5 สัญญาณเตือนถึงเวลาเปลี่ยนยางรถยนต์
26 กุมภาพันธ์ 2565
ผู้ชม 169 ผู้ชม
ร้านปะยางใกล้ฉัน รับปะยาง 24 ชั่วโมง รับ ปะยาง เปลี่ยนยางรถยนต์ นอกสถานที่ ศูนย์กลาง call center 24 ชั่วโมง หากเกิดเหตุ รถยางรั่ว ยางแตก
ต้องการหาร้านรับปะยาง เปลี่ยนยางรถยนต์ นอกสถานที่ ที่อยู่ใกล้ที่สุด
ปะยางนอกสถานที่
ร้านปะยางรถยนต์ 24 ชมใกล้ฉัน
ปะยางนอกสถานที่ใกล้ฉัน
ร้านปะยาง
ร้านปะยางใกล้ฉัน
ร้านปะยางรถยนต์ใกล้ฉัน
ช่างปะยางรถยนต์นอกสถานที่
ติดต่อสายด่วน
5 สัญญาณเตือนถึงเวลาเปลี่ยนยางรถยนต์
เราย้ำเตือนอยู่เสมอว่ายางรถยนต์เป็นชิ้นส่วนที่มีความสำคัญที่สุดที่ควรจะได้รับการดูแลเอาใจใส่มากเป็นพิเศษ ถ้าแอร์เสียหรือวิทยุพังเรายังคงขับรถต่อไปได้ แต่ถ้ายางแตกหรือระเบิดกะทันหัน เราไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไป แถมยังมีอันตรายอย่างมากอีกด้วย
แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าถึงเวลาต้องเปลี่ยนยางกันแล้ว วันนี้ เวบไซต์ Carlist.my เพื่อนบ้านของเราจากมาเลเซียนำเสนอเคล็ดลับ 5 ข้อให้ผู้ขับขี่ได้ตรวจสอบสภาพยางอย่างรวดเร็ว สามารถทำได้ทั้งคุณผู้หญิงและคุณผู้ชาย
1. ดูที่ตัวบอกสภาพดอกยาง
ยางรถยนต์ส่วนใหญ่มีตัวบอกสภาพดอกยางอยู่บริเวณหน้ายาง ถ้าตัวบอกสภาพดังกล่าวมีความหนาในระดับเดียวกับดอกยาง นั่นหมายความว่าถึงเวลาที่คุณต้องเปลี่ยนยางแล้วเพื่อความปลอดภัย ถ้ายางที่คุณใช้ไม่มีตัวบอกสภาพดอกยาง อีกหนึ่งเคล็ดลับคือการใช้ไม้ขีดไฟทิ่มลงไปในร่องยาง ถ้าคุณเห็นหัวไม้ขีดสีแดง หมายถึงดอกยางเหลือน้อยเกินไปที่จะใช้งานได้ต่อไป
2. แก้มยางแตกหรือแยกส่วน
ถึงแม้ว่าแก้มยางจะไม่ใช่ส่วนที่สัมผัสพื้นถนนโดยตรงเหมือนหน้ายาง แต่ถ้าแก้มยางมีรอยแตกอาจนำไปสู่ยางระเบิดหรือแตกขณะขับขี่ด้วยความเร็วสูงได้
3. ยางบวม
ยางบวมเป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่อันตรายอย่างมาก การบวมของยางส่วนใหญ่เกิดขึ้นบริเวณแก้มยาง สาเหตุหลักมาจากการขับตกหลุมหรือเสียดสีอย่างรุนแรง รวมถึงข้อบกพร่องในกระบวนการผลิตซึ่งทำให้โครงสร้างยางไม่แข็งแรงในจุดที่เกิดการบวม
4. อายุยาง
ยางรถยนต์บางส่วนอาจมีอายุใช้งาน 10 ปีเต็มก่อนที่ดอกยางจะสึกหรอไปจนถึงเวลาเปลี่ยน แต่แน่นอนว่าสมรรถนะการยึดเกาะถนนจะลดลงไปตามการใช้งาน การดูอายุของยางรถยนต์สามารถดูได้ที่ตัวเลขสี่หลักที่ประทับบนแก้มยาง โดยเลขสองตัวแรกบ่งบอกสัปดาห์ที่ผลิต ขณะที่ตัวเลขสองตัวหลังบอกปีทีผลิต ถ้าดูจากภาพจะเห็นว่ายางเส้นนี้ผลิตในสัปดาห์ที่ 40 ปี 2007 การเลือกใช้งานยางใหม่ไม่จำเป็นต้องใช้ยางทีผลิตภายใน 3 - 6 เดือน แต่สามารถเลือกใช้ที่ผลิตภายใน 1 - 2 ปีได้โดยที่ประสิทธิภาพไม่ต่างกัน ขณะที่อายุใช้งานสูงสุดของยางไม่ควรเกิน 4 – 5 ปี (นับตั้งแต่เริ่มใช้งาน)
