ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุพรรษามหาราชินี โทร.0955266242
หมวดหมู่สินค้า: rtd19 ดูแลผู้สูงวัย
18 มีนาคม 2565
ผู้ชม 78 ผู้ชม
ดูแลผู้สูงอายุ&ผู้ป่วยพักฟื้น อบอุ่น ปลอดภัย ใส่ใจสุขภาพ
ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุพรรษามหาราชินี สังคมในปัจจุบันทำให้หลายครอบครัวไม่มีเวลาดูแลผู้ป่วยหรือผู้สูงอายุในบ้าน จึงมีผู้พัฒแคเว็บไซต์ สำหรับค้นหาผู้ดูแลที่เชื่อใจได้ สถานดูแลผู้ป่วยตามบ้านพรรษามหาราชินี ผู้สูงอายุ โดยพยาบาลวิชาชีพ รับดูแลผู้สูงอายุ ติดเตียง ผู้ป่วยหลังผ่าตัดระยะพักฟื้น กายภาพบำบัด กิจกรรมพัฒแคสมอง
ติดต่อเรา
ติดต่อเรา
ศูนย์ส่งพนักงานดูแลผู้สูงอายุตามบ้านพรรษามหาราชินี ดําเนินการโดยผู้บริหารมืออาชีพ ที่เป็นพยาบาลวิชาชีพ และมีประสบการณ์บริหารงานด้านการดูแล ผู้สูงอายุและผู้ป่วยโดยตรง
บริการดูแลผู้สูงอายุพรรษามหาราชินี ผู้ป่วย ผู้ป่วยระยะพักฟื้นและเด็กเล็ก ดูแลผู้ป่วย ดูแลคนชรา ดูแลคนแก่ แม่บ้าน พี่เลี้ยงเด็ก ทั้งที่บ้านและโรงพยาบาล
รับดูแลผู้สูงอายุพรรษามหาราชินี เรามีความรู้ด้านพื้นฐาน และภาคปฏิบัติการ เพื่อฟื้นฟูสุขภาพ ร่างกาย และจิตใจผู้สูงวัย และผู้ป่วย งานด้านดูแลผู้สูงอายุต้องมีความรู้ความใส่ใจและมีเมตตา เราดูแลเสมือนหนึ่งเป็นญาติมิตร
ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุพรรษามหาราชินี
ดูแลผู้สูงอายุพรรษามหาราชินี
สถานดูแลผู้สูงอายุพรรษามหาราชินี
รับดูแลผู้สูงอายุพรรษามหาราชินี
ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุที่ไหนดีพรรษามหาราชินี
ดูแลผู้สูงอายุที่บ้านพรรษามหาราชินี
หาคนดูแลผู้สูงอายุพรรษามหาราชินี
บริการดูแลผู้สูงอายุพรรษามหาราชินี
โรคกรดไหลย้อน จะพบในผู้ที่มีอายุ 40 ปี ขึ้นไป มากกว่าวัยหนุ่มสาว โดยมักจะเกิดอาการหลังรับประทานอาหาร การโน้มตัวไปข้างหน้า การยกของหนัก หรือการนอนหงาย โดยจะรู้สึกแสบร้อนบริเวณลิ้นปี่ แล้วลามมาที่บริเวณหน้าอกหรือคอ มีอาการเรอเปรี้ยว นอกจากนี้ยังมีผลทำให้มีอาการ ไอ ระคายคอ เสียงแหบ โรคหอบหืดกำเริบ เป็นต้น
สำหรับสาเหตุการเกิดโรคกรดไหลย้อนสรุปได้ ดังนี้
1. จากพฤติกรรมการรับประทานอาหาร การสูบบุหรี่ และการทำกิจกรรมในชีวิตประจำวัน
2. จากภาวะกล้ามเนื้อหูรูดส่วนล่างของหลอดอาหารหย่อนตัวลง ทำให้น้ำย่อยหรือกรดในกระเพาะอาหารสามารถไหลย้อนขึ้นไปที่หลอดอาหารได้
