เลือกสร้างสระว่ายน้ำแบบไหนคุ้มค่า?ปี2023
27 มีนาคม 2566
ผู้ชม 226 ผู้ชม
ออกแบบติดตั้งสระว่ายน้ำ ครบวงจร ทีมงานมืออาชีพด้านสระ ปรึกษาฟรี!ม่าน น้ำตก จัดสวนฮวงจุ้ย ในราคาที่คุณเอื่อมถึง เนรมิตรบ้านคุณให้เป็น Pool Villa ได้ง่าย ประสบการณ์ 20 ปี บริการหลังการขายดีเยี่ยม ผลงานของเรา
สร้างสระว่ายน้ำ
สร้างสระว่ายน้ําราคา
ทําสระว่ายน้ําราคา
สร้างสระว่ายน้ําเองราคาถูก
ทำสระว่ายน้ำ
ม่านน้ำ
ม่านน้ำตก
ม่านน้ำพุ
ม่านน้ำตกบ่อปลา
จัดสวนฮวงจุ้ย
ติดต่อสอบถาม
เลือกสร้างสระว่ายน้ำแบบไหนคุ้มค่า?
บ้านและสวนตอบกระทู้สัปดาห์นี้ เรามีข้อสงสัย จากกระทู้พันทิปที่หลายคนยังข้องใจเกี่ยวกับเรื่องบ้านและเรื่องสวน ซึ่งคำถามยอดนิยมที่หยิบมาหาคำตอบ คือ เลือกสร้างสระว่ายน้ำแบบไหนคุ้มค่า?
จากคำถาม : อยากสร้างสระว่ายน้ำ ขนาดกว้าง 3 เมตร ยาว 7 เมตร สำหรับให้บริการ ในอพาร์ตเมนต์ขนาดเล็กค่ะ
- โครงสร้างมี 2 แบบ คือ แบบคอนกรีต กับ แบบไฟเบอร์กลาส
- ระบบสระว่ายน้ำก็มี 2 แบบอีก คือระบบ Skimmer และ ระบบ Over Flow ( ระบบน้ำล้น)
- ส่วนระบบบำบัดน้ำเสียมีแบบ ระบบเกลือกับระบบคลอรีน
ถ้าอยากได้แบบคงทนอย่างน้อย10ปีขึ้น ดูแลรักษาง่าย ไม่มีปัญหาจุกจิกและคุ้มค่าราคา ควรเลือกแบบไหนดี
โครงสร้างสระว่ายน้ำ
เราสามารถแบ่งตามวิธีก่อสร้างได้เป็น 2 ประเภท คือ
1.สระว่ายน้ำคอนกรีต ใช้โครงสร้างพื้นและผนังสระเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กทั้งหมด ข้อดีของโครงสร้างชนิดนี้ คือ มีความแข็งแรงทนทาน และสามารถออกแบบรูปทรงได้หลากหลาย
2.สระว่ายน้ำสำเร็จรูป เป็นสระว่ายน้ำที่ผลิตจากวัสดุประเภทพอลิเมอร์สำเร็จมาจากโรงงาน แล้วนำมาติดตั้งบนโครงสร้างรองรับสระซึ่งเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กในพื้นที่ที่เราเตรียมไว้
สระว่ายน้ำสำเร็จรูปอีกชนิดหนึ่งคือ สระที่ทำจากโครงสร้างเหล็กหรือพลาสติกหล่อ(Fiberglass)คุณภาพดี แล้วปูผ้าไวนิลที่ผลิตขึ้นมาสำหรับสระว่ายน้ำโดยเฉพาะ โดยใช้แรงดันน้ำเป็นตัวบังคับให้ผ้าไวนิลติดแนบกับโครงสร้างพื้นและผนังที่เตรียมไว้ สำหรับสระว่ายน้ำสำเร็จรูปนั้นอาจมีข้อจำกัดเรื่องรูปทรงที่ไม่หลากหลายนัก เพราะผลิตตามแบบมาตรฐานของโรงงาน แต่จะมีราคาถูกและสร้างได้รวดเร็วกว่าสระว่ายน้ำโครงสร้างคอนกรีต อีกทั้งสระสำเร็จรูปที่ผลิตจากไวนิลจะต้องมีการเปลี่ยนผ้าไวนิลทุกๆ 10 ปี
ระบบสระว่ายน้ำ
ปัจจุบันระบบสระว่ายน้ำที่นิยมใช้กันมีอยู่ 2 ประเภทใหญ่ๆคือ ระบบSkimmer และ ระบบOver Flow (ระบบน้ำล้น)
ทั้ง 2 ระบบนี้มีการทำงานต่างกันตรงที่ระบบ Over Flow (ระบบน้ำล้น)จะนำน้ำไปบำบัด โดยการให้น้ำในสระล้นออกมายังรางน้ำล้นข้างสระ แล้วนำน้ำที่ล้นออกมาไปพักไว้ที่ถังพักน้ำ (Surge Tank) ก่อนจะปั๊มน้ำไปผ่านเครื่องกรองน้ำในห้องเครื่อง ทำให้ผิวสระว่ายน้ำที่ใช้ระบบนี้ดูตึงสวย เพราะอยู่ระดับเดียวกับพื้นรอบสระ แต่ก็จะสามารถมองเห็นรางน้ำล้นที่ดูคล้ายกับท่อระบายน้ำรอบสระด้วย
