ช่างจิตรกรรมฝาผนังรามอินทรา โทร 098-1682236
หมวดหมู่สินค้า: rtd48 หล่อพระ
02 เมษายน 2565
ผู้ชม 86 ผู้ชม
โรงหล่อพระ พระพุทธรูป ทุกขนาด ทุกแบบ รับสั่งทำตามต้องการ รับหล่อพระตามแบบประสบการณ์กว่า 40ปี หล่อพระพุทธรูป บริการ หล่อพระประธาน หล่อพระตามแบบ
ช่างบูรณะองค์พระพุทธรูปรามอินทรา
ช่างจิตรกรรมฝาผนังรามอินทรา
ช่างสีบูรณะโบสถ์รามอินทรา
น้ำตกหินเทียมรามอินทรา
น้ำตกจำลองรามอินทรา
ปั้นหุ่นรูปเหมือนรามอินทรา
น้ำตกจำลองรามอินทรา
ปั้นหุ่นรูปเหมือนรามอินทรา
ไฟเบอร์กลาสรามอินทรา
ช่างปั้นหุ่นขี้ผึ้งรามอินทรา
ช่างหล่อโลหะรามอินทรา
งานหล่อทองเหลืองรามอินทรา
ช่างปั้นหุ่นขี้ผึ้งรามอินทรา
ช่างหล่อโลหะรามอินทรา
งานหล่อทองเหลืองรามอินทรา
ช่างโรงหล่อพระ ปั้นหินเทียม
- ช่างปิดทองรามอินทรา - ช่างปิดกระจก - ช่างลายปูนปั้น - ช่างจิตรกรรมฝาผนัง - ช่างดีดโบสถ์
- ช่างทำลายรดน้ำปิดสีทองคำเปลว. บริการแนะนำช่างฝีมืองานวัด
ยกโบสถ์รามอินทรา ดีดโบสถ์ ย้ายโบสถ์ หมุนโบสถ์ เสริมฐานรากโบสถ์ แก้ไขโบสท์ทรุดตัว ซ่อมโบสถ์ทรุด ยกอาคาร
โรงหล่อพระรามอินทรา ไฟเบอร์กลาส หล่อพระ รับปั้นรูปเหมือนรามอินทรา งาน ประติมากรรม รูปหล่อไฟเบอร์พระ หุ่นขี้ผึ้ง ไฟเบอร์กลาสราคา หุ่นไฟเบอร์กลาส ช่างปั้นพระพุทธ รูปรับทำหุ่นขี้ผึ้ง สร้าง พระประธาน รับหล่อพระ รับปั้นหุ่น หุ่นขี้ผึ้ง พระเกจิ รับปั้นพระพุทธรูป
พระพุทธรูป หมายถึง รูปที่สร้างขึ้นแทนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อกราบไหว้บูชา อาจใช้การแกะสลักจากวัสดุต่าง ๆ เช่น ศิลา งา ไม้ หรือวัสดุอื่น ๆ นอกจากนี้ยังอาจใช้การปั้นหรือหล่อด้วยโลหะก็ได้ โดยทั่วไป คำว่า พระพุทธรูปมักจะหมายถึง รูปขนาดใหญ่พอที่จะวางบูชาได้ สำหรับรูปขนาดเล็กมักจะเรียกว่า พระเครื่อง อย่างไรก็ตาม ทั้งสองแบบสามารถเรียกว่า พระพุทธรูป ได้เช่นกัน
กำเนิดพระพุทธรูป
แต่เดิมนั้นพุทธศาสนาไม่มีรูปเคารพแต่อย่างใด ศาสนาพราหมณ์ หรือ ฮินดู ซึ่งมีมาก่อนศาสนาพุทธ ก็ไม่มีรูปเคารพเป็นเทวรูปเช่นกัน หลังจากพระพุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้ว ผู้ที่เลื่อมใสในพุทธศาสนา อยากจะมีสิ่งที่จะทำให้รำลึกถึง หรือเป็นสัญญลักษณ์ขององค์ศาสดา เพื่อที่จะบอกกล่าวเล่าขาน เรื่องราวขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ทรงศึกษาค้นคว้าหาทางดับทุกข์ และทรงชี้แนะสอนสั่งผู้คน ถึงการปฏิบัติเพื่อให้บรรลุถึงความเป็นอยู่ ที่ก่อให้เกิดความผาสุกในหมู่มวลมนุษย์และสิ่งมีชีวิตในโลก
