9448582

ปิดบัญชีไฟแนนซ์อำเภอหนองเสือ โทร 098-1154549

หมวดหมู่สินค้า: rtd36 ศูนย์รวมไฟแนนซ์

18 มีนาคม 2565

ผู้ชม 118 ผู้ชม

เราบริการ รีไฟแนนซ์รถยนต์อำเภอหนองเสือ
จัดไฟแนนซ์รถยนต์อำเภอหนองเสือ
ย้ายไฟแนนซ์รถยนต์อำเภอหนองเสือ
ไถ่ถอนรถยึดอำเภอหนองเสือ
จำนำเล่มทะเบียน ไม่ต้องจอดรถ ไม่ต้องโอนเล่ม
เราให้บริการด้านสินเชื่อรถยนต์อำเภอหนองเสือ
รีไฟแนนซ์อำเภอหนองเสือ จัดไฟแนนซ์อำเภอหนองเสือ  ย้ายไฟแนนซ์อำเภอหนองเสือ

"คนที่ต้องการใช้เงินด่วน ต้องการเงินทุนหมุนเวียน ต้องการปิดบัญชีไฟแนนซ์เดิม เพื่อปรับยอดผ่อนให้น้อยลง ต้องการปรับโครงสร้างหนี้ บริการรับจำนำทะเบียนรถยนต์ ไม่เช็คแบล็คลิสต์ ไม่เช็คเครดิตบูโร"

                              ติดต่อปรึกษาเรา                      



บริการของเรา

ย้ายไฟแนนซ์รถยนต์อำเภอหนองเสือไม่เช็ค Blacklist ให้ยอดจัดสูง
- สินเชื่อเพื่อคนมีรถอำเภอหนองเสือให้วงเงินสูง ดอกเบี้ยต่ำ ต้องการเงินสด อนุมัติเร็ว รับเงินทันใจ
- รถติดไฟแนนซ์อำเภอหนองเสือเปลี่ยนเป็นเงินได้มีเจ้าหน้าที่การตลาดบริการ ทำสัญญาถึงที่  สะดวก รวดเร็ว
- รับจัดไฟแนนซ์รถยนต์อำเภอหนองเสือหลายประเภท รถบ้าน รถ TAXI รถ 4-6 ล้อ รถ 10 ล้อ
- รับย้ายไฟแนนซ์อำเภอหนองเสือรับปิดบัญชี รับไถ่รถยึด ให้ยอดจัดสูง จนคุณพอใจ ดอกเบี้ยต่ำสุด
- รับซื้อ ขายรถยนต์อำเภอหนองเสือทุกชนิดสะดวกง่าย บริการรวดเร็ว ให้ราคาสูง พร้อม
- รับจัดไฟแนนซ์รถมือสองอำเภอหนองเสือ สินเชื่อทะเบียนรถ จัดง่ายไม่ยุ่งยาก ไม่เช็คเครดิต



ย้ายไฟแนนซ์รถอำเภอหนองเสือ
ย้ายไฟแนนซ์รถToyotaอำเภอหนองเสือ
ย้ายไฟแนนซ์รถNissanอำเภอหนองเสือ
ย้ายไฟแนนซ์รถviosอำเภอหนองเสือ
ย้ายไฟแนนซ์รถcityอำเภอหนองเสือ
ย้ายไฟแนนซ์รถcivicอำเภอหนองเสือ
ย้ายไฟแนนซ์รถaltisอำเภอหนองเสือ
ย้ายไฟแนนซ์รถjazzอำเภอหนองเสือ
รับย้ายไฟแนนซ์รถyarisอำเภอหนองเสือ
ย้ายไฟแนนซ์รถvigoอำเภอหนองเสือ


เคล็ดลับ รีไฟแนนซ์รถอย่างไร ให้ประหยัดเงินเป็นแสน

เรื่องของเงินทอง ไม่ว่าจะยุคสมัยไหน ใครๆก็อยากประหยัด เก็บออมเพื่อให้มีเงินเหลือในกระเป๋ามากขึ้นและนำไปใช้สำหรับเป้าหมายสำคัญอื่นๆ ในชีวิต
 
แต่นอกเหนือจาก วิธีการประหยัดเงินแบบง่ายๆ ในชีวิตประจำวัน อย่างการลดค่าใช้จ่ายส่วนที่ไม่จำเป็นต่างๆ แล้ว ยังมีหนึ่งในวิธีประหยัดเงินที่หลายคนอาจจะลืมนึกถึง นั่นก็คือการลดภาระหนี้ที่ต้องชำระในแต่ละเดือน ไม่ว่าจะเป็นค่าเช่าบ้าน คอนโด หรือรถยนต์ ด้วยการ “รีไฟแนนซ์”
 
