การ เลือกซื้อสารกรองน้ำ ควรรู้ชนิดของเครื่องกรอง เครื่องกรองน้ำ
- เครื่องกรอง เครื่องกรองน้ำขนาดเล็ก
เป็นเครื่องกรอง เครื่องกรองน้ำ ที่เหมาะสำหรับการกรองน้ำใช้ในครอบครัว
- เครื่องกรองน้ำใหญ่ เครื่องกรองใหญ่
เครื่องกรองน้ำขนาดใหญ่นี้ส่วนมากใช้ในการกรองน้ำใช้ เช่น ใช้อาบน้ำ ล้างจาน ล้างรถ หรือ ใช้ในปริมาณมาก ๆ เช่น บ้านที่มีครอบครัวใหญ่ หรือ ร้านค้า ศูนย์อาหาร ที่ใช้น้ำสะอาดเป็นจำนวนมาก ที่พบเห็นได้มาก นำไปใช้สำหรับกรองน้ำประปา และน้ำบาดาล
- การกรอง การกรองน้ำด้วยระบบ RO
RO มีชื่อทางการว่าReverse Osmosis จะต้องผ่านระบบการกรองอย่างละเอียดทั้งหมด 5 ขั้นตอน ประกอบไปด้วย Sediment Filter คือการกรองขั้นแรก อาจจะใช้ทรายกรองหรือสารกรองน้ำที่ทำจากแก้ว, Carbon Filter ดูดซับสีและกลิ่นในน้ำ, Cation Resin เรซิ่นประจุลบจะไปจับหินปูนที่อยู่ในน้ำซึ่งอยู่ในรูปของแคลเซียม, Membrane Filter เพื่อการแยกของเหลวที่มีส่วนประกอบหลายชนิดออกจากกันและ Post Carbon ปรับสภาพน้ำให้สามารถดื่มได้ การกรองด้วยระบบ RO นี้สามารถกรองได้ถึง 999 % เลยทีเดียว
- การกรอง การกรองน้ำด้วยระบบ UV (Ultra Violet)
การกรอง การกรองน้ำด้วยระบบยูวี เป็นการกรอง การกรองน้ำโดยอาศัยแสงอัลตราไวโอเล็ตฆ่าเชื้อผ่านการไหลผ่านของน้ำ
- การกรอง การกรองน้ำด้วยระบบ UF (Ultra Filtration)
การกรอง การกรองน้ำด้วยระบบ UF ในระบบนี้จะมีการกรองน้ำอยู่ด้วยกัน 4-5 ขั้นตอน เป็นเครื่องที่พัฒนาต่อมาจากเครื่องกรอง UV ข้อดีคือความสะดวกสบายในการเปลี่ยนถ่ายไส้กรองและประหยัดในเรื่องของการดูแลรักษากว่าระบบ RO และระบบ UV
เลือกซื้อสารกรองน้ำ และไส้กรองชนิดต่างๆ
- สารกรองแก้ว AFM® : คือสารกรองน้ำที่ทำจากแก้วในกรณีของ AFM® นั่นสามารถกรองได้ละเอียด ได้ถึง 1 ไมครอน มีประสิทธิภาพกรองได้ดีกว่าทรายถึง 40 เท่า และยังสามารถกรองโลหะหนัก สารหนู แคดเมี่ยม ทองแดง แคดเมียม นิกเกิล และตะกั่วในน้ำ รวมถึงแบคทีเรีย และ ไวรัส ต่าง ๆ
- สารกรองแมงกานีส : กำจัดโลหะ โดยเฉพาะสารละลายเหล็ก และเติมออกซิเจนให้กับน้ำ
- สารกรองแอนทราไซต์ : กำจัดตะกอนและสนิมเหล็ก
- สารกรองเรซิน : เมื่อต้องการกำจัดความกระด้าง สี กลิ่น และรส
- สารกรองคาร์บอน : เมื่อต้องการกำจัด สี กลิ่น รส ซึ่งเกิดจากสารอินทรีย์ ตะกอน สารกำจัดศัตรูพืช ผงซักฟอก
