9392556

จ้างทนายทวงหนี้อำเภอคลองเขื่อน โทร.061-1069577

หมวดหมู่สินค้า: rtd26 ทนายความ

23 มีนาคม 2565

ผู้ชม 88 ผู้ชม

 

รับปรึกษาปัญหากฏหมาย - บริการให้คำปรึกษา คดีทุกรูปแบบ
ทนายความรับว่าความทั่วราชอาณาจักร คดีแพ่ง คดีอาญา จัดการมรดก ฟ้องหย่า ฟ้องชู้
จ้างทนายอำเภอคลองเขื่อน
อำเภอคลองเขื่อนจ้างทนายไกล่เกลี่ยราคา
อำเภอคลองเขื่อนจ้างทนายหมิ่นประมาทราคา
จ้างทนายทวงหนี้อำเภอคลองเขื่อน
ค่าจ้างทนายคดีแพ่งอำเภอคลองเขื่อน
จ้างทนายผู้จัดการมรดกอำเภอคลองเขื่อน
ค่าจ้างทนายคดีรถชนอำเภอคลองเขื่อน

      บริการปรึกษากฎหมายทนายความ

 

คดีความต่างๆที่รับว่าความศาล
รับปรึกษาและว่าความอำเภอคลองเขื่อน
ดำเนินคดีแพ่ง คดีอาญา อาทิ คดีลักทรัพย์, คดีวิ่งราวทรัพย์, คดีชิงทรัพย์, คดีปล้นทรัพย์, คดีเช็ค, คดีฉ้อโกง, คดียักยอก, รับของโจร, คดีบุกรุก, คดีหมิ่นประมาท,
ดำเนินคดีทรัพย์สินทางปัญญาอำเภอคลองเขื่อน
ต่อสู้คดียาเสพติดอำเภอคลองเขื่อน
รับสืบทรัพย์ และบังคับคดีอำเภอคลองเขื่อน
รับจดทะเบียนหุ้นส่วน บริษัทอำเภอคลองเขื่อน
คดีที่ดิน มรดก ปรึกษาเรื่องที่ดินอำเภอคลองเขื่อน
คดีความ ฟ้องอย่า คดีครอบครัวอำเภอคลองเขื่อน
คดีการรับบุตรบุญธรรม รับรองบุตรอำเภอคลองเขื่อน
คดีความต่างๆ ปรึกษาเราได้
คดีเด็กและเยาวชนกระทำผิดอาญา เช่น คดีลักทรัพย์, คดีทำร้ายร่างกาย
ร้องขอจัดการมรดกอำเภอคลองเขื่อน
ร้องขอตั้งผู้ปกครองอำเภอคลองเขื่อน, ร้องขอตั้งผู้อนุบาล, ร้องขอให้เป็นผู้สาบสูญ




คำแนะนำในการเลือกทนายความ

มอบคดีให้ทนายความ

เมื่อได้สอบถามปัญหาต่าง ๆ ดังกล่าวจนเป็นที่พอใจว่า จะว่าจ้างทนายความ ดังกล่าวแล้ว ก็ควรส่งมอบคดีให้ทนายความดำเนินการ โดยควรบันทึกข้อเท็จจริงแห่งคดีโดยละเอียด ระบุรายละเอียดของพยานเอกสารพยานบุคคล ที่อยู่ของพยานบุคคลดังกล่าว และวิธีการได้มาซึ่งพยานหลักฐานดังกล่าวเพื่อให้ทนายความสามารถทำงานต่อไป ได้อย่างรวดเร็วโดยควรให้ทนายความลงชื่อรับบันทึกและพยานเอกสารดังกล่าว เป็นหนังสือด้วย เพื่อไม่ต้องมาโต้แย้งกันในภายหลังว่า ทนายความได้รับเอกสารดังกล่าวไปแล้วหรือยัง