3. โรคเรื้อรังที่มีผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมกับระบบทางเดินอาหาร เช่น โรคเบาหวาน โรคถุงลมโป่งพอง โรคของกะบังลม โรคอ้วน เป็นต้น
โรคกลดไหลย้อนมักมีอาการเรื้อรัง สร้างความรำคาญใจ หากปล่อยให้มีอาการเรื้อรังเป็นเวลานาน กรดในกระเพาะอาหารที่ล้นออกมา จะทำลายเซลล์เยื่อบุหลอดอาหารและอาจเปลี่ยนแปลงเป็นเซลล์มะเร็ง สาเหตุของโรคมะเร็งในหลอดอาหารส่วนปลาย แต่อย่างเพิ่งกังวลเพราะเราสามารถดูแลตนเองจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม รวมทั้งการรักษา โดยมีรายละเอียด ดังนี้
การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
1. ไม่นั่งเอนหลังหรือนอน หลังจากรับประทานอาหารเสร็จใหม่ๆ ควรเว้นระยะอย่างน้อย 3 ชั่วโมง
2. รับประทานอาหารตรงเวลา โดยเลือกอาหารที่ย่อยง่ายไม่เหนียวหรือแข็ง ไม่ควรรับประทานจนแน่นท้อง ซึ่งจะส่งผลให้กรดในกระเพาะอาหารเอ่อล้นออกมา
3. เน้นรับประทานอาหารมื้อกลางวัน สำหรับมื้อเย็นรับประทานน้อยๆ และเลื่อนเวลามื้อเย็นให้เร็วขึ้น เพื่อให้ห่างจากเวลาเข้านอน
4. หลังรับประทานอาหารไม่ควรออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมที่ต้องก้มตัวลง เช่น กวาดบ้าน ถูบ้าน
5. หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่กระตุ้นการเกิดอาการ เช่น อาหารรสจัด น้ำผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว ชา กาแฟ น้ำอัดลม เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ อาหารไขมันสูง ช็อกโกแลต เป็นต้น
6. ควรลดน้ำหนักและบริหารร่างกายเพื่อลดไขมันสะสมบริเวณหน้าท้อง เนื่องจากไขมันที่สะสมบริเวณหน้าท้องจะไปเบียดกระเพาะอาหาร ทำให้กรดเกิดการไหลย้อนได้
7. ควบคุมการรับประทานยาบางชนิด เช่น ยาลดความดันโลหิต ยาขยายหลอดลม ยาแก้ปวดประเภทคลายกล้ามเนื้อ หรือการรับฮอร์โมน
8. ลดความเครียด เวลาเครียดหรือโกรธ จะกระตุ้นให้เกิดการหลั่งกรดในกระเพาะอาหารออกมามากกว่าปกติ
9. ไม่สวมใส่เสื้อผ้ารัดรูป
10. เวลานอนควรหนุนหมอนสูง หรือหนุนผ้าบริเวณเหนือเอวให้สูงขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้กรดไหลย้อน
11. งดการสูบบุหรี่ และออกกำลังกายสม่ำเสมอ
การรักษาและบรรเทาอาการโรคกรดไหลย้อน
1. รับประทานยาที่มีสรรพคุณลดกรด ช่วยให้อาการบรรเทาลง ในกรณีฉุกเฉินไม่มียาลดกรดอาจดื่มน้ำเพื่อช่วยบรรเทาอาการ ทั้งนี้ เป็นการรักษาเพียงชั่วคราวมีโอกาสกลับมาเป็นได้อีก เพราะยังไม่ได้แก้ที่ต้นเหตุ