คราวแรกนั้นชาวพุทธก็ได้แต่นำเอาสิ่งของอันได้แก่ ดิน น้ำ และกิ่ง ก้าน ใบโพธิ์ จากบริเวณสังเวชนียสถาน 4 แห่ง คือ สถานที่ประสูติ (ลุมพินีวัน), ตรัสรู้ (พุทธคยา), ปฐมเทศนา (สารนาถ) และปรินิพพาน (กุสินารา) เก็บมาไว้เป็นที่ระลึกบูชาคุณพระพุทธเจ้า
ล่วงมาถึงในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช พุทธศาสนูปถัมภกที่ยิ่งใหญ่พระองค์หนึ่ง เมื่อ 2,200 ปีก่อน หรือหลังจากการดับขันธ์ของพระพุทธเจ้ามา 300 ปี พระเจ้าอโศกมหาราช ได้ทรงส่งสมณะทูต จำนวน 500 รูป ไปเผยแผ่พระพุทธศาสนายังเมืองตักกศิลา แคว้นคันธารราฐ จึงมีชื่อเสียงในฐานะเป็นเมืองที่ประสิทธิประสาทวิทยาการต่าง ๆ นับว่า "เป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกทางพระพุทธศาสนา" แต่ก็ยังไม่มีรูปเคารพแทนพระพุทธเจ้าที่เป็นรูปคน
พระพุทธรูป หรือ รูปเคารพแทนพระพุทธเจ้า ในตำนานเรื่องพระแก่นจันทน์ได้พรรณาเรื่องพระพุทธรูปองค์แรกไว้ว่า ครั้งที่พระพุทธเจ้าเสด็จจำพรรษาเพื่อโปรดพุทธมารดา ณ สวรรค์ชั้นดาวดึงส์นั้น พระเจ้าปเสนทิโกศล กษัตริย์แห่งเมืองสาวัตถี ทรงรำลึกถึงพระพุทธองค์เป็นอย่างมาก จึงโปรดฯให้ช่างหาไม้แก่นจันทน์หอมที่ดีที่สุด มาแกะสลักเป็นพระพุทธรูปอันงดงาม มีพุทธลักษณะคล้ายพระพุทธองค์ แล้วอัญเชิญไปประดิษฐานยังพระราชมณเฑียร
เมื่อพระบรมศาสดาเสด็จกลับจากดาวดึงส์ และเสด็จมายังเมืองสาวัตถี พระเจ้าปเสนทิโกศลจึงทูลอาราธนาให้เสด็จทอดพระเนตรพระพุทธรูปองค์ดังกล่าว ครั้นพระพุทธองค์เสด็จไปถึง พระพุทธรูปไม้แก่นจันทน์ได้ขยับองค์จากพระแท่นที่ประดิษฐาน เพื่อถวายความเคารพพระศาสดา ครานั้นพระพุทธองค์จึงทรงยกพระหัตถ์ซ้ายขึ้นห้าม พระไม้แก่นจันทน์จึงกลับไปประทับยังพระแท่นที่เดิม พระเจ้าปเสนทิโกศลเห็นเช่นนั้นก็ยิ่งเกิดความเลื่อมใสศรัทธา แต่ตำนานนั้นถือว่ายังไม่สามารถหาหลักฐานได้
