไฟช็อตหรือน้ำไหลรั่วซึม ก่อให้เกิดปัญหาใหญ่ตามมาได้
ข้อควรระวังก่อนตัดสินใจดีดบ้าน +++++
ดีดบ้าน หรือ ยกบ้าน เป็นที่นิยมเป็นอย่างมากหลังจากเหตุการณ์ปี 54 น้ำท่วมใหญ่หลายจังหวัด และยังคงเป็นฝันร้ายที่บางคนจำได้ไม่ลืม เพราะเกิดผลกระทบทำให้เสียทรัพย์สินจากน้ำท่วมเข้าบ้าน ประกอบกับสภาพภูมิประเทศของกรุงเทพฯและพื้นที่ชานเมืองโดยรอบเป็นที่ลุ่มต่ำแล้วยังถูกล้อมรอบด้วยแม่น้ำ ส่งผลให้เมื่อถึงฤดูมรสุมฝนตกหนัก บ้านที่อยู่ใกล้ริมน้ำมักจะประสบปัญหาน้ำท่วมเฉียบพลัน บางครั้งยังไม่ทันได้เก็บข้าวของน้ำก็เข้าถึงตัวบ้านแล้ว จากเหตุนี้เจ้าของบ้านหลายหลังจึงพยายามแก้ปัญหาด้วยวิธีการ “ดีดบ้าน” หรือ “ยกบ้าน” ขึ้นนั่นเองเพราะเชื่อว่าจะสามารถแก้ปัญหาได้ในระยะยาวและเป็นทางออกที่คิดว่าดีที่สุด แต่ก่อนที่คุณจะไปว่าจ้างผู้รับเหมามาดีดบ้าน ควรที่จะศึกษาหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องต่อการดีดบ้านอย่างถ่องแท้และละเอียดรอบคอบเสียก่อน มิเช่นนั้นอาจจะมาเสียใจในภายหลัง
1.ก่อนวางแผนจะดีดบ้าน ต้องรู้สภาพความพร้อมของบ้านให้ดี
เจ้าของบ้านบางคนคิดว่าถ้าต้องการดีดบ้านก็สามารถทำได้ง่ายๆ แค่จ้างช่างมายกแล้วก็เสริมเสาก็จบเรื่องแล้ว ในความเป็นจริงควรจะต้องพิจารณาถึงโครงสร้างบ้านเป็นอันดับแรกรวมทั้งต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้บ้านได้รับความเสียหาย หรือก่อให้เกิดอันตรายขึ้นในช่วงขณะที่ดีดบ้าน ซึ่งเรามักจะได้ยินข่าวบ่อยๆ ฉะนั้นถ้าทำการตรวจสอบแล้วพบว่ามีร่องรอยของการผุกร่อนในจุดใหญ่ๆ หรือมีปลวกกินหลายแห่ง แนะนำว่าไม่ควรที่จะดีดบ้านเด็ดขาด เพราะอาจส่งผลเสียหายอย่างมหาศาลบ้านพังถล่มลงมาในขณะที่กำลังดีดบ้านได้ ทางที่ดีคือรื้อบ้านแล้วสร้างบ้านใหม่ด้วยการยกพื้นสูงขึ้นจะคุ้มกว่า ส่วนถ้าพบว่าเสาเข็มมีการทรุดอยู่ จำเป็นต้องลงเสาใหม่ก่อนทำการดีดบ้านด้วย
2.ก่อนดีดบ้าน วางแผนเรื่องงบประมาณเสียก่อน
หลายบ้านที่ต้องประสบปัญหาเรื่องน้ำท่วมบ้านบ่อยๆเรียกได้ว่าฝนตกทีไหร่น้ำรอการระบายไหลเข้าบ้านเสียทุกที จะขายบ้านหนีก็ไม่ได้ ทางออกที่ดีที่สุดก็คือซ่อมแซมต่อเติมบ้านให้สูงขึ้นแต่อาจยังตัดสินใจไม่ได้เกิดความลังเลว่าจะรื้อบ้านแล้วสร้างใหม่ดีหรือจะดีดบ้านให้สูงขึ้นอะไรจะเหมาะสมมากกว่า ซึ่งแน่นอนอยู่แล้วว่าเรื่องของค่าใช้จ่ายหรืองบประมาณคือตัวแปรสำคัญ โดยส่วนใหญ่แล้วการจ้างเหมาราคาดีดบ้านที่เจ้าของบ้านจะต้องเตรียมเงินไว้ราวๆหลักแสน(ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพและความยากง่ายของการดีดบ้านแต่ละกรณีราคาก็จะไม่เท่ากัน)ซึ่งราคานี้จะบวกรวมกับค่าแรง ค่าวัสดุก่อสร้าง ยังมีค่ารายละเอียดปลีกย่อยที่ต้องต่อเติมเพิ่มขึ้นหลังจากดีดบ้าน เช่น การสร้างบันได้ขึ้นบ้านหรือเทพื้นให้สูงขึ้นตาม เป็นต้น แต่ถึงแม้ว่าจะต้องใช้งบประมาณค่อนข้างสูง แต่เมื่อเทียบกับการรื้อแล้วสร้างใหม่ย่อมถูกกว่าอย่างแน่นอน บางครั้งการรื้อสร้างใหม่อาจจะต้องเตรียบงบถึงหลักล้าน ดังนั้นหากใครมีงบประมาณจำกัด วิธีการดีดบ้านก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีไม่น้อยเลยทีเดียว
3.ก่อนดีดบ้าน อย่าลืมขออนุญาตให้ถูกต้อง
การดีดบ้านตามกฎหมายจะถือว่าเป็นเรื่องของการดัดแปลงบ้านหรืออาคาร เพราะฉะนั้นก่อนเริ่มทำการใดๆจึงมีความจำเป็นที่ต้องขออนุญาตกับทางเขตที่อยู่อาศัยเสียก่อน เพื่อเป็นการป้องกันหากเกิดปัญหาที่ไม่คาดฝันขึ้น สามารถหาผู้ที่จะต้องรับผิดชอบตามกฎหมายที่ระบุไว้ ซึ่งก็คือวิศวกรออกแบบและผู้ควบคุมงานนั่นเอง
4.ก่อนดีดบ้าน จะดีดอย่างไรให้ปลอดภัย
หลายครั้งที่มักจะมีข่าวไม่ดีเกี่ยวกับการดีดบ้าน เช่น การเกิดอุบัติเหตุบ้านตกลงมาทับคนงานเสียชีวิต หรือดีดบ้านแล้วบ้านพังถล่มลงมาสร้างความเสียหายต่อบ้านทั้งหลังอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งอาจเกิดจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ด้วยการใช้ระบบหรือวิธีการเก่าๆหรือคิดวิธีเอง อย่างแม่แรง รอก หรืออุปกรณ์ที่ไม่ได้มาตรฐานมาใช้ในการดีดบ้าน ดังนั้นการดีดบ้านไม่ควรจ้างบริษัทที่ไม่มีวิศวกรควบคุม เพราะวิศวกรจะมีวิธีการเพิ่มความปลอดภัยโดยสร้างฐานรองรับอุปกรณ์ดีดบ้านอย่างเช่นระบบแม่แรงไฮโดรลิค ซึ่งก่อนที่จะนำมาใช้ต้องตรวจสอบทุกครั้งว่ามีสภาพพร้อมที่จะนำมาใช้งาน อีกทั้งข้อดีของแม่แรงไฮโดรลิคคือ สามารถที่จะยกทุกจุดในบ้านได้พร้อมกัน แล้วยังเช็คระดับความสูง ฐานราก ความลาดเอียงได้อีกด้วย จึงมั่นใจได้ว่ามีความปลอดภัยในระดับหนึ่ง แต่ทั้งนี้ไม่ได้มีแค่มาตรฐานของอุปกรณ์เพียงอย่างเดียว แต่ต้องรวมไปถึงการคิดคำนวณ วางแผน ความสูงของบ้านเป็นสิ่งสำคัญ
