เกษตรกรขายเศษวัสดุการเกษตรกว่า 4 พันตัน รับเงินกว่า 1.6 ล้านบาท
หมวดหมู่สินค้า: A297 รับซื้อเศษวัสดุการเกษตร
03 มีนาคม 2565
ผู้ชม 211 ผู้ชม
เรารับซื้อไม้เชื้อเพลิง ได้แก่ ไม้กระถิน ยูคาลิปตัส ยางพารา ไม้ขี้เหล็กไม้สะเดา ไม้ฉำฉา ไม่มะม่วง ไม้ขนุน เศษไม้ฝืน ไม้อื่น(ความชื้นไม่เกิน 15-20%) รับซื้อไม้พาเลทเก่า แหล่งรับซื้อไม้ฟืน ราคาไม้ฟืน อัพเดตราคาการรับซื้อ
ขายสวนไม้ยางพารา
รับซื้อเศษไม้
ขายสวนไม้ยูคา
ขายเศษไม้หัวไม้จากโรงงาน
กรมส่งเสริมการเกษตร เผยผลลดเผา! เกษตรกรขายเศษวัสดุการเกษตรกว่า 4 พันตัน รับเงินกว่า 1.6 ล้านบาท
กรมส่งเสริมการเกษตร เผยผลโครงการรวมพลังสร้างมูลค่าจากไร่นาสู่สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน กิจกรรมเฉลิมพระเกียรติเนื่องในมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เพื่อลดการเผาในพื้นที่การเกษตร เกษตรกรขายเศษวัสดุการเกษตรกว่า 4 พันตัน รับเงินกว่า 1.6 ล้านบาท
เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร รัชกาลที่ 10 พุทธศักราช 2562 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมส่งเสริมการเกษตรได้จัดทำโครงการรวมพลังสร้างมูลค่าจากไร่นาสู่สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน เพื่อเฉลิมพระเกียรติฯ โดยมุ่งเน้นให้เกษตรกรใช้ประโยชน์จากเศษวัสดุการเกษตร เพื่อลดต้นทุน และเพิ่มมูลค่าจากเศษวัสดุการเกษตร ตลอดจนช่วยลดปัญหาวิกฤตหมอกควัน และสถานการณ์เกิดฝุ่นละอองขนาดเล็กในหลายพื้นที่ของประเทศ
นายอาชว์ชัยชาญ เลี้ยงประยูร รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า จากการดำเนินโครงการรวมพลังสร้างมูลค่าจากไร่นาสู่สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน กิจกรรมเฉลิมพระเกียรติเนื่องในมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ตั้งแต่เดือนเมษายน 2562 – พฤษภาคม 2563 โดยรณรงค์ให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการดำเนินงานจัดการเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรให้เกิดประโยชน์ในพื้นที่และชุมชน ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ได้แก่ การอบรมถ่ายทอดความรู้แก่เกษตรกร การจัดทำฐานเรียนรู้ปุ๋ยอินทรีย์เพื่อปรับปรุงคุณภาพดิน การจัดการเศษวัสดุการเกษตร และการเชื่อมโยงตลาดในการจัดซื้อเศษวัสดุการเกษตร ส่งผลให้เกษตรกรในโครงการสามารถจำหน่ายเศษวัสดุการเกษตร เช่น แกลบ ชานอ้อย เศษใบไม้ กากปาล์ม ซังข้าวโพด และปุ๋ยที่ชุมชนร่วมกันผลิต รวมทั้งสิ้น 4,406 ตัน เป็นเงิน 1,671,860 บาท