ทำสัญญาจ้างว่าความ

ควรขอให้ทนายความ ทำหนังสือสัญญาจ้างว่าความให้ละเอียดถูกต้องตามที่ได้เจรจากันมา หากมีข้อความในหนังสือสัญญาข้อใดไม่ชัดเจนหรือไม่เข้าใจ ก็ขอให้ทนายความชี้แจง หรือขยายความในหนังสือสัญญาให้ชัดเจน เพื่อมิให้เป็นปัญหาในภายหลัง และผู้แต่งตั้งทนายความควรจะต้องปฏิบัติตามสัญญาจ้างว่าความให้เคร่งครัด

การเก็บเอกสาร

ควรเก็บสำเนาเอกสารที่ส่งมอบให้แก่ทนายความตลอดจนเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับคดี หนังสือโต้ตอบระหว่างท่านกับทนายความให้เป็นหมวดหมู่ เพื่อประโยชน์ในการค้นหาและติดตามคดี หรือใช้อ้างอิงในภายหน้า
การติดตามผลคดีอย่างใกล้ชิด
ควรติดตามผลคดีอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะได้มอบหมายให้ทนายความดำเนินการแล้วก็ตาม เพราะผลดีหรือผลเสียแห่งคดี ย่อมต้องตกแก่ตัวความเพียงฝ่ายเดียว หากละเลยไม่สนใจผลคดีแล้ว หากมีข้อผิดพลาดแล้วจะทำให้ไม่สามารถแก้ไขได้

แจ้งข้อมูลเพิ่มเติมทันที

หากคู่ความฝ่ายตรงข้ามติดต่อมาหรือมีข้อมูลอื่นเพิ่มเติม ต้องรีบแจ้งให้ทนายความทราบทันที เพราะข้อมูลบางอย่างที่ท่านเห็นว่าไม่สำคัญ อาจจะมีความหมายสำคัญต่อทนายความในการดำเนินคดีก็ได้ การให้ข้อมูลที่ถูกต้องตรงกับความเป็นจริง และรวดเร็วจะเป็นประโยชน์ในการดำเนินคดีอย่างยิ่ง

วันนัดของศาล

ต้องจดจำวันนัดของศาลให้แม่นยำ มิฉะนั้นหากท่านไม่ไปศาลในวันนัด ไม่ว่าจะเป็นเพราะหลงลืมหรือไม่ก็ตาม คดีท่านอาจจะได้รับความเสียหาย โดยไม่มีทางแก้ไขได้
มีปัญหาข้อข้องใจเกี่ยวกับคดีให้สอบถามทนายความทันที
เมื่อมีปัญหาสงสัยเกี่ยวกับคดีที่มอบหมายให้ทนายความ ให้รีบสอบถามหรือขอคำอธิบายจากทนายความทันที อย่ามัวแต่เกรงใจ ต้องสอบถามหรือขอคำอธิบายจนเข้าใจดี มิฉะนั้น ปัญหาข้อข้องใจดังกล่าวอาจทำให้ผลของคดีต้องได้รับความเสียหาย หรือกลายเป็นปัญหาใหญ่ติดตามมา หรืออาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดกับทนายความก็ได้


ทนายความ เป็นวิชาชีพทางกฎหมายแขนงหนึ่ง ในแต่ละประเทศอาจมีศัพท์เรียกทนายแตกต่างกัน เช่น barrister-at-law หรือ attorneyหรือ solicitor ซึ่ง barrister-at-law จะหมายถึงทนายความที่ว่าความในศาล ส่วน solicitor จะเป็นที่ปรึกษากฎหมายที่ไม่ได้ว่าความ ในสหรัฐอเมริกาจะเรียกทนายความว่า attorney หรือ lawyer ซึ่งว่าความได้ และเป็นทนายความเพียงประเภทเดียว บางครั้งมีผู้แปลคำว่า lawyer ว่านักกฎหมาย แต่ในประเทศไทย การเป็นทนายว่าความ จะต้องสอบใบอนุญาตว่าความ (ตั๋วทนาย) จากสภาทนายความก่อน โดยไม่จำเป็นต้องสำเร็จการศึกษาระดับเนติบัณฑิต แต่จะต้องเป็นสมาชิกเนติบัณฑิตสภา ขณะที่บางประเทศ ทนายความต้องจบเนติบัณฑิตก่อน
 