5. ตำแหน่งรั่วของยาง
เมื่อยางเกิดรั่ว หลายคนนิยมใช้วิธีปะยางแทนการเปลี่ยนยางทั้งเส้น เพราะประหยัดสตางค์ได้มากกว่า แต่ควรตระหนักว่าการปะยางควรทำในบริเวณที่รอยรั่วมีขนาดไม่เกิน 1 ใน 4 นิ้วและเกิดขึ้นบริเวณหน้ายางเท่านั้น (ตามภาพ) การปะยางไม่ควรทำบริเวณแก้มหรือขอบยางเพราะไม่มีประโยชน์อันใดและอาจเป็นอันตรายต่อไปในอีกไม่ช้า
ปะยางรถยนต์ สตรีม Vs แทงไหม แบบไหนดีกว่ากัน หมดปัญหายางรั่วยางแตก
- ปะยางรถยนต์
ปะยางรถยนต์ เป็นบริการของร้านยางรถยนต์ทั่วไปที่มีมาตรฐานเดียวกัน คือ การปะยางแบบสตีม และการปะยางแบบแทงไหม ถ้าเราไม่รู้ว่าปะยางแบบไหนดีแล้วเราไปบอกช่างให้ปะยางแบบนี้นะ หรือช่างแนะนำให้ทำเพราะชำนาญแบบนี้ เพื่อนๆลองอ่านบทความนี้ดูว่าแบบไหนจะดีกว่ากัน ทั้งสองอย่างไม่ได้มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันมากนัก แต่สิ่งที่แตกต่างกันคือก่อนจะปะยางทั้งสองแบบจะต้องดูแผลความเสียหายของยางก่อนว่าเหมาะสมจะปะยางแบบไหน
- ปะยางแบบสตรีม
การปะยางแบบสตีม คือ การปะยางด้วยความร้อน ก่อนจะปะยางด้วยวิธีนี้จะต้องถอดยางออกมาก่อนเพื่อนำไปปะรอยรั่วจากด้านในของตัวยางรถยนต์ วัสดุในการปะยางแบบสตรีมจะเป็นยางแผ่นเล็กๆ ที่ด้านหลังของชิ้นยางสตรีมจะมีตัวละลายความร้อนอยู่ วิธีการปะยางแบบนี้ช่างจะต้องหารอยรั่ว เมื่อพบรอยรั่วแล้วช่างจะนำกระดาษทรายหรือหัวเจียรมาขัดผิวยางรอบๆรอยรั่วด้านในยาง จากนั้นเมื่อผิวยางเรียบแล้วจะทากาวยางลงไป ก่อนใช้ชุดสตรีมยางที่เป็นชิ้นๆปะลงไปอีกที จากนั้นจะนำเครื่องกดความร้อนมากดทับ เมื่อชุดสตรีมปะยางละลายเป็นเนื้อเดียวกับยางด้านในถือว่านำไปใช้งานได้ทันที การปะยางแบบสตรีมถูกใช้มายาวนาน ปัจจุบันร้านยางรถยนต์ก็ยังใช้วิธีนี้อยู่จำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว
มีเพื่อนๆหลายคนถามมาว่าการปะยางแบบสตรีม ต้องดูแผลยางยังไง สำหรับการปะยางรถยนต์แบบนี้เพื่อปะรอยตะปูตำยาง หรือรอยฉีกขาดของยางในรูปแบบแบนราบที่มีแผลไม่ใหญ่มากนัก ประเมินแล้วเมื่อปะยางจะสามารถกลับมาใช้งานเหมือนเดิมได้ หรือยังรับแรงอัดของลมหรือไนโตรเจนได้ดีหรือไม่ ข้อเสียของวิธีนี้คือใช้เวลานาน เพราะจะต้องถอดยางออกมาจากล้อแม็กก่อน อีกทั้งยังต้องถ่วงล้อใหม่หลังจากปะยางเรียบร้อยแล้ว ข้อควรระวังคือการปะยางแบบนี้หากมีการใช้งานระยะยาวหรืออากาศร้อนๆเป็นเวลานาน จะทำให้ชุดปะยางสตรีมหลุดร่อนออกมาเนื้อยางทำให้ ยางรั่ว หรือหนักหน่อยส่งผลให้ยางระเบิด ส่วนค่าเสียหายในการปะยางแบบสตรีมประมาณ 120 – 350 บาท (ขึ้นอยู่กับระดับและการบริการของทางร้าน)