นอกจากนี้ ยังมีปุ๋ยอินทรีย์อีก 219,421 ตัน จากกิจกรรมฐานเรียนรู้ปุ๋ยอินทรีย์ ณ ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) 882 แห่ง และ ศดปช. 882 แห่ง รวม 1,764 แห่ง ซึ่งสามารถนำไปใช้ในกิจกรรมการเกษตรต่อไปได้ ตลอดจนเกษตรกรอีกส่วนหนึ่งที่ร่วมกำหนดกิจกรรมทางเลือกในการนำเศษวัสดุการเกษตรมาใช้ประโยชน์ในพื้นที่จุดต่าง ๆ ของชุมชน เช่น ทำกองปุ๋ยหมัก 4,087 จุด ผลิตอาหารสัตว์ ได้แก่ อาหารสัตว์น้ำ ฟางอัดก้อน 1,655 จุด วัสดุสำหรับทำการเกษตรอื่น ๆ ได้แก่ วัสดุเพาะเห็ดหรือปลูกพืช 360 จุด วัสดุสำหรับแปรรูป หัตถกรรม และอุตสาหกรรม ได้แก่ ทำกระดาษจากซังข้าวโพดหรือฟางข้าว ทำไม้กวาดทางมะพร้าว 41 จุด ใช้เป็นพลังงานทางเลือก ได้แก่ ผลิตถ่านอัดแท่ง หรือนำแกลบเป็นเชื้อเพลิงชีวมวล 54 จุด และเมนูทางเลือกอื่น ๆ ได้แก่ ผลิตจุลินทรีย์จากหน่อกล้วย ทำหัวปุ๋ยเบญจคุณแบบก้อน หรือทำปุ๋ยน้ำหมัก 54 จุด ซึ่งกิจกรรมทั้งหมดนี้สามารถลดต้นทุนการผลิตทางการเกษตรให้แก่เกษตรกรได้อย่างยั่งยืน
รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการดำเนินโครงการนี้ทำให้เกษตรกรเปลี่ยนทัศนคติและปรับพฤติกรรมโดยลดการเผา ตระหนักถึงสิ่งแวดล้อม รักษาสภาพโครงสร้างดิน และเห็นประโยชน์ของเศษวัสดุการเกษตรมากขึ้น เกิดความสามัคคีนำความรู้ไปปรับใช้และต่อยอดสู่แผนพัฒนาการเกษตรระดับตำบล ชุมชนดำเนินกิจกรรมต่อเนื่อง ได้แก่ ทำปุ๋ยหมัก ไถกลบตอซัง ลดการเผา นำเศษวัสดุการเกษตรมาก่อให้เกิดประโยชน์ในรูปแบบต่าง ๆ ตลอดจนจำหน่ายเศษวัสดุการเกษตรแก่ผู้รับซื้อ
การจัดการผลพลอยได้ทางการเกษตร
การจัดการผลพลอยได้ - สิ่งเหลือทิ้งและสิ่งปฏิกูลทางการเกษตร
ความหมายของคำทั้งสองคำ
สิ่งเหลือทิ้ง หมายถึง วัตถุที่บุคคลผู้เป็นเจ้าของไม่ใช้ประโยชน์จากวัตถุนั้นอีกต่อไปในเวลาข้างหน้า เช่น ฟางข้าว ใบไม้ กิ่งไม้ กระดูกสัตว์ ฯ
สิ่งปฏิกูล หมายถึง วัตถุที่เป็นของเน่าเสียซึ่งส่วนมากจะเป็นสิ่งขับถ่ายของสัตว์เลี้ยง และน้ำโสโครก ที่เกิดจากการชำระล้างต่างๆ
เหตุผลที่ใช้อธิบายถึงการจัดการ
1.เพราะปัจจุบันสังคมมนุษย์ ใช้ทรัพยากรธรรมชาติมากเกินไป จนทำให้ระบบนิเวศน์เสียสมดุลธรรมชาติ
2.เพราะเกิดมลภาวะกับสิ่งแวดล้อมอย่างกว้างขวาง จนส่งผลกระทบกับวิถีชีวิตของมนุษย์ทุกคน
3.เพราะต้องการลดความรุนแรงของภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นกับมนุษย์แบบไม่เลือกเชื้อชาติ ศาสนาและภูมิภาคบนโลกใบนี้
วิธีการที่นำมาใช้เพื่อการจัดการสิ่งเหลือทิ้งหรือสิ่งปฏิกูล
1.การ RECYCLE (reuse-repair-reform) เป็นวิธีการที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุดในยุคสมัยปัจจุบันนี้
หมายถึง การนำวัสดุที่ใช้แล้ว หรือ วัสดุเหลือใช้ หรือ วัสดุที่ต้องทิ้ง หรือสิ่งที่ต้องทำลายด้วยวิธีการต่างๆ มาแปรรูปหรือเปลี่ยนสภาพใหม่(reform) หรือนำมาซ่อมแซม(repair) แล้วนำกลับมาใช้(reuse)ประโยชน์อีก ในรูปแบบเดิมหรือรูปแบบใหม่ ก็ได้
กระบวนการของการ รีไซเคิล (RECYCLE) มี 4 ขั้นตอน
1. การเก็บรวบรวมวัสดุ/วัตถุทุกชนิด
2. แยกชนิด / ประเภทของวัสดุ วัตถุที่รวบรวมได้
3.นำวัสดุ/วัตถุ ไปผ่านกระบวนการต่างๆ/กรรมวิธีต่างๆ ตามลักษณะของสิ่งนั้น ๆเช่น หลอม กลั่น กรอง หมัก ระเหยน้ำ บีบอัด เผาไหม้
4.นำผลิตภัณฑ์ที่เป็นผลลัพธ์ของกระบวนการต่างๆ ไปใช้ประโยชน์
ตัวอย่างของการ รีไซเคิล (RECYCLE)