2. ไปพบแพทย์เพื่อสืบประวัติ หาสาเหตุ ประเมินระดับของอาการและวิธีการรักษา ในรายที่เป็นเรื้อรังอาจจะใช้เครื่องตรวจกรดไหลย้อนที่มีความแม่นยำ หากพบว่ามีกรดหรือด่างไหลย้อนขึ้นมาเกินระดับจริง อาจใช้การผ่าตัดซึ่งไม่ยุ่งยากเนื่องจากสมัยนี้มีเครื่องมือที่ทันสมัยด้วยการส่องกล้องเข้าไปเพื่อกระชับหูรูดให้แข็งแรง สะดวก ปลอดภัย หนึ่งถึงสองวันก็สามารถกลับบ้านได้
โรคกรดไหลย้อนแม้ว่าคนส่วนใหญ่จะรู้สึกว่าเป็นโรคที่ไมร้ายแรง แต่ในผู้สูงอายุควรให้ความสำคัญ เริ่มต้นจากวันนี้ ทั้งการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและการดูแลรักษาอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโรคเรื้อรังซึ่งอาจจะลุกลามกลายเป็นโรคที่ร้ายแรงได้ในอนาคตดูแลตนเองให้ถูกต้อง เมื่อเป็น โรคกรดไหลย้อน
กรดไหลย้อน, กรีน เคอมิน, บทความ, เคอม่าแม็กซ์ / อาการกรดไหลย้อน, โรคกรดไหลย้อน
ถ้าเราพูดถึง อาการจุกเสียด หรือว่าปวดแสบ ปวดร้อนกลางอกนะคะ เชื่อว่าหลายๆคนคงต้องนึกถึงโรคนึงอย่างแน่นอน นั่นก็คือ….โรคกรดไหลย้อน…ใช่ไหมคะ
หลายๆคนอาจจะคิดว่าโรคนี้เป็นเรื่องเล็กน้อย รับประทานยาชนิดเดียวเดี๋ยวก็หาย แล้วแต่เชื่อไหมคะ ว่าถ้าเราปล่อยเอาไว้ไม่ได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง…ดีไม่ดีจากโรคเล็กๆน้อยๆอาจจะกลายเป็นโรคร้าย ที่ทำให้ร่างกายของตัวคุณเองมีปัญหามากขึ้นก็เป็นได้ค่ะ…
เข้าใจการเกิดโรคกรดไหลย้อน
วันนี้เราจะมาเรียนรู้การเกี่ยวกับโรคกรดไหลย้อนนี้นะคะ รวมถึงวิธีการดูแลตนเอง วิธีป้องกันด้วยนะคะ
เมื่อพูดถึงเรื่องโรคกรดไหลย้อน เชื่อว่าทุกคนคุ้นหูและรู้จักกันอย่างดี โรคกรดไหลย้อนนะคะ เป็นคำที่ตรงมากก็คือ เกิดการไหลย้อนของกรด…จริงๆแล้วเนี่ย ในร่างกายของเราในเวลาเรารับประทานอาหารเข้าไปในกระเพาะอาหารเราจะมีน้ำย่อยออกมาเพื่อย่อยอาหารแล้วก็ทำให้ร่างกายดูดซึมอาหารที่ย่อยแล้วเนี่ยเข้าสู่ร่างกายและอาหารที่ย่อยเหล่านั้นก็ค่อยๆผ่านไปที่ลำไส้แล้วก็ถ่ายออกไป
ซึ่งน้ำย่อยอาหารมีฤทธิ์เป็นกรด สังเกตไหมคะว่าเรา เวลาเป็นโรคกระเพาะแล้วก็ทานยาลดกรด และสำหรับโรคกรดไหลย้อนมีความผิดปกติคือ….ปกติเนี่ยอาหารหรือว่าน้ำย่อย เขาจะต้องไหลลงไปข้างล่าง ปรากฎว่าคราวนี้กรดหรือว่าน้ำย่อยไหลขึ้นมาด้านบน ขึ้นมาตลอดแล้วก็รู้สึกว่าเราทำไมแสบ
