รถรับจ้างขนของต่างจังหวัด - ขนย้ายได้ 24ชม. ไม่ติดเวลา
01 มกราคม 2567
ผู้ชม 198 ผู้ชม
บริการรถบรรทุก 4ล้อ 6ล้อ 10ล้อ
รถบรรทุกรับจ้าง ขนของ ขนสินค้า ขนย้ายบ้าน
รับขนย้ายรถบด แม็คโคร รถไถ
รถเทเลอร์โรเบส
รับย้ายรถขุด รถตัก รถดั้ม สิบล้อ
รับย้ายรถแทรคเตอร์
รับย้ายรถแบคโฮ ย้ายรถแม็คโคร
บริการขนย้ายเครื่องจักร รถโฟล์คลิฟ เครื่องจักรมือสอง
เทรลเลอร์พื้นเลียบโรเบท
5 วิธีดูรถบรรทุกแบบโปรๆ ส่องดีไม่มีโป๊ะ
ถึงแม้ว่าช่วงนี้เศรษฐกิจอาจจะไม่ค่อยสู้ดีนัก แต่ธุรกิจที่เกี่ยวกับรถบรรทุกมือสองนั้นกลับได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น เพราะปัจจุบันมีบริษัทขนส่งเกิดขึ้นใหม่เป็นจำนวนมาก ผู้ประกอบการโดยเฉพาะรายเล็กๆ หรือเพิ่งเริ่มธุรกิจใหม่ๆ ก็ดูจะสนใจรถบรรทุกมือสองเป็นพิเศษ เพราะไม่ต้องลงทุนมากและมีความเสี่ยงน้อย
แต่ถ้าพูดถึงการที่จะเลือกซื้อรถบรรทุกมือสองสักคัน สำหรับมือใหม่ในวงการนี้แล้ว ฟังดูจะกลายเป็นเรื่องน่ากังวล และต้องศึกษารายละเอียดให้ถี่ถ้วนอย่างทันที แต่เรามีวิธีง่ายๆ จาก เจ๊หนิง เต็นท์อมตะบรรทุก มาบอก ไม่โดนหลอกแน่ๆ กับ 5 วิธีดูรถบรรทุกเบื้องต้นแบบมืออาชีพ
1. เช็กเครื่องยนต์ ว่าพร้อมใช้งานหรือไม่?
เริ่มต้นจากการตรวจสอบเลขเครื่องว่าตรงกับในเล่มทะเบียนรถ และในหน้าบันทึกเจ้าหน้าที่มีการเปลี่ยนเครื่องยนต์มาหรือเปล่า เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการโดนสวมทะเบียน จากนั้นลองสตาร์ทเครื่องยนต์แล้วฟังว่ารอบเครื่องยนต์นั้นเดินปกติหรือไม่มีเสียงอะไรที่ผิดปกติหรือเปล่า สังเกตดูที่สีของควันที่ออกมาจากท่อไอเสียหากปล่อยควันขาวๆ ออกมามาก แสดงว่าเครื่องยนต์หลวม และถ้าเป็นควันดำ แสดงว่าเกิดจากการเผาไหม้ไม่หมดนั่นเอง
2. เช็กตัวถัง ว่ายังมีสภาพดีอยู่หรือไม่?