1.การผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงชีวมวล (Biomass)
2.การผลิตกาซชีวภาพ (Biogas)จากมูลสัตว์และเศษอาหาร
3.การผลิตปุ๋ยหมักแห้ง(Compost)จากชิ้นส่วนของพืชไร่ที่เหลือทิ้ง
4.การผลิตปุ๋ยหมัก(น้ำ)ชีวภาพ (Biofertilizer) จากผลไม้และพืชผัก
5.การผลิตแผ่นไม้จากเศษไม้ชนิดต่างๆ
6.การผลิตแท่งเพาะชำต้นไม้จากขุยมะพร้าว
7.การใช้วัสดุเหลือใช้จากพืชมาทำงานประดิษฐ์ต่างๆ
ขั้นตอนโดยสังเขป การผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงชีวมวล (Biomass)
ชีวมวล หมายถึง สารอินทรีย์ทุกชนิดที่ได้จากสิ่งมีชีวิต
1.เก็บรวมรวมชีวมวลชนิดต่างๆให้มีปริมาณที่มากพอสำหรับใช้
2.จัดซื้อ/จัดทำ เครื่องผลิตไฟฟ้า ที่มีขนาดเหมาะสมกับเชื้อเพลิง
3.ใช้เชื้อเพลิงชีวมวลสำหรับการเผาไหม้ให้ความร้อนกับน้ำ
4.นำไอน้ำที่ได้ไปหมุนไดนาโม เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า
ขั้นตอนโดยสังเขป การผลิตกาซชีวภาพ (Biogas)
กาซชีวภาพ หมายถึง กาซที่ได้จากการย่อยสลายสารอินทรีย์ทุกชนิดโดยจุลินทรีย์ในสภาพที่ไม่มีกาซออกซิเจน (anarobe) เช่น กาซมีเทน กาซคาร์บอนไดออกไซด์ การไนโตรเจน การไฮโดรเจนซัลไฟด์ บรรดากาซที่เกิดขึ้น กาซมีเทนซึ่งติดไฟได้ จะมีปริมาณมากที่สุด จึงนำมาใช้เป็นกาซหุงต้มได้
1.รวมรวมสารอินทรีย์ชนิดต่างๆที่ย่อยสลายได้ง่ายให้มีปริมาณที่มากพอสำหรับใช้
2.จัดซื้อ/จัดทำ ถังหมัก (ถังปฏิกรณ์)และถังเก็บกาซ (สำรองกาซก่อนการนำไปใช้)
3.หมักอินทรีย์สารที่เก็บรวบรวมได้ในถังหมัก
4.ได้กาซจากกระบวนการหมักนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับการหุงต้ม / เป็นเชื้อเพลิงเครื่องยนต์ในฟาร์ม
ขั้นตอนการผลิตปุ๋ยหมักแห้ง(Compost)จากชิ้นส่วนของพืชที่เหลือทิ้ง
การหมักธรรมชาติ
1.เก็บรวบรวมเศษซากพืชหรือวัสดุต่างๆที่ได้จากพืช นำมากองรวมกัน ให้มีปริมาณที่มากพอสมควร
2.รดน้ำให้กองวัสดุมีความชื้นที่พอเหมาะพอดี รอเวลาให้กองวัสดุย่อยสลายเองตามธรรมชาติจนแปรสภาพเป็นอินทรียวัตถุสีดำหรือสีน้ำตาลเข้ม ซึ่งเรียกว่า ฮิวมัส (Humus)
การหมักโดยใช้เชื้อจุลินทรีย์เร่ง
1.กองเศษซากพืชเป็นชั้นแรกให้มีความหนาประมาณ 30-50 ซม.
2.ใช้มูลสัตว์หว่านให้กระจายทั่วพื้นที่ด้านบนของชั้นเศษซากพืช
3.ใช้สารละลายเชื้อจุลินทรีย์ (พด.ต่างๆ) รดให้ทั่วทั้งกอง
4.ใช้ดินปิดทับชั้นกองวัสดุชั้นแรก
5.กองวัสดุเป็นชั้นที่ 2-3-4 แล้วปฏิบัติในแต่ละชั้นตามข้อ 2,3,4 ในทุกชั้นที่กอง
6.คอยรดน้ำเพื่อให้กองปุ๋ยมีความชื้นอยู่เสมอ และพลิกกลับกองทุกๆ เดือน จนกว่าเศษซากพืชถูกย่อยสลายจนหมด จึงสามารถนำไปใช้ปรับปรุงดินหรือบำรุงต้นพืชได้
ขั้นตอนการผลิตปุ๋ยหมัก(น้ำ)ชีวภาพ (Biofertilizer) จากผลไม้และพืชผัก
1.นำผัก ผลไม้ต่างๆมาสับ ให้มีขนาดเล็กลง (ให้ได้น้ำหนักรวมตามที่ต้องการ)
2.นำผัก ผลไม้ที่สับแล้ว ใส่ลงในถุงตาข่าย แล้วใส่ไว้ในถังที่มีฝาปิดมิดชิด (ในอัตรา 10 ส่วน)