ลักษณะของงานที่ทำ
          ปฏิบัติงานทั่วไปเกี่ยวกับกฎหมาย เช่น ให้คำปรึกษาทางกฎหมาย จัดทำเอกสารเกี่ยวกับกฎหมาย ทำหน้าที่เป็นตัวแทนในเรื่องที่เกี่ยวกับกฎหมาย และดำเนินการแทนคู่ความทั้งทางอาญาและแพ่งตรวจสอบเรื่องราวต่างๆ และค้นตัวบทกฎหมายที่จะนำมาใช้โดยการศึกษาประมวลกฎหมายพระราชกฤษฎีกาเทศบัญญัติคำพิพากษาของศาลสูงที่มีมาแล้ว และกฎข้อบังคับที่ตราขึ้นไว้ให้คำแนะนำแก่ลูกความถึงสิทธิและหน้าที่ตามกฎหมายทำการแทนลูกความในเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวกับกฎหมาย จัดทำเอกสารเกี่ยวกับกฎหมาย และค้นหาบรรพต่างๆ ในประมวลกฎหมาย ว่าความและดำเนินกระบวนการพิจารณาใดๆ ในศาลแทนคู่ความทั้งในคดีแพ่งและคดีอาญา มีบทบาทในการสร้างและรักษาความเป็นธรรมให้กับสังคมมีบทบาทในการคุ้มครอง ดูแลรักษาผลประโยชน์ของบุคคลและองค์กรธุรกิจเอกชนต่าง ๆ มีบทบาทในการให้คำปรึกษาแนะนำ ในการดำเนินการต่างๆ ให้ถูกต้องตามระเบียบและกฎหมาย มีบทบาทเป็นคนกลางเพื่อ ไกล่เกลี่ยความขัดแย้งแห่งผลประโยชน์ด้วย อาจเชี่ยวชาญในงานกฎหมายสาขาใดสาขาหนึ่งโดยเฉพาะ อาจเป็นทนายความหรือที่ปรึกษากฎหมายประจำองค์กร บรรษัทห้างหุ้นส่วน บริษัท นิติบุคคล คณะบุคคล หรือเอกชน
 
สภาพการทำงาน
          ทำงานในสำนักงานมีสิ่งอำนวยความสะดวกสบายเช่นสำนักงานทั่วไปมีอุปกรณ์ช่วยในการจัดการงานเอกสาร เช่น เครื่องพิมพ์ดีด หรือคอมพิวเตอร์ บางครั้งต้องออกไปติดต่อประสานงานนอกสำนักงาน เช่น ศาล สถานีตำรวจ สถานที่อื่นๆ เพื่อปฏิบัติภาระกิจทนายความตามที่ได้รับมอบหมาย ส่วนใหญ่ทำงานสัปดาห์ละ 40 ชั่วโมง แต่การทำงานล่วงเวลาเป็นเรื่องปกติในอาชีพนี้ อาจจะต้องมาทำงานในวันเสาร์ วันอาทิตย์ และวันหยุด
 
          การทำงานของทนายความ เป็นงานที่ต้องมีผู้ได้ประโยชน์ และผู้เสียประโยชน์ อาชีพทนายความเป็นอาชีพที่ค่อนข้างเสี่ยงอันตรายอันเนื่องมาจากลักษณะงาน การฟ้องร้องระหว่างคู่คดีอาจสร้างความไม่พอใจให้อีกฝ่าย หรืองานในหน้าที่อาจจะทำให้ผู้อื่นเสียผลประโยชน์ ทำให้เกิดความโกรธแค้น และอาจถึงขั้นทำร้ายร่างกายและชีวิตได้ ผู้เป็นทนายความควรที่จะจัดให้เกิดความยุติธรรมทั้งสองฝ่าย มีความซื่อสัตย์สุจริตในหน้าที่ไม่ใช้ความรู้ในอาชีพเอาเปรียบ หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย
 