ในบทความนี้ เราจึงจะขอแนะนำวิธีการประหยัดเงินด้วยการรีไฟแนนซ์รถยนต์ สำหรับใครที่กู้ซื้อรถมาแล้วเริ่มรู้สึกว่าภาระค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนเริ่มจะตึงเกินไป สิ้นเดือนแต่ละครั้งก็เหมือนจะสิ้นใจ เพราะได้เงินมาก็ต้องเอาไปจ่ายหนี้ทันที
 
รีไฟแนนซ์คืออะไร
ก่อนที่จะพูดถึงขั้นตอนและวิธีการรีไฟแนนซ์รถเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย สิ่งแรกที่คุณควรทำความเข้าใจก่อนก็คือเรื่องพื้นฐานว่า จริงๆ แล้ว รีไฟแนนซ์คืออะไร
 
รีไฟแนนซ์ คือการกู้ยืมสินเชื่อก้อนใหม่เพื่อนำมาชำระหนี้ของสินเชื่อก้อนเดิม เพื่อจะย้ายไปผ่อนสินเชื่อใหม่ที่คุ้มค่ากว่า โดยจะกู้จากเจ้าหนี้รายเดิมหรือรายใหม่ก็ได้ เปรียบเทียบง่ายๆ ก็คล้ายกับการเปลี่ยนโปรโมชั่นหรือย้ายค่ายมือถือ เพื่อที่จะได้โปรโมชั่นที่คุ้มค่าและเหมาะสมกับเรามากกว่าเดิมนั่นเอง
 
อ่านมาถึงตรงนี้หลายคนอาจจะสงสัยว่า ถ้าอย่างนั้น หากเราพิจารณาเลือกสินเชื่ออย่างถี่ถ้วนแล้วตั้งแต่ในการขอกู้ครั้งแรก จนมั่นใจว่าเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าที่สุดแล้ว ก็จะไม่มีความจำเป็นจะต้องรีไฟแนนซ์ใช่หรือไม่?
 
คำตอบของคำถามข้อนี้คือ ทั้งใช่และไม่ใช่
ใช่ เพราะว่าการเปรียบเทียบรายละเอียดของสินเชื่ออย่างละเอียดตั้งแต่แรก ย่อมช่วยให้เราเข้าใจเงื่อนไขของสินเชื่อแต่ละตัว และตัดสินใจเลือกได้อย่างเหมาะสม ณ เวลานั้น
ไม่ใช่ เพราะถึงแม้ว่าจะพิจารณาเลือกอย่างดีที่สุดแล้ว แต่ก็มีความเป็นไปได้ว่า สินเชื่อที่คุณเลือกในครั้งแรก อาจจะไม่ใช่สินเชื่อที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณไปตลอดระยะเวลากู้
สำหรับบางคน ตอนเริ่มกู้เงินอาจจะยังไม่มีปัญหาอะไร แต่เมื่อเวลาผ่านไป อาจจะมีภาระหนี้มากขึ้น ดอกเบี้ยเงินกู้สูงขึ้น หรือเกิดเหตุไม่คาดฝันที่ทำให้ต้องเก็บออมเงินมากขึ้น ก็อาจจะเริ่มรู้สึกว่าการบริหารจัดการเงินในกระเป๋าได้ยากขึ้นเพราะรายได้กับรายจ่ายตึงเกินไป การนำรถมารีไฟแนนซ์จึงเป็นวิธีที่จะช่วยลดภาระการผ่อนจ่ายให้เบาลง สามารถเก็บเงินไว้ใช้จ่ายในส่วนอื่นๆ ที่จำเป็นและเร่งด่วนมากกว่าได้มากขึ้น
 
การรีไฟแนนซ์รถ จะช่วยประหยัดเงินได้ยังไง
 
สรุปให้เห็นภาพแบบง่ายๆ ก็จะเห็นว่าการรีไฟแนนซ์รถจะช่วยให้ผู้ขอกู้ประหยัดเงิน ด้วยข้อดีทั้งหมด 3 ข้อ ดังนี้
   1. ได้อัตราดอกเบี้ยต่ำลง และยอดชำระรายเดือนถูกลง
   2. ได้ยืดเวลาผ่อนจ่ายให้นานขึ้น
   3. ได้เงินก้อนจากส่วนต่าง สามารถนำไปหมุนเวียนเพื่อทำธุรกิจหรือค่าใช้จ่ายอื่นๆ ได้
 
ขั้นตอนการรีไฟแนนซ์รถ
 
1. ตรวจดูให้แน่ ว่าจะได้คุ้มเสีย
อย่ารีบร้อนตัดสินใจทำรีไฟแนนซ์ ควรจะตรวจสอบเงื่อนไขของผู้ให้สินเชื่อเจ้าใหม่ที่เล็งไว้ให้ดี แล้วคำนวณดูว่า ถ้านำดอกเบี้ยคงเหลือจากสินเชื่อเดิม มาหักค่าส่วนต่างกับดอกเบี้ยที่จะเกิดขึ้นจากการกู้ใหม่แล้ว จะคุ้มค่าหรือเปล่า
 