3.ใช้น้ำตาลทรายหรือกากน้ำตาล ละลายน้ำ (ในอัตราส่วน 1:3) ใส่ลงในถังหมัก ปิดฝาให้แน่นอย่าให้มีอากาศเข้าหรือออกจากถังหมักได้ (หมักทิ้งไว้ 2 เดือน) จะได้น้ำปุ๋ยหมักเข้มข้นนำไปใช้งาน
2.การนำวัสดุเหลือใช้/เหลือทิ้งทางการเกษตรมาใช้ในงานเกษตร(reform)
หมายถึง การนำเอาสิ่งที่เหลือจากการเกษตรซึ่งโดยทั่วไปไม่มีราคาแล้วหรือมีราคาที่ค่อนข้างต่ำ นำมาใช้ในกิจกรรมการเกษตรที่เป็นงานผลิตอีกครั้ง โดยนำมาใช้ในรูปแบบเดิมหรือรูปแบบใหม่ก็ได้
กระบวนการของการ นำมาใช้ มี 3 ขั้นตอน
1.การเก็บรวบรวมวัสดุเหลือใช้/เหลือทิ้ง ให้มีปริมาณที่มากพอที่จะนำมาใช้งานได้
2.นำวัสดุเหล่านั้นไปผ่านกระบวนการอย่างง่ายๆ เช่น ตากแห้ง,ย่อย สับ, หมัก
3.นำวัสดุ/วัตถุ ไปใช้ตามกรรมวิธีและวัตถุประสงค์เฉพาะ
ตัวอย่างของการนำวัสดุทางการเกษตรมาใช้ในงานเกษตร
1.การนำฟางข้าว /ตอซัง/ต้นถั่ว/ต้นข้าวโพด/ใบไม้ผลชนิดต่าง ๆ มาทำปุ๋ยหมักแห้ง
2.การใช้เปลือกและต้นข้าวโพดฝักอ่อนมาเป็นอาหารเลี้ยงโคเนื้อ/โคนม
3.การใช้เปลือกสับปะรดมาหมักและใช้เป็นอาหารเลี้ยงโคขุน
4.การใช้ฟางข้าว /ตอซัง/เปลือกถั่วเขียว/ทะลายปาล์มนำมันมาเพาะเห็ดฟางกองเตี้ย/โรงเรือน
5.การใช้มูลสุกรมาเป็นอาหารเลี้ยงสุกรรุ่นและสุกรขุน
6.การใช้มูลสุกร/มูลไก่ เป็นอาหารของปลา
3.การนำวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตรมาใช้กับภาคอุตสาหกรรมบางชนิด (reform ; reuse)
หมายถึงการนำเอาวัสดุบางชนิดจากภาคเกษตรกรรมมาผ่านกระบวนการแปรรูปและขั้นตอนการปฏิบัติจนได้ผลลัพธ์ที่ดีตามวัตถุประสงค์
กระบวนการของการ นำวัสดุเหลือทิ้งมาใช้กับภาคอุตสาหกรรม มี 3 ขั้นตอน
1.การเก็บรวบรวมวัสดุ/วัตถุที่ต้องการใช้ให้มีปริมาณที่มากและพอเพียงกับความต้องการใช้
2.นำวัสดุเหล่านั้นไปผ่านกระบวนการเบื้องต้นต่างๆ เช่น ตากแห้ง,ย่อย สับ, บด,ร่อน,เผา
3.นำวัสดุ/วัตถุ ไปใช้ตามกรรมวิธีและวัตถุประสงค์เฉพาะอย่าง
ตัวอย่างของการ นำวัสดุเหลือทิ้งมาใช้กับภาคอุตสาหกรรม
1.การใช้เปลือกไข่และแกลบเผา บำบัดโลหะหนัก(ตะกั่ว (Pb) และแคดเมียม(Cd))ในน้ำเสียของโรงงานอุตสาหกรรมและเหมืองแร่
2.การผลิตวัสดุแทนไม้จากหญ้าแฝก ฟางข้าว เศษไม้ไผ่ ใบปาล์ม กากสมุนไพรต่างๆ
4.การจัดการสิ่งปฏิกูลของสัตว์เลี้ยง/ขยะอินทรีย์/เศษอาหาร
หมายถึง การกำจัดสิ่งที่ก่อให้เกิดมลภาวะ(pollution)ทางดิน ทางอากาศและทางน้ำ รวมทั้งการก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน (global warm)
กระบวนการนี้ต้องใช้ “จุลินทรีย์ประสิทธิภาพ”(Effective Micro-organism=EM)ซึ่งมีอยู่มากถึง 5 Family 10 Genus 80 Species เพื่อนำไปเปลี่ยนรูปสารอินทรีย์ต่างๆที่มีอยู่ในอินทรียวัตถุนานาชนิดให้เป็นมิตรกับสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อมทุกชนิดไม่ว่าจะเป็นพืชหรือสัตว์หรือสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว
วิธีการใช้ EM.ส่วนมากจะใช้ในลักษณะของสารละลายเจือจางเพื่อการชำระล้างพื้นหรือการหมักในภาชะปิด
5.การใช้ประโยชน์จากผลพลอยได้ของการปลูกข้าวเพื่อใช้เป็นอาหารของสัตว์เคี้ยวเอื้อง