เพราะว่ามันมีความเป็นกรดคะ ไหลขึ้นมาในหลอดอาหาร แล้วจะรู้สึกว่าเราเจ็บแสบ เราไม่สุขสบาย อันนี้คือการที่เราเรียกว่า “โรคกรดไหลย้อน”
สาเหตุหลักของการเกิดโรคกรดไหลย้อน
กลุ่มเสี่ยงที่จะเกิดโรคนี้ได้ มีหลายกลุ่มนะคะ ต้องบอกก่อนว่าสาเหตุจากกรดไหลย้อนมี 2 อย่างง่ายๆเลยก็คือ
เกิดจากหูรูดของหลอดอาหารเนี่ยมันหย่อน ทำให้กรดซึ่งไม่ควรจะไหลขึ้นมาได้เนี่ยไหลขึ้นมาได้
หรือไม่งั้นก็เกิดจากการที่กระเพาะอาหารของเราบีบตัวได้น้อยลง ประสิทธิภาพแย่ลง แทนที่จะบีบตัวแล้วก็เอาอาหาร ลงไปข้างล่างก็ทำให้ทำงานได้ไม่ดีคือ
นี้คือ 2 สาเหตุหลักๆที่เกิดขึ้น กันมากที่สุด
กลุ่มเสียงที่จะเป็นโรคกรดไหลย้อน
ต้องดูว่าอะไรที่ทำให้เกิดการบีบตัวของกระเพาะอาหารลดน้อยลง หรืออะไรก็ตามที่ทำให้หลอดหูรูดที่บริเวณหลอดอาหารมันเสื่อมสมรรถภาพส่วนใหญ่ก็มาจาก
ผู้สูงอายุคะ ผู้สูงอายุเนี่ยเมื่ออายุเยอะขึ้นเนี่ย บางสิ่งบางอย่างก็จะเสื่อมลงตามสภาพของอายุเท่านั้น ก็อาจจะทำให้เกิดกรดไหลย้อนได้
คนที่อ้วนจนเกินไป เพราะว่าภาวะอ้วนมันจะมีแรงดันอยู่ในกระเพาะเยอะ ก็จะไปลดการทำงานของกระเพาะอาหารในการบีบตัว ก็จะทำให้เกิดกรดไหลย้อนได้ง่ายขึ้น
ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ก็อาจจะทำให้มีโอกาสที่จะเกิดกรดไหลย้อนได้
นอกจากนี้ก็ยังมีปัจจัยอื่นเยอะแยะเลย เช่น
การรับประทานอาหารที่ไม่เป็นเวลานะคะ
การรับประทานอาหารแล้วรีบนอนจนเกินไปมีผลอย่างมากเลย
เช่นเวลาเรารับประทานอาหารตอนเย็น หรือแม้แต่อาหารกลางวันก็แล้วแต่ เราควรจะต้องอยู่ในท่านั่ง หรือ ยืนซักประมาณ 3-4 ชั่วโมงค่ะ อย่างน้อยที่สุดในต้อง 3 ชั่วโมง
โรคกรดไหลย้อนไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆนะแล้วการทำลักษณะแบบนี้เนี่ยไม่ได้เกิดขึ้นจากการกระทำเพียงแค่ครั้งสองครั้งค่ะ บางทีทำแบบนี้เป็นปี 2 ปีต่อเนื่อง จากการกระทำแบบนี้แล้วก็ทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆก็ทำให้เกิดอาการกรดไหลย้อนได้
บอกว่าเลยกรดไหลย้อนยังไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ เกิดค่อนข้างยาก แต่มันเกิดจากพฤติกรรมที่เราเนี่ย ทำมาระยะเวลานานๆหรือแม้แต่ เรื่องทานอาหารบางวันก็เช่นเดียวกันนะคะกว่าจะเกิดภาวะกรดไหลย้อนก็ทำอะไรที่ผิดซ้ำๆบ่อยๆ