ส่วนการสร้างพระพุทธรูปจริง ๆ นั้นเริ่มมีการสร้างขึ้นมาตั้งแต่ระหว่าง พ.ศ. 500 ถึง 550 เมื่อชาวกรีก ที่ชาวชมพูทวีป (อินเดียโบราณ) เรียกชาวต่างแดนว่า "โยนา" หรือ "โยนก" โดยพระเจ้าเมนันเดอร์ที่ 1 หรือ พระเจ้ามิลินท์ กษัตริย์เชื้อสายกรีก ยกทัพกรีกเข้ามาครอบครองแคว้นคันธารราฐ (ปัจจุบันเป็นดินแดนของอัฟกานิสถาน) จากนั้นพระองค์ก็แผ่อาณาเขตไปทั่วบริเวณด้านตะวันตกเฉียงเหนือของชมพูทวีป และสร้างเมืองหลวงเป็นที่ประทับ ณ เมืองสากล หลังจากที่ได้พบพระสงฆ์ท่านหนึ่งนามว่า นาคเสน จึงมีเรื่องราวแห่งการตั้งคำถามของพระเจ้ามิลินท์ต่อพระนาคเสน จนทำพระเจ้ามิลินท์ ทรงเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา (คำถามคำตอบปุจฉาวิสัชนา ซึ่งถูกเขียนบันทึกเป็นหนังสือและแปลเป็นภาษาต่าง ๆ ที่มีชื่อเสียงมาก เรื่องนี้ก็คือ มิลินทปัญหาได้มีการสร้างสถาปัตยกรรม และประติมากรรมทางพุทธศาสนามากมายในแคว้นคันธารราฐ ซึ่งการสร้างพระพุทธรูปนั้นมีลักษณะต่าง ๆ ตามพุทธประวัติ (ปางพระพุทธรูป)
พระพุทธรูปรูปแรกจึงเกิดขึ้นในสมัยของพระเจ้ามิลินท์ หรือเมนันเดอร์ที่ 1 ชาวกรีกที่มาครอบครองแคว้นคันธารราฐ เมื่อประมาณพุทธศตวรรษที่ 6 หรือ 2,000 ปีที่แล้วนั่นเอง พระพุทธรูปที่เกิดขึ้นครั้งแรกจึงเรียกรูปแบบของพระพุทธรูปนี้ว่า แบบคันธารราฐ โดยถ่ายแบบอย่างเทวรูปที่พวกชาวกรีกนับถือกันในยุโรปมาสร้าง พระพุทธรูปแบบคันธารราฐจึงมีใบหน้าเหมือนฝรั่งชาวกรีก จีวรก็เป็นริ้วเหมือนเครื่องนุ่งห่มของเทวรูปกรีก และต่อมาในภายหลัง ราวพุทธศตวรรษ ที่ 4-12 มีคตินิยมสร้างพระพุทธรูปเป็นขนาดเล็ก ๆ (พระเครื่อง) บรรจุไว้ในพุทธเจดีย์
ตำแหน่งของการปิดทองพระพุทธรูป
ชาวพุทธต่างพากันบูชาพระรัตนตรัย ชาวพุทธ มีความเชื่อที่ว่าการปิดทองพระพุทธรูป ถือเป็นบุญบารมีมหาศาล ที่จะทำให้ผู้ที่ปิด ได้อานิสงส์ผลบุญ ส่งผลให้บังเกิดสิ่งดี ๆ เข้ามาในชีวิต และสิ่งที่หลายท่านอาจยังไม่ทราบคือ การปิดทองในตำแหน่งต่าง ๆ ของพระพุทธรูป จะส่งอานิสงส์ผลบุญในด้านที่แตกต่างกันด้วย
- ปิดทองบริเวณเศียรพระ (หัว) จะมีสติปัญญาแหลมคม จดจำสิ่งต่าง ๆ ได้ดี
- ปิดทองบริเวณพระพักตร์ (ใบหน้า) จะประสบความสำเร็จในชีวิต ทางด้านการทำงานก็จะเจริญรุ่งเรือง
- ปิดทองบริเวณพระอุระ (อก) จะมีผู้คนชื่นชอบ เอ็นดู มีบุคลิกสง่า มีราศี
- ปิดทองบริเวณพระอุทธ (ท้อง) จะมีกินมีใช้ ร่ำรวย มั่งมี
- ปิดทองบริเวณพระหัตถ์ (มือ) จะมีผู้คนเคารพยำเกรง เป็นที่น่ายกย่อง
- ปิดทองบริเวณพระบาท (เท้า) จะมีความเป็นอยู่ที่ดี มียานพาหนะที่ดี[1]