5.1 การทำฟางปรุงแต่ง
ฟางข้าวเป็นอาหารหยาบที่มีคุณค่าทางอาหารต่ำ แต่เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ได้ใช้ฟางข้าวกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ โดยทั่วๆ ไปฟางข้าวจะมีโปรตีน 3-4 % โภชนะที่ย่อยได้ทั้งสิ้น 35-50 % มีไวตามินเอ แคลเซียม ฟอสฟอรัส และแร่ธาตุอื่น ๆ ต่ำมาก
การใช้ฟางข้าวอย่างเดียวมีข้อเสียบางประการ เพราะปริมาณของโปรตีน พลังงาน และแร่ธาตุในระดับนี้ จะไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพของสัตว์เคี้ยวเอื้อง ดังนั้นวัวควาย แพะ แกะ ที่กินแต่ฟางแห้งอย่างเดียวจะไม่สามารถเจริญเติบโต แต่จะสูญเสียน้ำหนักไปเรื่อย ๆ ถ้าเราจะใช้ประโยชน์จากฟางข้าวให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เราจะต้องปรับปรุงคุณภาพและแก้ไขวิธีการให้อาหารแก่สัตว์เลี้ยงดังกล่าว
การเพิ่มคุณค่าทางอาหารและการใช้ประโยชน์จากฟางข้าวสามารถทำได้ 2 วิธี ดังมีรายละเอียดต่อไปนี้
ก.การปฏิบัติต่างๆ (treatment) เพื่อปรับปรุงคุณภาพฟางข้าว เช่น การตัด การแช่น้ำ การลดปริมาณลิกนิน หรือการเตรียมให้เป็นฟางอัดก้อน ฟางอัดเม็ด เป็นต้น การตัดการบด การแช่น้ำและการอัดเม็ดอัดก้อนจะทำให้สัตว์กินฟางได้มากขึ้น และการย่อยได้ก็เพิ่มขึ้นด้วย ยกตัวอย่าง เช่น การอัดเม็ดโดยใช้ฟาง 80 % ผสมกับกากเมล็ดฝ้าย 10 % กากน้ำตาล 6 % ไขมัน 2 % ยูเรีย 1 % แร่ธาตุอื่น ๆ 1 % จะได้อาหารอัดเม็ดที่มีคุณภาพดี ทำให้วัวตอนเจริญเติบโตดีและกินฟางอัดเม็ดนี้ได้ถึง 2.9 % ของน้ำหนักตัว ในขณะที่วัว ซึ่งกินฟางข้าวเพียง 2.4 % ของน้ำหนักตัว
ตามปกติสัตว์จะกินอาหารอัดเม็ดได้มากกว่าอาหารอัดก้อน (cube) และสัตว์กินอาหารอัดก้อนได้มากกว่าอาหารบดธรรมดา นอกจากนี้การเอาฟางมาอบด้วยความร้อนและความดันของไอน้ำที่ 28 กิโลกรัมต่อตารางเซนติเมตร เป็นเวลานาน 3 นาที จะทำให้การย่อยได้ของฟางเพิ่มขึ้นจากเดิมครึ่งเท่า แต่ถ้าใช้ฟางทำปฏิกริยากับด่างโซดาไฟ 3 % ภายใต้ความดันและไอน้ำร้อน จะทำให้การย่อยได้ของฟางเพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 2 เท่าตัว
การปรับปรุงคุณภาพของฟางข้าวอีกวิธีหนึ่งก็คือการใช้สารเคมีบางชนิดเพื่อลดปริมาณของลิกนิน และทำให้เซลล์ของพืชพองตัว จะทำให้การย่อยได้ของฟางเพิ่มขึ้นอย่างมาก และยังผลให้สัตว์กินฟางที่ปรุงแต่งนี้มากด้วย สารเคมีที่นิยมใช้กันมากมี 3-4 ชนิด คือ โซดาไฟ (NaOH) ปูนขาว (calcium hydroxide=Ca(OH)2) และแอมโมเนียในรูปต่าง ๆ ถ้าเรานำฟางไปแช่ในสารละลายโซดาไฟ 1.5-2 % นาน 18-24 ชั่วโมง จะทำให้การกินการย่อยได้ของฟางเพิ่มขึ้นมากมาย หรือถ้าเราใช้สารละลายโซดาไฟที่เข้มข้น 3.5-5 % ฉีดพ่นบนฟางข้าวแล้วหมักทิ้งไว้สักครึ่งวันหรือจะนำไปให้สัตว์กินทันที พบว่าวัวรุ่นลูกผสมจะกินฟางปรุงแต่งได้มากขึ้นหนึ่งเท่าครึ่งของฟางธรรมดา และมีอัตราการเจริญเติบโตมากกว่าเกือบสองเท่า การแช่ฟางข้าวในสารละลายปูนขาว 1.5 % นาน 24-48 ชั่วโมง ก็มีผลทำให้ปริมาณการกินการย่อยของฟางข้าวเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน
ในปัจจุบันนี้ได้มีผู้นิยมปรุงแต่งฟางข้าวโดยใช้สารยูเรีย เพราะเป็นสารที่หาได้ง่าย ไม่เป็นอันตรายต่อคนและสัตว์ ดังนั้นเราจึงนิยมใช้ยูเรียประมาณ 6 % โดยกการใช้ผ้าพลาสติคปูบนพื้น แล้วนำฟางมาวางเรียงให้เป็นกอง ใช้น้ำจำนวน 3 ปีบ (60 ลิตร) รดกองฟาง น.น. 100 กก. ให้ทั่วโดยใช้บัวรดน้ำ ต่อมาเอายูเรีย 6 กก. ละลายในน้ำ 2 ปีบ (40 ลิตร) ใส่ในบัวรดน้ำแล้วราดบนฟางให้ชุ่ม หากทำกองใหญ่ใหห้ทำทีละ 100 กก. ปิดหุ้มกองฟางด้วยผ้าพลาสติคเก็บชายพลาสติคให้แน่นหาไม้หรือวัสดุกันแสงมาวางทับพอประมาณและหมักไว้นาน 21 วัน ในสูตรดังกล่าวอาจใช้ กากน้ำตาล 3-5 % และเกลือ 0.3 % เพื่อเพิ่มความน่ากิน พบว่าฟางหมักยูเรียจะมีโปรตีนเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า ปริมาณการกินการย่อยของฟางหมักจะเพิ่มขึ้น 8-15 % และสามารถรักษาน้ำหนักของวัวในช่วงสั้น ๆ ได้
ข. การให้อาหารเสริม (supplementation) เนื่องจากฟางข้าวมีคุณภาพต่ำ และแม้จะได้ปรุงแต่งโดยใช้โซดาไฟหรือยูเรียมาแล้วก็ตามเราไม่สามารถจะเลี้ยงสัตว์ด้วยฟางปรุงแต่งดังกล่าวแต่เพียงอย่างเดียวเป็นเวลานาน ๆ เพราะการปรุงแต่งส่วนใหญ่จะเป็นการเพิ่มปริมาณการกินและการย่อย และจะเพิ่มปริมาณของโปรตีนขึ้นเมื่อเราใส่แอมโมเนียหรือยูเรีย และ โปรตีนดังกล่าวก็ไม่ใช่โปรตีนที่แท้จริง แต่เป็นแหล่งของไนโตรเจนที่จุลินทรีย์ในกระเพาะจะเอาไปสร้างโปรตีนอีกทีหนึ่ง ดังนั้นในการใช้ประโยชน์จากฟางข้าวธรรมดาหรือฟางที่ปรุงแต่งแล้วก็ตาม เราควรจะได้พิจารณาให้อาหารเสริมแก่สัตว์ด้วย และอาหารเสริมดังกล่าวควรจะประกอบด้วยอาหารพลังงาน โปรตีน แร่ธาตุ และไวตามินที่จุลินทรีย์ในกระเพาะจะได้แบ่งไปใช้ส่วนหนึ่ง และตัวสัตว์เองจะได้นำเอาไปใช้อีกส่วนหนึ่ง อาหารเสริมที่ควรใช้ร่วมกับฟางข้าวธรรมดาหรือฟางปรุงแต่งมีดังต่อไปนี้
1.ฟางบวกกับอาหารข้นชนิดต่าง ๆ เช่น ปลาป่น กากถั่ว หางนมผง เนื้อป่น กากเมล็ดฝ้าย ยูเรียผสมกับกากเมล็ดฝ้าย รำ ปลายข้าว เป็นต้น
2.ฟางบวกกับรำและเกลือแร่ต่าง ๆ
3.ฟางบวกกับยูเรียและเกลือแร่ต่าง ๆ
4.ฟางบวกกับยูเรีย กากน้ำตาลและเกลือแร่ต่าง ๆ
5.ฟางหมักยูเรียบวกรำข้าว ใบมันสำปะหลังแห้งหรืออาหารข้นอื่น ๆ
6.ฟางบวกกับข้าวฟ่าง ยูเรีย กากน้ำตาล เกลือแร่ต่าง ๆ
7.ฟางบวกกับแหนแดง หรือผักตบชวา
8.ฟางบวกกับใบกระถิน
9.ฟางบวกกับไมยราพยักษ์หรือฝักจามจุรีและอื่น ๆ
10.ฟางบวกกับอาหารผสมมูลไก่แห้ง
การใช้ผลพลอยได้การเกษตรรูปแบบต่าง ๆ
5.2.หญ้าหมัก (Silage) คือการนำหญ้าหรือพืชต่าง ๆ มาสับเป็นท่อน ๆ นำไปหมัก ในหลุม หรือบังเกอร์ ปิดให้มิดชิด เป็นเวลา 21 วัน ในสภาพที่ไม่มีออกซิเจน (Anaerobic condition) แบคทีเรียชนิดที่ไม่ต้องการออกซิเจนอยู่ได้(Lactobacillus) แบคทีเรียจะใช้คาร์โบไฮเดรตเป็นอาหารทั้งคาร์โบไฮเดรตในหญ้าและคาร์โบไฮเดรตในธัญพืชเสริม(silage preservative) แล้วแบคทีเรียจะผลิตกรดแลคติก(CH3CHOHCOOH) และกรดอะซีติค(CH3COOH)ออกมา ทำให้หญ้าไม่เน่า เมื่อพีเอ็ชได้ที่(ประมาณ 3.5-4) จุลินทรีย์ทุกชนิดแม้กระทั่ง Lactobacillus ไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ ทุกขบวนการจะหยุดทำงาน พืชที่ถูกหมักจะอยู่ในสภาพสด และสามารถเก็บไว้ได้นานเป็นปี โดยส่วนประกอบทางอาหารไม่เปลี่ยนแปลง ถ้าไม่ปล่อยให้อากาศซึมเข้า