เริ่มจากการตรวจสอบเลขตัวถังว่าตรงกับในเล่มทะเบียนหรือไม่ จากนั้นลองดูลักษณะของตัวถังหรือ Chassis ว่ามีรอยต่อหรือดัดแปลงมาหรือเปล่า ถ้ามีรถอาจเคยเกิดอุบัติเหตุมาก่อน
ที่สำคัญตัวถังต้องไม่เป็นสนิมหากรถคันนี้เป็นรถที่มีอุปกรณ์เป็นตู้แช่เย็นจะต้องเช็กเป็นพิเศษ เพราะสนิมจะส่งผลทำให้มีปัญหาต่อโครงสร้างรถในระยะยาวได้ สุดท้ายต้องดูว่ามีคราบน้ำมันที่มาเกาะตามจุดต่างๆ ของตัวรถหรือไม่ วิธีนี้จะทำให้เห็นการรั่วซึมของน้ำมันต่างๆ ในรถได้
3. เช็กระบบเกียร์ ถือว่าเป็นส่วนที่สำคัญมากสำหรับรถบรรทุก
ฟันเฟืองเกียร์เปรียบเสมือนหัวใจในการขับเคลื่อน อันดับแรกลองเช็กให้ชัวร์เสียก่อนว่ารถบรรทุกที่ท่านกำลังจะซื้อนั้นเป็นเกียร์ประเภทไหนถึงจะเลือกใช้ได้ถูกต้อง เหมาะกับสภาพการใช้งานของเรา จากนั้นลองเข้าเกียร์ว่าทุกเกียร์เข้าง่าย ลื่น หรือไม่ลองเหยียบคลัทช์แล้วไม่รู้สึกว่าลึกจนเกินไป หากลึกมากอาจเป็นอาการของคลัทช์ที่ใกล้จะหมดแล้ว สุดท้ายถ้าจะให้ดีลองขับให้ครบทุกเกียร์ว่ามีอาการแปลกๆ เช่นมีอาการกระตุกหรือเหยียบไม่ออกหรือเปล่า
4. เช็กความพร้อมของอุปกรณ์เสริม เลือกใช้ให้เหมาะสมกับการใช้งาน
อุปกรณ์ที่ติดมากับตัวรถก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญ เพราะต้องดูความพร้อมว่าอุปกรณ์นั้นสามารถใช้งานได้ปกติหรือไม่ มีส่วนไหนชำรุดหรือเป็นสนิมหรือไม่ เพื่อให้พร้อมสำหรับการใช้งาน
5. เช็กเงินในกระเป๋า สิ่งสำคัญที่สุดเหนือสิ่งอื่นใด คือเงินในกระเป๋าเรานั่นเอง
แน่นอนว่ารถบรรทุกมีราคาที่ค่อนข้างสูง กว่าจะครอบครองได้ก็ต้องใช้ระยะเวลาในการเก็บเงินค่อนข้างนาน แต่ตอนนี้ต้องบอกว่าการออกรถบรรทุกนั้นง่ายขึ้นกว่าเดิม เพราะมีไฟแนนซ์รองรับแล้ว ที่สำคัญอย่าลืมเช็กว่าไฟแนนซ์นั้นให้บริการจัดสินเชื่อครอบคลุมรถบรรทุกที่จะซื้อด้วยหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นรถห้าง รถประกอบ รถบรรทุกเก่าอายุอาจถึง 20-25 ปี ซึ่งตอนนี้ "เงินติดล้อ" รับจัดสินเชื่อครอบคลุมทั้งหมดแล้ว
ประเภทรถบรรทุก (รถใหญ่) ที่รับประกันภัย
รถบรรทุก หรือ รถใหญ่ เป็นรถที่ใช้สำหรับเชิงพาณิชย์เพื่อการบรรทุกสินค้าที่หลากหลายจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง โดยบริษัท นำสินประกันภัย รับประกันภัยทั้งการใช้ภายในประเทศ และ สามารถขยายความคุ้มครองข้ามแดนไปยังประเทศเพื่อนบ้านได้