- สารกรองเซรามิค : เมื่อต้องการกรองเชื้อแบคทีเรีย
- สารกรองหยาบ : สารกรองน้ำขั้นต้น
- สารกรองทราย : เมื่อต้องการกรองสิ่งสกปรก สนิมเหล็ก ตะกอนหรือโคลน
- ไส้กรองด้ายพัน กรองสารอินทรีย์ต่างๆ กรวด หิน ดิน ทราย มีความละเอียดในการกรอง 5 ไมครอน
- ไส้กรองจีบ กรองกรวด หิน ดิน ทราย และสนิม ทำความสะอาดง่าย มีความละเอียดในการกรอง 30 ไมครอน
- ไส้กรองเมมเบรน กรองสารละลายสารปนเปื้อน เชื้อไวรัส แบคทีเรีย และยังสามารถกรองน้ำเค็มให้จืดสนิท มีความละเอียดในการกรอง 0.0001 ไมครอน
อายุการใช้งานของไส้กรองและสารกรอง
- สารกรอง สารกรองน้ำที่ทำจากแก้วหรือ สารกรองแก้ว AFM® มีอายุการใช้งานยาวนานถึง 15 ปี โดยไม่ต้องเปลี่ยนสารกรอง
- สารกรอง สารกรองคาร์บอน 1-2 ปี
- สารกรอง สารกรองแอนทราไซด์ 1-2 ปี
- สารกรอง สารกรองแมงกานิส 1-2 ปี
- สารกรอง สารกรองเรซิ่น 1-2 ปี
- ไส้กรองจีบ 3 – 6 เดือน
- ไส้กรองด้ายพัน 3 – 6 เดือน
- ไส้กรองคาร์บอน 1-2 ปี
- ไส้กรองเรซิ่น 1-2 ปี
- ไส้กรองเซรามิคส์ 1 – 1 ปีครึ่ง
- ไส้กรองเมมเบรน 1 – 1 ปีครึ่ง
- โพสคาร์บอน 2-3 ปี
- สารกองแก้ว สารกองแก้วAFM® สารกรองน้ำAFM®
หลักการ เลือกซื้อสารกรองน้ำ และเครื่องกรองน้ำ
สภาพน้ำที่ต้องการนำมากรอง เป็นน้ำประปา หรือน้ำบาดาล หากเป็นน้ำประปาทั่วไป ควรเลือกใช้ระบบ RO หรือระบบ UF เพราะระบบเหล่านี้ถูกออกแบบมา เพื่อใช้งานกับน้ำประปาโดยตรง แต่หากน้ำที่ต้องการนำมากรองนั้นเป็นน้ำบาดาล ขั้นแรกควรทำการวิเคราะห์สภาพน้ำ ณ จุด ๆ นั้นก่อนว่ามีสภาพ เป็นกรด/ด่างหรือไม่ มีหินปูนมากน้อยเพียงใด จากนั้นจึงจะทำการเลือกเครื่องกรองและสารกรองที่เหมาะสมกับสภาพน้ำ ณ จุดนั้น ๆ ต่อไป
ราคา เครื่องกรองและสารกรองนั้นมีหลายเกรด หลายราคา มีตั้งแต่หลักร้อยถึงหลักหมื่น บางชนิดผลิตเองในไทย บางชนิดเป็นการนำเข้ามา ราคาก็จะเปลี่ยนแปลงไปตามคุณภาพสินค้า
ความคุ้มค่า ในกรณีนี้ควรมองถึงอนาคตในภายภาคหน้าหลายๆ ปี เช่น ถ้าเราติดตั้งปัจจุบันในราคาที่ต่ำ แต่เราต้องการดูแลหรือเปลี่ยนแปลงซ่อมแซม อยู่บ่อย ๆ โดยเฉพาะสารกรองที่ต้องเปลี่ยนทุก 6 เดือน หรือ 1 ปีนั้น จะเป็นการดีกว่าไหม ถ้าเราเลือกสารกรองน้ำที่มีอายุการใช้งานยาวนาน คุ้มค่ากว่าการเปลี่ยนบ่อยๆ เป็นต้น