5.3.หญ้าแห้ง (Hay) คือการนำหญ้าชนิดต่าง ๆ ที่มีปริมาณน้ำในลำต้นต่ำ ตัดแล้วตากแดด 2-3 แดด ติดกัน เก็บไว้เลี้ยงสัตว์ในหน้าแล้ง
ซื้อ-ขายไม้ฟืนเชียงราย
ซื้อ-ขายไม้ฟืนเชียงใหม่
ซื้อ-ขายไม้ฟืนน่าน
ซื้อ-ขายไม้ฟืนพะเยา
ซื้อ-ขายไม้ฟืนแพร่
ซื้อ-ขายไม้ฟืนแม่ฮ่องสอน
ซื้อ-ขายไม้ฟืนลำปาง
ซื้อ-ขายไม้ฟืนลำพูน
ซื้อ-ขายไม้ฟืนอุตรดิตถ์
ซื้อ-ขายไม้ฟืนกาฬสินธุ์
ซื้อ-ขายไม้ฟืนขอนแก่น
ซื้อ-ขายไม้ฟืนชัยภูมิ
ซื้อ-ขายไม้ฟืนนครพนม
ซื้อ-ขายไม้ฟืนนครราชสีมา
ซื้อ-ขายไม้ฟืนบึงกาฬ
ซื้อ-ขายไม้ฟืนบุรีรัมย์
ซื้อ-ขายไม้ฟืนมหาสารคาม
ซื้อ-ขายไม้ฟืนมุกดาหาร
ซื้อ-ขายไม้ฟืนยโสธร
ซื้อ-ขายไม้ฟืนร้อยเอ็ด
ซื้อ-ขายไม้ฟืนเลย
ซื้อ-ขายไม้ฟืนสกลนคร
ซื้อ-ขายไม้ฟืนสุรินทร์
ซื้อ-ขายไม้ฟืนศรีสะเกษ
ซื้อ-ขายไม้ฟืนหนองคาย
ซื้อ-ขายไม้ฟืนหนองบัวลำภู
ซื้อ-ขายไม้ฟืนอุดรธานี
ซื้อ-ขายไม้ฟืนอุบลราชธานี
ซื้อ-ขายไม้ฟืนอำนาจเจริญ
ซื้อ-ขายไม้ฟืนกำแพงเพชร
ซื้อ-ขายไม้ฟืนชัยนาท
ซื้อ-ขายไม้ฟืนนครนายก
ซื้อ-ขายไม้ฟืนนครปฐม
ซื้อ-ขายไม้ฟืนนครสวรรค์
ซื้อ-ขายไม้ฟืนนนทบุรี
ซื้อ-ขายไม้ฟืนปทุมธานี
ซื้อ-ขายไม้ฟืนพระนครศรีอยุธยา
ซื้อ-ขายไม้ฟืนพิจิตร
ซื้อ-ขายไม้ฟืนพิษณุโลก
ซื้อ-ขายไม้ฟืนเพชรบูรณ์
ซื้อ-ขายไม้ฟืนลพบุรี
ซื้อ-ขายไม้ฟืนสมุทรปราการ
ซื้อ-ขายไม้ฟืนสมุทรสงคราม
ซื้อ-ขายไม้ฟืนสมุทรสาคร
ซื้อ-ขายไม้ฟืนสิงห์บุรี
ซื้อ-ขายไม้ฟืนสุโขทัย
ซื้อ-ขายไม้ฟืนสุพรรณบุรี
ซื้อ-ขายไม้ฟืนสระบุรี
ซื้อ-ขายไม้ฟืนอ่างทอง
ซื้อ-ขายไม้ฟืนอุทัยธานี
ซื้อ-ขายไม้ฟืนจันทบุรี
ซื้อ-ขายไม้ฟืนฉะเชิงเทรา
ซื้อ-ขายไม้ฟืนชลบุรี
ซื้อ-ขายไม้ฟืนตราด
ซื้อ-ขายไม้ฟืนปราจีนบุรี
ซื้อ-ขายไม้ฟืนระยอง
ซื้อ-ขายไม้ฟืนสระแก้ว
ซื้อ-ขายไม้ฟืนกาญจนบุรี
ซื้อ-ขายไม้ฟืนตาก
ซื้อ-ขายไม้ฟืนประจวบคีรีขันธ์
ซื้อ-ขายไม้ฟืนเพชรบุรี
ซื้อ-ขายไม้ฟืนราชบุรี
ซื้อ-ขายไม้ฟืนกระบี่
ซื้อ-ขายไม้ฟืนชุมพร
ซื้อ-ขายไม้ฟืนตรัง
ซื้อ-ขายไม้ฟืนนครศรีธรรมราช
ซื้อ-ขายไม้ฟืนนราธิวาส
ซื้อ-ขายไม้ฟืนปัตตานี
ซื้อ-ขายไม้ฟืนพังงา
ซื้อ-ขายไม้ฟืนพัทลุง
ซื้อ-ขายไม้ฟืนภูเก็ต
ซื้อ-ขายไม้ฟืนระนอง
ซื้อ-ขายไม้ฟืนสตูล
ซื้อ-ขายไม้ฟืนสงขลา
ซื้อ-ขายไม้ฟืนสุราษฎร์ธานี
ซื้อ-ขายไม้ฟืนยะลา
ซื้อ-ขายไม้ฟืนกรุงเทพมหานคร
ซื้อ-ขายไม้ฟืนคลองสาน
ซื้อ-ขายไม้ฟืนคลองสามวา
ซื้อ-ขายไม้ฟืนคลองเตย
ซื้อ-ขายไม้ฟืนคันนายาว
ซื้อ-ขายไม้ฟืนจอมทอง
ซื้อ-ขายไม้ฟืนดอนเมือง
ซื้อ-ขายไม้ฟืนดินแดง
ซื้อ-ขายไม้ฟืนดุสิต
ซื้อ-ขายไม้ฟืนตลิ่งชัน
ซื้อ-ขายไม้ฟืนทวีวัฒนา
ซื้อ-ขายไม้ฟืนทุ่งครุ
ซื้อ-ขายไม้ฟืนธนบุรี
ซื้อ-ขายไม้ฟืนบางกอกน้อย
ซื้อ-ขายไม้ฟืนบางกอกใหญ่