ลักษณะรถบรรทุกที่ใช้มักจะขึ้นกับลักษณะสินค้าที่ใช้ขน เช่น รถหัวลาก ซึ่งมีกำลังเครื่องยนต์มากที่สุดจะใช้ขนตู้ container ที่มีสินค้าอยู่ภายในไปทั้งตู้ ในขณะที่รถสิบล้อ หรือ รถหกล้อ จะใช้ขนสินค้าได้หลายแบบ เช่น ขนดิน, ขนทราย, หรือสินค้าอุปโภคบริโภค และใช้ผ้าใบคลุมเอาไว้ หรือ ต่อตู้ทำเป็นตู้ทึบ เพื่อป้องกันสินค้าเปียกน้ำ หรือ ต่อตู้เย็น(ตู้ที่มีเครื่องทำความเย็น) เพื่อใช้ขนสินค้าที่ต้องควบคุมอุณหภูมิ
การเลือกทำประกันประเภทรถบรรทุก มีการแบ่งประเภทของประกันเหมือนๆ กับประกันภัยรถยนต์ทั่วไป อย่าง ประกันชั้น 1 , 2 และ 3 โดยจะมีการกำหนดอายุ ขนาดของรถบรรทุก ในการเลือกทำประกันบรรทุกที่เหมาะสมที่สุด ดังนี้
– ประกันชั้น 1 มีความคุ้มครองสูงสุด คือ คุ้มครองตัวรถเอาประกันทุกกรณี และคุ้มครองชีวิต/ทรัพย์สิน บุคคลภายนอก เหมาะสำหรับรถที่ยังไม่หมดภาระไฟแนนซ์ หรือ รถที่อายุไม่เกิน 15 ปี
– ประกันชั้น 2 คุ้มครองตัวรถเอาประกันกรณีสูญหาย ไฟไหม้ และคุ้มครองชีวิต/ทรัพย์สิน บุคคลภายนอก เหมาะสำหรับผู้ประกันที่ต้องการลดค่าใช้จ่าย ค่าเบี้ยประกันภัยลง
– ประกันชั้น 3 คุ้มครองเฉพาะชีวิต/ทรัพย์สิน บุคคลภายนอก ซึ่งเป็นการประกันภัยขั้นต่ำที่ผู้ประกอบการทุกคน ต้องทำติดไว้ เพราะรถบรรทุกนั้นมีขนาดใหญ่ ทำให้เมื่อเกิดอุบัติเหตุจะมีความรุนแรงที่มากกว่ารถยนต์ขนาดเล็ก
ประเภทรถบรรทุก (รถใหญ่) ที่รับประกันภัย มีดังนี้
รถบรรทุกตู้แห้ง หรือ ตู้เย็น
เป็นรถบรรทุกที่มีลักษณะเป็นตู้ทึบ และมีหลังคาและตัวถังที่บรรทุกระหว่างผู้โดยสารและผู้ขับเป็นตอนเดียว โดยจะมีประตูบานใหญ่ไว้สำหรับให้ผู้โดยสารขึ้นลง หรือจะเลือกเปิดท้ายก็ได้ มีน้ำหนักไม่เกิน 12 ตัน มี 4 ล้อ หรือ 6 ล้อ
รถบรรทุกยกเทได้ (รถดั๊มพ์)
เป็นรถบรรทุกที่มีลักษณะด้านหน้าเหมือนกับรถบรรทุกตู้แห้ง แต่ส่วนท้ายจะมีชุดอุปกรณ์ไฮดรอลิกส์ เพื่อใช้ยกเทสินค้า โดยส่วนมากใช้บรรทุกหิน ดิน ทราย ปูน อิฐ เป็นต้น มีน้ำหนักเกิน 12 ตัน มี 6 ล้อ
รถบรรทุกมีเครื่องทุ่นแรงไฮดรอลิกส์เครน
เป็นรถบรรทุกที่มีการติดตั้งเครื่องทุ่นแรงไฮดรอลิกส์เครนไว้ด้านท้าย เพื่อใช้สำหรับยกของหนัก หรือติดตั้งกระเช้า
รถบรรทุกมีเครื่องทุ่นแรงเฮี๊ยบ