- ปะยางแบบแทงไหม
การปะยางแบบแทงใยไหม หรือแทงตัวหนอน เป็นการปะยางที่ใช้เวลาน้อยมาก ใครที่เร่งรีบต้องไปธุระต่อการปะยางแบบนี้ตอบสนองท่านเป็นอย่างดี เพราะไม่ต้องถอดยางออกมาจากล้อแม็กหรือกะทะล้อ วิธีการปะยางแบบแทงตัวหนอนจะต้องหาจุดหรือแผลที่โดนแทง ช่างจะนำคีมหนีบสิ่งที่ทิ่มเข้าไปในยางออก หลังจากนั้นจะทำการแทงขยายปากรูด้วยอุปกรณ์สำหรับแทงเปิดรูยาง จากนั้นจะนำใยไหม หรือที่เรียกว่าตัวหนอน มีลักษณะเหมือนเข็มร้อยด้ายขนาดใหญ่ แทงเข้าไปอุดรูรั่วไว้ เมื่อแทงเข้าไปจะเหลือปลายหางของใยไหมทั้ง 2 ฝั่งจากนั้นช่างจะดึงอุปกรณ์แทงใยไหมออก การปะยางแบบนี้ใช้เวลาน้อยก็จริง แต่เหมาะสมกับรอยทิ่มของตะปูหรือแผลที่เป็นรูไม่ใหญ่เกินไป ไม่อย่างนั้นจะต้องถอดมาปะยางแบบสตรีม
ข้อดีของการปะยางแบบแทงไหม คือไม่ต้องถอดยางออกจากล้อแม็ก หากช่างมีความชำนาญสูงจะใช้เวลาเพียง 2 นาทีเท่านั้น ซึ่งถือว่ารวดเร็วมากๆแถมยังอุดรอยรั่วได้ดีอีกด้วย หากปะไม่ดีอาจมีรอยรั่วซึม ทำให้ลมหมดยางแบนได้ ส่วนค่าใช้จ่ายในการปะยางแบบแทงไหมจะถูกกว่าแบบสตรีม โดยเสียค่าใช้จ่ายประมาณ 80 – 150 บาท (ขึ้นอยู่กับระดับและการบริการของทางร้าน)
- ปะยางแบบไหนดี
ถ้าจะให้เปรียบเทียบระหว่างปะยางแบบสตรีมกับปะยางรถยนต์แบบแทงไหม แบบไหนดีกว่ากัน คงตอบว่าดีคนละแบบถ้าท่านต้องการความสะดวกรวดเร็ว ไม่ต้องถอดยางไม่ต้องถ่วงล้อใหม่ก็ให้เลือกปะยางแบบแทงใยไหม ถ้าต้องการความแน่นอน ดูคงทนกว่าไม่ต้องกลัวรั่วซึมก็คงต้องปะยางแบบสตรีมที่เสียเวลามากกว่าเสียเงินเยอะกว่า เห็นไหมละครับว่าทุกอย่างมีข้อดีและข้อเสีย และหวังว่าทุกท่านจะนำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี
ยางรถยนต์เป็นส่วนหนึ่งที่สามารถทำให้รถของเราเกิดอุบัติเหตุได้ ไม่ว่าจะเป็น ยางรั่วซึม ยางแตก ยางระเบิด เพราะยางเปรียบเสมือนการขับเคลื่อนหากมียางเส้นไหนระเบิดก็เสียหลักได้ ซึ่งเสียหลักรถผลิกคว่ำขึ้นมาคงเสียเงินอีกเป็นหมื่นเป็นแสน หรือนำรถกลับมาสภาพเดิมไม่ได้อีกต่อไป เพียงเรื่องยางก็ทำให้ท่านพวกหัวไม่น้อย แต่เรามีวิธีแนะนำที่จะทำให้ท่านสบายใจได้ คือการทำประกันภัยรถยนต์ ที่สามารถคุ้มครองรถของท่าน ไม่ว่าจะเป็นกรณี รถชนรถ น้ำท่วมรถ ไฟไหม้รถ รถหาย รถผลิกคว่ำ ปล่อยให้เป็นเรื่องของบริษัทประกันภัยดูแลเถอะครับ จะได้ขับรถอย่างสบายใจ
ปะยางรถนอกสถานที่เชียงราย