5.เตรียมรับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้นหลังจากดีดบ้าน
หลังจากดีดบ้านขึ้นแล้วตัวบ้านก็จะสูง สิ่งที่ต้องเตรียมเพิ่มเติมมาก็คือระบบงานบันไดซึ่งต้องออกแบบให้เหมาะสมกับการใช้งานของผู้อยู่อาศัย โดยเฉพาะในกลุ่มของผู้สูงอายุ รวมทั้งเรื่องของระบบไฟฟ้า และน้ำ เท่ากับว่าต้องวางระบบใหม่เกือบทั้งหมด เพราะในช่วงที่คนงานเริ่มทำการดีดบ้านช่างจะต้องตัดระบบน้ำ ไฟ ทั้งหมด ดังนั้นเมื่อทำการดีดบ้านเสร็จเรียบร้อยแล้วจะต้องเดินสายใหม่จึงต้องให้ความใส่ใจเป็นพิเศษเพราะหากเดินระบบได้ไม่ดี อาจส่งผลให้เกิดปัญหาอย่างไฟช็อตหรือน้ำไหลรั่วซึมได้
สำหรับผู้ที่ซื้อบ้านใหม่อยู่ในโซนจุดเสี่ยงที่จะเกิดน้ำท่วม ไม่ว่าจะเป็นที่ลุ่ม หรือบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยา แล้วต้องการหาทางออกด้วยวิธีการดีดบ้าน แนะนำว่าก่อนที่จะเริ่มดำเนินการควรติดต่อผู้รับเหมาที่ไว้ใจได้และมีประวัติผลงานที่ดี ที่สำคัญควรศึกษาเรื่องที่ต้องทราบก่อนอย่างละเอียดถี่ถ้วนเพราะอันตรายมักจะเกิดขึ้นได้อย่างเสมอค่ะ
หลักการประเมินราคา พิจารณาจากอะไรบ้าง ??
สำหรับ หลักในการประเมินราคาของช่างดีดบ้านแต่ละทีมนั้น จะประเมินราคาแบบตายตัวไม่ได้ เนื่องจากต้องทำการสำรวจถึงสภาพพื้นที่ หรือความยากง่าย ความสะดวกในการทำงาน เป็นหลัก บางครั้งบ้านที่มีขนาดเล็กมีเสาน้อยต้น อาจจะแพงกว่าบ้านหลังใหญ่ที่มีเสาเยอะกว่า เนื่องจากพื้นที่หน้างานมีความยากง่ายแตกต่างกัน ดังนั้น เมื่อมีการโทรมาสอบถามราคาเบื้องต้นกับทางช่าง ส่วนใหญ่ ท่านเจ้าของบ้านอาจจะได้คำตอบไม่เป็นที่น่าพอใจว่า “ประมาณ คร่าวๆลำบากครับพี่ ต้องดูหน้างานก่อน” หรือ ถ้าจะให้สะดวกและแม่นยำขึ้นมาอีกหน่อย ท่านเจ้าของบ้านจะต้องทำการถ่ายรูปตัวบ้านและสภาพแวดล้อม ส่งให้ทางช่างดูทางเมล์หรือทางที่สะดวก ท่านก็จะได้ทราบราคาอย่างคร่าวๆเพื่อประกอบการตัดสินใจ โอกาสคลาดเคลื่อนน้อย แต่ก็ยังสู้วิธีการประเมินราคาหน้างานไม่ได้ แต่โดยรวมๆแล้ว ช่างจะใช้หลักการประเมิน ดังนี้
– ขนาดตัวบ้าน หลังใหญ่หรือหลังเล็ก เนื่องจากมีผลในเรื่องของคนงาน จำนวนเสามากก็ใช้คนงานเยอะ อย่างน้อยจำนวนคนต้องเท่ากับจำนวนเสาบ้านที่มี ยกเว้นกรณีบ้านไม้อาจมีจำนวนคนน้อยกว่าเสาได้เพราะใช้หลักการณ์1 คนรับผิดชอบหลายเสา แล้วค่อยๆดึงทีละหน่อย และคอยเช็คระดับไปด้วยเพื่อความปลอดภัย