รถเฮี๊ยบ คือรถบรรทุกที่ติดตั้งเครนสำหรับยกสิ่งของซึ่งมีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการแตกต่างกันออกไป เช่น Boom Truck(USA) , Truck Loader Crane(Japan) , Vehicle Loading(Australia) ปัจจุบันรถเฮี๊ยบ ได้พัฒนาเป็นเครนที่สามารถพับเก็บได้ มีประสิทธิภาพในการยกน้ำหนักได้สูงเมื่อเทียบกับน้ำหนักของตัวเครน มีขนาดกระทัดรัด ใช้พื้นที่ในการติดตั้งน้อย ช่วยเพิ่มเนื้อที่ส่วนที่จะใช้บรรทุกได้มากขึ้น
รถบรรทุกติดตั้งฮุกลิฟท์
Hooklift เป็นอุปกรณ์สำหรับติดรถบรรทุกเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้มีความสะดวกและรวดเร็ว ประหยัดค่าใช้จ่าย ให้รถบรรทุกสามารถยกเทกระบะได้
รถบรรทุกติดตั้งเครื่องฉีดปูน
คือรถบรรทุกที่ด้านท้ายติดตั้งเครื่องฉีดปูน หรือในทางอุตสาหกรรมเรียกกันว่า “ปั๊มคอนกรีต” หรือ “ปั๊มบูม” เป็นเครื่องจักรที่ใช้แรงดันเพื่อผลัก ดันให้คอนกรีตไหลไปในท่อส่งไปยังจุดที่ต้องการ คล้ายๆ กับปั๊มน้ำ ที่มีหน้าที่ดันน้ำให้ไหลไปตามท่อที่ต่อลำเลียง มีส่วนที่เป็นแขนกลไฮดรอลิกส์ที่สามารถยืดออกมาเพื่อลำเลียง คอนกรีตไปเทยังที่ต่างๆ ได้ ตัวปั๊มคอนกรีตและท่อส่งคอนกรีตจะถูก ติดตั้งไว้ด้วยกันบนรถบรรทุก ซึ่งทำให้สะดวกในการเคลื่อนย้ายปั๊ม อีก ทั้งท่อส่งคอนกรีตจะถูกควบคุมด้วยระบบไฮดรอลิก สามารถอำนวย ความสะดวกในการเทคอนกรีตได้เป็นอย่างดี
รถบรรทุกวัสดุอันตราย (แท็งค์น้ำมัน)
เป็นรถที่ใช้ในการบรรทุกเฉพาะเพื่อใช้ในการบรรทุกวัสดุอันตราย ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันเชื้อเพลิง สารเคมี วัตถุระเบิด วัสดุไวไฟ ซึ่งจะมีลักษณะเฉพาะและมีป้ายเตือนอย่างชัดเจน
รถบรรทุกลากจูง
เป็นรถที่เป็นลักษณะสำหรับใช้ลากรถพ่วง รถกึ่งพ่วง เพราะรถเหล่านั้นจะไม่สามารถขับเคลื่อนได้ด้วยตัวเองจึงต้องอาศัยรถประเภทนี้ในการลากจูง
รถพ่วงยกเทได้ (ดั๊มพ์)
เป็นรถที่ไม่ได้ขับเคลื่อนด้วยตัวเอง จึงต้องอาศัยรถอื่นลากจูง จะมีโครงรถที่มีเพลาล้อที่สมบูรณ์ในตัวเอง โดยรถพ่วงยกเทได้ (ดั๊มพ์) จะมีชุดอุปกรณ์ไฮดรอลิกส์ เพื่อใช้ยกเทสินค้า เพื่อเพิ่มความสะดวกยิ่งขึ้น
รถพ่วงพื้นเรียบ
เป็นรถที่มีพื้นสำหรับบรรทุกสินค้าทั่วไปโดยมีทั้งพื้นไม้และพื้นเหล็ก ติดตั้งชุดล็อคตู้คอนเทนเนอร์ (Twist lock) สำหรับบรรทุกตู้สินค้าขนาด 20’, 40’ และ สามารถบรรทุกสินค้าอุตสาหกรรมอื่นๆ ได้ เช่น ม้วนเหล็ก สินค้าพาเลท ปูนซิเมนต์ถุง เป็นต้น