ในขณะที่ระบบ Skimmer นั้นจะนำน้ำไปบำบัด โดยผ่านช่องด้านข้างของผนังสระ ทำให้ผิวน้ำอยู่ในระดับต่ำกว่าพื้นรอบสระประมาณ 4-10 เซนติเมตร ระบบนี้ไม่ต้องมีถังพักน้ำ (Surge Tank) ทำให้เราประหยัดน้ำ และราคาค่าก่อสร้างของระบบ Skimmer ก็ถูกกว่าระบบ Over Flow นอกจากนี้ในปัจจุบันระบบ Skimmer ยังได้รับการพัฒนาให้สะดวกในการใช้งานมากขึ้น โดยมีรูปแบบเป็นเครื่องกรองสำเร็จรูป ไม่ต้องเดินท่อ เพียงแค่มีสระและติดเครื่องไว้ที่ขอบสระ ก็ทำงานได้เลย ซึ่งระบบนี้จะเหมาะกับสระที่มีขนาดเล็กหรือประมาณไม่เกิน 12 x 6 เมตร ราคาเครื่องอยู่ที่ประมาณ 2 แสนกว่าบาท ซึ่งหากสระมีขนาดเล็กมากก็อาจเพิ่มออปชั่นระบบว่ายทวนกระแสเข้าไปด้วยก็ได้ โดยต้องเสียค่าใช้จ่ายสำหรับระบบนี้เพิ่มขึ้นประมาณหนึ่งแสนบาท
ระบบบำบัดน้ำ
ปัจจุบันระบบบำบัดน้ำในสระที่นิยมใช้มีอยู่ 3 ระบบ คือ
ระบบคลอรีน
เป็นระบบฆ่าเชื้อโรคที่มีราคาถูก และนิยมใช้กันมากที่สุด อยู่ในรูปของเหลว เม็ด และผงคลอรีน วิธีใช้คือค่อยๆละลายลงในสระว่ายน้ำ แต่จะสามารถฆ่าเชื้อโรคได้ เมื่อค่า pH ในน้ำอยู่ระหว่าง 7.2 – 7.8 หากค่า pH สูงหรือน้ำในสระมีค่าความเป็นด่างมากก็จะต้องเติมกรดลงไปก่อน และถ้าน้ำในสระมีค่า pH ต่ำหรือมีค่าความเป็นกรดสูง ก็จะต้องเติมสารที่เป็นด่างจำพวก Buffer หรือ Soda ash เพื่อปรับค่า pH ในน้ำก่อน ซึ่งสารคลอรีนนั้นอาจมีผลทำให้เกิดการระคายเคืองกับผิวหนังได้ ดังนั้นการละลายคลอรีนจึงควรทำในช่วงเย็นหลังจากที่ใช้สระเสร็จแล้ว และจะต้องเปิดเครื่องกรองทิ้งไว้อย่างน้อย 3-4 ชั่วโมงด้วย
สำหรับสระว่ายน้ำขนาด 4 x 8 เมตร ค่าดูแลรักษาด้วยคลอรีนประมาณ 3,000 – 4,000 บาทต่อเดือน (ขึ้นอยู่กับปริมาณการใช้งานสระว่ายน้ำ และสภาพอากาศ)
ระบบน้ำเกลือ
เป็นระบบที่ฆ่าเชื้อโรคด้วยเกลือ ซึ่งไม่เป็นอันตรายต่อสุภาพ ทั้งยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิวหนังอีกด้วย แต่มีราคาค่าติดตั้งค่อนข้างสูง และมีความเป็นด่างทำให้น้ำในสระมีรสกร่อยเล็กน้อย
สระว่ายน้ำขนาด 4 x 8 เมตร ราคาค่าติดตั้งระบบบำบัดน้ำเกลือประมาณ 40,000 – 50,000 บาท และเสียค่าดูแลรักษาหลังจากนั้นประมาณ 400 – 600 บาทต่อเดือน
ระบบโอโซน
เป็นระบบที่ฆ่าเชื้อโรคในน้ำ ด้วยการผลิตก๊าซโอโซนจากเครื่องอัดอากาศมาบำบัดน้ำในสระโดยตรง เป็นระบบที่มีประสิทธิภาพมาก เพราะไม่มีสารตกค้างในน้ำ แต่ระบบนี้จะมีระยะเวลาในการฆ่าเชื้อโรคสั้นกว่าระบบอื่น และมีราคาค่าติดตั้งสูง สระว่ายน้ำขนาด 4 x 8 เมตร ราคาค่าติดตั้งระบบบำบัดแบบโอโซนประมาณ 150,000 – 200,000 บาท
สรุปทั้ง 3 อย่าง
1. โครงสร้างสระว่ายน้ำ ทั้ง 2 แบบมีความทนทานที่อยู่ได้ถึง 10 ปี ส่วนเรื่องราคาสระว่ายน้ำสำเร็จรูปจะมีราคาถูกกว่า อีกทั้งการสร้างยังรวดเร็วกว่า แต่เรื่องการออกแบบอาจจะไม่เท่ากับโครงสรา้งคอนกรีตที่อิสระในการออกแบบมากกว่า
2. ระบบสระว่ายน้ำ แบบ Over Flow จะทำให้ภาพรวมสระว่ายน้ำดูสวย แต่ราคาค่าก่อสร้างจะแพงกว่า อีกทั้งแบบ Skimmer ยังประหยัดน้ำมากกว่า ซึ่งถ้าสระว่ายน้ำภายในบ้านก็ใช้แบบ Skimmer เพียงพอแล้ว
3. ระบบบำบัดน้ำ แบบคลอรีนเริ่มต้นจะมีราคาที่ถูกกว่า แต่ค่าดูแลรักษาหลังจากนั้นจะมากกว่า ส่วนระบบน้ำเกลือค่าติดตั้งช่วงแรกจะแพงกว่า แต่ค่าดูแลรักษาหลังจากนั้นจะถูกกว่าแบบคลอรีน ซึ่งถ้าคิดเรื่องสุขภาพ ระบบน้ำเกลือจะดีต่อสุขภาพผิวมากกว่าระบบคลอรีน