ความเครียดมีส่วนนะ เพราะว่าเมื่อเกิดภาวะเครียดเราจะหลั่งกรดค่อนข้างเยอะ พอเราหลั่งกรดเยอะก็จะทำให้มันไหลออกมาบ้างหรือว่ามันเกิดการทำให้หลอดอาหารของเราในหูรูดมันเสื่อมได้ แล้วจะทำให้เกิดกรดไหลย้อน และยังมี การดื่มสุรามี แต่ส่วนใหญ่จะเกิดจากการรับประทานอาหารไม่เป็นเวลาการมีความเครียดและก็ผู้สูงอายุ
สังเกตว่าเด็กไม่ค่อยเป็นไหลย้อนจะต้องเป็นผู้ใหญ่และผู้สูงอายุผู้สูงอายุ การรับประทานอาหารการรับประทานอาหารที่มี เผ็ดจัด เปรี้ยวจัด ทำให้เกิดกรดในร่างกายเยอะขึ้น
อาการบ่งชี้ว่าเราอาจเป็นกรดไหลย้อน
กรดไหลย้อนจะเป็นโรคที่ง่ายๆแล้วก็ดูไม่น่ากลัวเหมือนเป็นมะเร็ง เป็นโรคเบาหวาน แต่ถ้าเราปล่อยทิ้งไว้นานๆเนี่ยมันอาจจะมีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น เพราะว่ากรดมันจะไปทำร้ายส่วนต่างๆ คือเวลาที่กรดมันไหลขึ้นมาในหลอดอาหารเนี่ยมันก็จะไปทำให้หลอดอาหารมีภาวะระคายเคือง ถ้าเป็นมากๆอาจจะเป็นแผลได้ ถ้าทิ้งไว้นานๆก็อาจจะเป็นมะเร็งได้ หรืออาจจะมีแผลที่ลุกลามมากได้ยิ่งขึ้น
ดังนั้นในระยะแรกๆ อาจจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมก่อนถ้าไม่ดีขึ้นก็ควรจะไปหาแพทย์นะคะ อาการง่ายๆคือ จุก เสียด แสบ ตามบริเวณหน้าอกนะคะ
และก็อาการที่เราเห็นชัดก็คือ “อาการไอ” เป็นการไอที่ไม่เกี่ยวเนื่องกับโรคปอด ไอตอนดึกดึกหรือว่าไอในช่วงที่เรารับประทานอาหารไปซักระยะหนึ่ง ถ้าคนไข้ที่ไม่คิดว่าการไอ เราเป็นวัณโรคหรือเปล่า แล้วเป็นหวัดหรือเปล่า ทำไมเราไอจังเลย
แต่การไอเกิดจากการระคายเคืองเมื่อมี กรดไหลย้อน เข้าไปในหลอดอาหาร เราจะรู้สึกระคายเคืองหลอดคอ
แล้วก็ถ้าใครรู้สึกว่าตัวเองมีอาการ จุก แน่นหน้าอก แล้วก็มีแสบๆร้อนๆ แถวหน้าอก มีอาการไอร่วมด้วยลองคิดถึงกรดไหลย้อน ได้เลย
เพื่อให้มันหายไปเลย….เริ่มแรกก็คือการรับประทานอาหารให้ตรงเวลา เช้า กลางวัน เย็น ถ้าไม่แน่ใจว่าระบบย่อยของเราไม่ค่อยดี อาจจะต้องทานเป็นมื้อน้อยๆ….
คือ ไม่ใช่มื้อเดียว จะไปทานบุฟเฟ่ เราจะทานให้แบบคุ้มที่สุด มันจะเยอะจนร่างกายรับไม่ไหว ก็จะทำให้การย่อยเยอะมากขึ้นกว่าก็จะล้นขึ้นมาในหลอดอาหารได้ ทานอาหารให้เป็นเวลาถ้าคิดว่าไม่สามารถที่จะทานอาหารเยอะๆ ก็แบ่งมื้อเบามื้อกลางวันก็ทานนิดนึงนะเดี๋ยว 15:00 น. มาทานอีกหน่อยนึงแล้วก็ไปทานตอนเย็น แบ่งให้เป็นมื้อย่อยๆ ในการรับประทานอาหารที่แบ่งช่วงไม่ให้หนักจนเกิน
ยังไงการรักษากรดไหลย้อนก็ต้องใช้ความอดทนและระเบียบวินัยเป็นหลัก เพราะต้องทำอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้อาการค่อยๆดีขึ้นเป็นอันดับ…