นอกจากนี้ อย่าลืมสอบถามสถาบันการเงินที่เป็นเจ้าหนี้เดิมให้แน่ใจว่า ตามข้อกำหนดของสถาบันการเงิน ถ้าต้องการปิดสินเชื่อเก่าเพื่อขอสินเชื่อใหม่ คุณจะต้องเสียเบี้ยปรับเพิ่มเติมด้วยหรือไม่ ถ้าเสีย ต้องเสียเป็นจำนวนเงินเท่าไหร่ เพื่อที่จะได้นำตัวเลขทั้งหมดมาคำนวณความคุ้มค่าได้ถูกต้อง
 
*กรณีที่คุณผ่อนรถกับเจ้าหนี้เดิมหมดแล้ว มีสิ่งที่ต้องทำเพิ่มเติม 2 เรื่อง คือ
   - ตรวจสอบกับสถาบันการเงินที่ให้สินเชื่อว่า คุณสมบัติรถของเรา เข้าเกณฑ์ที่จะรีไฟแนนซ์หรือเปล่า ซึ่งผู้ให้สินเชื่อส่วนใหญ่ก็จะดูเรื่องของอายุการใช้งานและรุ่นของรถเป็นหลัก
   - เช็คราคากลางของรถว่าอยู่ที่ราคาเท่าไหร่ ก่อนจะขออนุมัติสินเชื่อ
 
2. ถามตัวเองว่าผ่อนไหวไหม?
แน่นอนว่านอกจากเรื่องความคุ้มค่าแล้ว สิ่งสำคัญยิ่งกว่าก็คือคุณต้องประเมินตัวเองให้ดีว่าสามารถผ่อนจ่ายค่างวดได้ตามเงื่อนไขของผู้ให้สินเชื่อใหม่ไหวหรือเปล่า โดยคำนวณจากรายรับ-รายจ่ายของคุณ ถ้าคำนวณแล้วคิดว่าพร้อมสำหรับการรีไฟแนนซ์ครั้งนี้ ก็เดินหน้าต่อได้เลย
 
3. เตรียมเอกสาร เดินหน้ารีไฟแนนซ์
เมื่อตัดสินใจแน่วแน่แล้ว ก็เตรียมเอกสารต่างๆ ที่จะต้องใช้ในการขอรีไฟแนนซ์ทั้งหมดให้ครบถ้วน โดยเอกสารหลักๆ ที่ใช้ ก็จะเป็นเอกสารที่ช่วยให้ผู้ปล่อยสินเชื่อแน่ใจว่า คุณจะมีความสามารถในการชำระหนี้ โดยจะเป็นเอกสารที่ค่อนข้างเหมือนกับตอนที่ขอสินเชื่อครั้งแรกเกือบทั้งหมด ได้แก่
   - บัตรประชาชน
   - ทะเบียนบ้าน
   - หนังสือรับรองเงินเดือน
   - สลิปเงินเดือน
   - สมุดเงินฝากธนาคาร
 
4. ปิดบัญชีที่เก่า ส่งเล่มให้ที่ใหม่
เมื่อได้รับอนุมัติแล้ว ผู้ให้สินเชื่อเดิมจะทำการปิดบัญชี และคุณจะได้รับเงินส่วนที่เหลือจากผู้ให้สินเชื่อรายใหม่ หลังจากนั้นสถาบันการเงินเดิมจะส่งเล่มคืนให้ โดยคุณจะต้องนำเล่มไปส่งให้สถาบันการเงินใหม่ทันที
 
5. เริ่มต้นผ่อนชำระสินเชื่อใหม่ ด้วยเงื่อนไขที่ดีขึ้นกว่าเดิม
หลังจากที่สถาบันการเงินได้รับเล่มแล้ว ก็จะดำเนินการต่อให้เสร็จตามขั้นตอน และคุณก็จะมีภาระหนี้ต่อเดือนที่เบาสบายขึ้นนั่นเอง
 
ทั้งนี้ทั้งนั้น อย่าลืมว่าการรีไฟแนนซ์ก็คล้ายกับการเริ่มขอสินเชื่อครั้งใหม่ ซึ่งเป็นวิธีการประหยัดเงินที่เหมาะสำหรับคนที่กำลังต้องการเงินก้อนเพื่อที่จะนำไปใช้ในการหมุนเวียน หรือต้องการลดยอดชำระต่อเดือนให้ต่ำลง แต่นั่นก็หมายความว่า คุณอาจจะต้องใช้เวลานานขึ้นกว่าจะชำระหนี้ครบทั้งหมด ซึ่งบางคนอาจจะไม่ได้ต้องการแบบนั้น ดังนั้นก่อนตัดสินใจรีไฟแนนซ์ จึงควรศึกษารายละเอียดและคำนวณความคุ้มค่าให้ดีเสียก่อน
 
Engine by shopup.com