ซื้อ-ขายไม้ฟืนบางกะปิ
ซื้อ-ขายไม้ฟืนบางคอแหลม
ซื้อ-ขายไม้ฟืนบางซื่อ
ซื้อ-ขายไม้ฟืนบางนา
ซื้อ-ขายไม้ฟืนบางพลัด
ซื้อ-ขายไม้ฟืนบางรัก
ซื้อ-ขายไม้ฟืนบางเขน
ซื้อ-ขายไม้ฟืนบางแค
ซื้อ-ขายไม้ฟืนบึงกุ่ม
ซื้อ-ขายไม้ฟืนปทุมวัน
ซื้อ-ขายไม้ฟืนประเวศ
ซื้อ-ขายไม้ฟืนป้อมปราบศัตรูพ่าย
ซื้อ-ขายไม้ฟืนพญาไท
ซื้อ-ขายไม้ฟืนพระนคร
ซื้อ-ขายไม้ฟืนพระโขนง
ซื้อ-ขายไม้ฟืนภาษีเจริญ
ซื้อ-ขายไม้ฟืนมีนบุรี
ซื้อ-ขายไม้ฟืนยานนาวา
ซื้อ-ขายไม้ฟืนราชเทวี
ซื้อ-ขายไม้ฟืนราษฎร์บูรณะ
ซื้อ-ขายไม้ฟืนลาดกระบัง
ซื้อ-ขายไม้ฟืนลาดพร้าว
ซื้อ-ขายไม้ฟืนวังทองหลาง
ซื้อ-ขายไม้ฟืนวัฒนา
ซื้อ-ขายไม้ฟืนสวนหลวง
ซื้อ-ขายไม้ฟืนสะพานสูง
ซื้อ-ขายไม้ฟืนสัมพันธวงศ์
ซื้อ-ขายไม้ฟืนสาทร
ซื้อ-ขายไม้ฟืนสายไหม
ซื้อ-ขายไม้ฟืนหนองจอก
ซื้อ-ขายไม้ฟืนหนองแขม
ซื้อ-ขายไม้ฟืนหลักสี่
ซื้อ-ขายไม้ฟืนห้วยขวาง
ซื้อ-ขายไม้ฟืนเมืองนครปฐม
ซื้อ-ขายไม้ฟืนกำแพงแสน
ซื้อ-ขายไม้ฟืนดอนตูม
ซื้อ-ขายไม้ฟืนนครชัยศรี
ซื้อ-ขายไม้ฟืนบางเลน
ซื้อ-ขายไม้ฟืนพุทธมณฑล
ซื้อ-ขายไม้ฟืนสามพราน
ซื้อ-ขายไม้ฟืนเมืองนนทบุรี
ซื้อ-ขายไม้ฟืนบางกรวย
ซื้อ-ขายไม้ฟืนบางบัวทอง
ซื้อ-ขายไม้ฟืนบางใหญ่
ซื้อ-ขายไม้ฟืนปากเกร็ด
ซื้อ-ขายไม้ฟืนไทรน้อย
ซื้อ-ขายไม้ฟืนเมืองปทุมธานี
ซื้อ-ขายไม้ฟืนคลองหลวง
ซื้อ-ขายไม้ฟืนธัญบุรี
ซื้อ-ขายไม้ฟืนลาดหลุมแก้ว
ซื้อ-ขายไม้ฟืนลำลูกกา
ซื้อ-ขายไม้ฟืนสามโคก
ซื้อ-ขายไม้ฟืนหนองเสือ
ซื้อ-ขายไม้ฟืนเมืองสมุทรปราการ
ซื้อ-ขายไม้ฟืนบางพลี
ซื้อ-ขายไม้ฟืนบางเสาธง
ซื้อ-ขายไม้ฟืนพระประแดง
ซื้อ-ขายไม้ฟืนพระสมุทรเจดีย์
ซื้อ-ขายไม้ฟืนเมืองระยอง
ซื้อ-ขายไม้ฟืนนิคมพัฒนา
ซื้อ-ขายไม้ฟืนเขาชะเมา
ซื้อ-ขายไม้ฟืนบ้านฉาง
ซื้อ-ขายไม้ฟืนปลวกแดง
ซื้อ-ขายไม้ฟืนวังจันทร์
ซื้อ-ขายไม้ฟืนแกลง
ซื้อ-ขายไม้ฟืนเมืองชลบุรี
ซื้อ-ขายไม้ฟืนเกาะจันทร์
ซื้อ-ขายไม้ฟืนบางละมุง
ซื้อ-ขายไม้ฟืนบ่อทอง
ซื้อ-ขายไม้ฟืนบ้านบึง
ซื้อ-ขายไม้ฟืนพนัสนิคม
ซื้อ-ขายไม้ฟืนพานทอง
ซื้อ-ขายไม้ฟืนศรีราชา
ซื้อ-ขายไม้ฟืนสัตหีบ
ซื้อ-ขายไม้ฟืนหนองใหญ่
ซื้อ-ขายไม้ฟืนเกาะสีชัง
ซื้อ-ขายไม้ฟืนเมืองสมุทรสาคร
ซื้อ-ขายไม้ฟืนกระทุ่มแบน
ซื้อ-ขายไม้ฟืนบ้านแพ้ว
ซื้อ-ขายไม้ฟืนมหาชัย
ซื้อ-ขายไม้ฟืนเมืองสมุทร
ซื้อ-ขายไม้ฟืนอัมพวา
ซื้อ-ขายไม้ฟืนบางคนที
ซื้อ-ขายไม้ฟืนเมืองราชบุรี
ซื้อ-ขายไม้ฟืนบ้านคา
ซื้อ-ขายไม้ฟืนจอมบึง
ซื้อ-ขายไม้ฟืนดำเนินสะดวก
ซื้อ-ขายไม้ฟืนบางแพ
ซื้อ-ขายไม้ฟืนบ้านโป่ง
ซื้อ-ขายไม้ฟืนปากท่อ
ซื้อ-ขายไม้ฟืนวัดเพลง
ซื้อ-ขายไม้ฟืนสวนผึ้ง
ซื้อ-ขายไม้ฟืนโพธาราม
ซื้อ-ขายไม้ฟืนเมืองฉะเชิงเทรา
ซื้อ-ขายไม้ฟืนคลองเขื่อน
ซื้อ-ขายไม้ฟืนท่าตะเกียบ
ซื้อ-ขายไม้ฟืนบางคล้า
ซื้อ-ขายไม้ฟืนบางน้ำเปรี้ยว
ซื้อ-ขายไม้ฟืนบางปะกง
ซื้อ-ขายไม้ฟืนบ้านโพธิ์
ซื้อ-ขายไม้ฟืนพนมสารคาม
ซื้อ-ขายไม้ฟืนราชสาส์น
ซื้อ-ขายไม้ฟืนสนามชัยเขต
ซื้อ-ขายไม้ฟืนแปลงยาว
ซื้อ-ขายไม้ฟืนเมืองนครนายก
ซื้อ-ขายไม้ฟืนปากพลี
ซื้อ-ขายไม้ฟืนบ้านนา
ซื้อ-ขายไม้ฟืนองครักษ์