– สภาพแวดล้อม ความสะดวกในการทำงาน พื้นที่แคบทำงานยากราคาก็จะสูงกว่าพื้นที่โล่ง บ้านบางหลังมีพื้นที่จำกัด เช่นปลูกอยู่ริมแม่น้ำริมตลิ่ง ส่วนนี้ก็มีผลกับการประเมินราคาเพราะมีความเสี่ยงเยอะเนื่องจากโอกาสที่ดิน จะทรุดมีมาก
– สภาพอากาศ เนื่องจากถ้าสภาพอากาศไม่อำนวยมีฝนตกบ่อย การดำเนินงานก็จะใช้เวลานานและมีความเสี่ยงต่อความเสียหายได้มากทำให้มีค่า ใช้จ่ายเพิ่ม ส่งผลให้การประเมินราคาจะบวกค่าใช้จ่ายส่วนนี้ด้วย แต่โดยรวมๆแล้วถ้าหากมีทางเลี่ยงได้ทางเจ้าของบ้านก็ควรพิจารณาเรื่องนี้ ด้วย พยายามอย่าดีดบ้านช่วงหน้าฝนเป็นดีที่สุด
– รายละเอียดของงานที่ทำ เช่น งานดีดบ้านปรับระดับธรรมดา ราคาก็จะถูกเนื่องจากไม่ได้มีการเสียเวลาอะไรมาก แค่ปรับระดับอย่างเดียวใช้เสาเดิมและโครงสร้างเดิม โดยมาทางแถบภาคอิสานนิยมงานแบบนี้ ส่วนงานที่มีการเปลี่ยนเสา ตัดต่อเสา หมุน เคลื่อนย้ายตำแหน่ง ก็จะมีการคิดบวกค่าแรงเพิ่มขึ้นมาอีกแล้วแต่ความยากง่าย
การยกบ้านและดีดบ้านควรทำภายใต้การควบคุมดูแลจากวิศวกร
โครงสร้างที่มีประสบการณ์และเชียวชาญเพื่อให้บ้านที่ทำการยกได้มาตรฐานและไม่เกิดการทรุดตัวหลังจากทำสำหรับสิ่งที่คุณควรทราบก่อนการทำจะได้แก่
1. การยกบ้านและดีดบ้าน ตามหลักกฎหมายถือเป็นการดัดแปลงอาคารดังนั้นก่อนทำคุณจำเป็นต้องขออนุญาตต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นกันเสียก่อนและตามกฎหมายต้องมีวิศวกรเป็นผู้ออกแบบและควบคุมงาน
2. การยกบ้าน จำเป็นต้องเพิ่มบันไดหรือทำทางลาดเพื่อเข้าสู่ตัวบ้านทำให้พื้นที่ในการใช้สอยแตกต่างไปจากเดิม ซึ่งอาจจะส่งผลต่อผู้พักอาศัยบางคนได้โดยเฉพาะเด็กและผู้สูงอายุที่ต้องเดินขึ้นบันไดที่สูงขึ้นกว่าเดิม
3. ค่าใช้จ่ายในการดีดบ้าน จะค่อนข้างสูงหรืออาจจะประมาณครึ่งหนึ่งของการปลูกบ้านใหม่กันเลยทีเดียวดังนั้นเจ้าของบ้านจึงควรพิจารณาในเรื่องนี้ให้ดีว่าต้องการดีดบ้านหรือนำเงินไปปรับปรุงบ้านในส่วนอื่นเพื่อให้ได้บ้านที่สวยและสมบูรณ์แบบกว่าในปัจจุบัน
4. ควรศึกษาข้อมูลต่างๆ ของผู้รับยกบ้าน อย่างละเอียดถี่ถ้วนว่าสามารถทำการยกบ้านได้จริงและมีประสบการณ์ในการทำเพราะคุณต้องเสียค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงดังนั้นผลงานที่ออกมาควรได้มาตรฐานและมีคุณภาพ รวมไปถึงต้องปลอดภัยสำหรับทุกคน