คุณสมบัติของผู้ประกอบอาชีพ
          ผู้สนใจจะประกอบอาชีพนี้จะต้องเป็นผู้ที่มีใจรักในอาชีพนี้เป็นพื้นฐานเพราะงานว่าความเป็นงานที่ต้องมีความเสียสละ ทุ่มเทใฝ่หาความรู้และมีวาทศิลป์ผู้ที่ประสงค์จะประกอบอาชีพทนายความจะต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
          1. สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีด้านนิติศาสตร์
          2. ต้องขอจดทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นทนายความจากสภาทนายความ
          3. มีสัญชาติไทย
          4. อายุไม่ต่ำกว่ายี่สิบปีบริบูรณ์ ในวันที่ยื่นคำขอจดทะเบียนและรับใบอนุญาต
          5. ไม่เป็นผู้มีความประพฤติเสื่อมเสียบกพร่องในศีลธรรมอันดี และไม่เป็นผู้ได้กระทำการใดซึ่งแสดงให้เห็นว่าไม่น่าไว้วางใจในความซื่อสัตย์สุจริต
          6. ไม่อยู่ในระหว่างต้องโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก
          7. ไม่เคยต้องโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก ในคดีที่คณะกรรมการเห็นว่าจะนำมาซึ่งความเสื่อมเสียเกียรติศักดิ์แห่ง วิชาชีพ
          8. ไม่เป็นบุคคลผู้ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้ล้มละลาย
          9. ไม่เป็นโรคติดต่อซึ่งเป็นที่รังเกียจของสังคม
          10. ไม่เป็นผู้มีร่างกายพิการ หรือจิตบกพร่องอันเป็นเหตุให้เป็นผู้หย่อนสมรรถภาพในการประกอบอาชีพ
          11. ไม่เป็นข้าราชการ หรือพนักงานส่วนท้องถิ่นซึ่งมีเงินเดือนและตำแหน่งประจำเว้นแต่ข้าราชการการเมือง
          12. ต้องซื่อตรงต่อลูกความ ผู้ร่วมงานอำนวยการความยุติธรรม ชุมชน ผู้ร่วม สำนักงาน และตนเอง
 
          ผู้ที่สนใจประกอบอาชีพทนายความ ควรเตรียมความพร้อมดังต่อไปนี้ : มีความสนใจในด้านกฎหมาย กระบวนการยุติธรรม และต้องชอบที่จะท่องจำเพราะวิชานิติศาสตร์เป็นการเรียนที่ต้องท่องจำมาก เช่น กฎระเบียบ มาตราต่างๆ เป็นต้น
 
          ผู้สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 หรือเทียบเท่า ต้องสอบเข้ารับการคัดเลือกหรือเข้าศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาคณะนิติศาสตร์ หลักสูตร 4 ปี สำเร็จการศึกษาได้รับปริญญาตรีทางนิติศาสตร์ หรือประกาศนียบัตรในวิชานิติศาสตร์ ซึ่งเทียบได้ไม่ต่ำกว่าปริญญาตรี จากสถาบันการศึกษาซึ่งสภาทนายความเห็นว่าสถาบันนั้นมีมาตรฐานการศึกษาที่ผู้ได้รับปริญญาตรี หรือประกาศนียบัตรควรเป็นทนายความได้และเป็นสมาชิกแห่งเนติบัณฑิตยสภา
 
          เมื่อสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี หรือเทียบเท่าต้องเข้ารับการอบรมจากสภาทนายความโดยอบรมภาคทฤษฎีหลักสูตร 6 เดือน และอบรมภาคปฏิบัติ หลักสูตร 6เดือน จึงสมัครเข้าสอบขอใบอนุญาตว่าความผ่านการทดสอบจะได้รับใบอนุญาตว่าความทั่วราชอาณาจักรจากสภาทนายความ
 
Engine by shopup.com