หินเกิดจากธรรมชาติจริงไหม
หมวดหมู่สินค้า: A327 ปั้นหินเทียม บริษัทเราทำได้
09 เมษายน 2565
ผู้ชม 209 ผู้ชม
ช่างน้ำตกเทียมรับจัดสวนตกแต่ง น้ำตกจำลอง น้ำผุด น้ำล้น จัดสร้างน้ำตก จำหน่ายหินธรรมชาติ ต้นไม้มงคล รับจัดสวนออกแบบสวน จัดสร้างน้ำตก ต้นไม้มงคลต้นไม้จัดสวนพร้อมให้ร่มเงาส่งและปลูก
หินเทียม
หินกาบ
จัดสวนหน้าบ้าน
ปั้นต้นไม้เทียม
ขายหินธรรมชาติ
จัดสวนข้างบ้าน
จัดสวนน้ำตก
หินเทียมราคา
จัดสวนน้ําตก
หิน คือ มวลของแข็งที่ประกอบไปด้วยแร่ชนิดเดียวกัน หรือหลายชนิดรวมตัวกันอยู่ตามธรรมชาติ
เนื่องจากองค์ประกอบของเปลือกโลกส่วนใหญ่เป็นสารประกอบซิลิกอนไดออกไซด์ (SiO2) ดังนั้นเปลือก
โลก ส่วนใหญ่มักเป็นแร่ตระกูลซิลิเกต นอกจากนั้นยังมีแร่ตระกูลคาร์บอเนต เนื่องจากบรรยากาศโลกใน
อดีตส่วนใหญ่เป็นคาร์บอนไดออกไซด์ น้ำฝนได้ละลายคาร์บอนไดออกไซด์บนบรรยากาศลงมาสะสมบนพื้น
ดินและมหาสมุทร สิ่งมีชีวิตอาศัยคาร์บอนสร้างธาตุอาหารและร่างกาย แพลงตอนบางชนิดอาศัยซิลิกาสร้าง
เปลือก เมื่อตายลงทับถมกันเป็นตะกอน หินส่วนใหญ่บนเปลือกโลกจึงประกอบด้วยแร่ต่างๆ
วัฏจักรหิน (Rock cycle)
นักธรณีวิทยาแบ่งหินออกเป็น 3 ประเภท ตามลักษณะการเกิดคือ หินอัคนี หินตะกอน และหินแปร เมื่อหินหนืดร้อนภายในโลก (Magma) และ หินหนืดร้อนบนพื้นผิวโลก (Lava) เย็นตัวลงกลายเป็น “หินอัคนี” ลมฟ้าอากาศ น้ำ และแสงแดด ทำให้หินผุพังสึกกร่อนเป็นตะกอน ทับถมกันเป็นเวลานานหลายล้านปี แรงดันและปฏิกิริยาเคมีทำให้เกิดการรวมตัวเป็น “หินตะกอน” หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า “หินชั้น” การเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลกและความร้อนจากแมนเทิลข้างล่าง ทำให้เกิดการแปรสภาพเป็น “หินแปร” กระบวนการเหล่านี้เกิดขึ้นเป็นวงรอบเรียกว่า “วัฏจักรหิน” (Rock cycle) อย่างไรก็ตามกระบวนการไม่จำเป็นต้องเรียงลำดับ หินอัคนี หินชั้น และหินแปร การเปลี่ยนแปลงประเภทหินอาจเกิดขึ้นย้อนกลับไปมาได้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยแวดล้อม
หินอัคนี (Igneous rocks)
หินอัคนี เป็นหินที่เกิดจากการแข็งตัวของหินหนืด (Magma) จากชั้นแมนเทิลที่โผล่ขึ้นมา เราแบ่งหินอัคนีตามแหล่งที่มาออกเป็น 2 ประเภท คือ
หินอัคนีแทรกซอน (Intrusive igneous rocks) เป็นหินที่เกิดจากหินหนืดที่เย็นตัวลงภายในเปลือกโลกอย่างช้าๆ ทำให้ผลึกแร่มีขนาดใหญ่ และเนื้อหยาบ เช่น หินแกรนิต หินไดออไรต์ และหินแกบโบร
หินอัคนีพุ (Extrusive ingneous rocks) บางทีเรียกว่า หินภูเขาไฟ เป็นหินหนืดที่เกิดจากลาวาบนพื้นผิวโลกเย็นตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้ผลึกมีขนาดเล็ก และเนื้อละเอียด เช่น หินบะซอลต์ หินไรออไรต์ และหินแอนดีไซต์
นอกจากนั้นนักธรณีวิทยายังจำแนกหินอัคนี โดยใช้องค์ประกอบของแร่ เป็น หินชนิดกรด หินชนิดปลางกลาง หินชนิดด่าง และหินอัลตราเมฟิก โดยใช้ปริมาณของซิลิกา (SiO2) เป็นเกณฑ์จากมากไปหาน้อยตามลำดับ (รายละเอียดในตารางที่ 2) จะเห็นได้ว่า หินที่มีองค์ประกอบเป็นควอรตซ์และเฟลด์สปาร์มากจะมีสีอ่อน ส่วนหินที่มีองค์ประกอบเป็นเหล็กและแมกนีเซียมมากจะมีสีเข้ม
หินอัคนีที่สำคัญ
หินแกรนิต (Granite) เป็นหินอัคนีแทรกซอนที่เย็นตัวลงภายในเปลือกโลกอย่างช้าๆ จึงมีเนื้อหยาบซึ่งประกอบด้วยผลึกขนาดใหญ่ของแร่ควอรตซ์สีเทาใส แร่เฟลด์สปาร์สีขาวขุ่น และแร่ฮอร์นเบลนด์ หินแกรนิตแข็งแรงมาก ชาวบ้านใช้ทำครก เช่น ครกอ่างศิลา ภูเขาหินแกรนิตมักเตี้ยและมียอดมน เนื่องจากเปลือกโลกซึ่งเคยอยู่ชั้นบนสึกกร่อนผุพัง เผยให้เห็นแหล่งหินแกรนิตซึ่งอยู่เบื้องล่าง
หินบะซอลต์ (Basalt) เป็นหินอัคนีพุ เนื้อละเอียด เกิดจากการเย็นตัวของลาวา มีสีเข้มเนื่องจากประกอบด้วยแร่ไพร็อกซีนเป็นส่วนใหญ่ อาจมีแร่โอลิวีนปนมาด้วย เนื่องจากเกิดขึ้นจากแมกมาใต้เปลือกโลก หินบะซอลต์หลายแห่งในประเทศไทยเป็นแหล่งกำเนิดของอัญมณี (พลอยชนิดต่างๆ) เนื่องจากแมกมาดันผลึกแร่ซึ่งอยู่ลึกใต้เปลือกโลก ให้โผล่ขึ้นมาเหนือพื้นผิว
หินไรโอไลต์ (Ryolite) เป็นหินอัคนีพุซึ่งเกิดจากการเย็นตัวของลาวา มีเนื้อละเอียดซึ่งประกอบด้วยผลึกแร่ขนาดเล็ก มีแร่องค์ประกอบเหมือนกับหินแกรนิต แต่ทว่าผลึกเล็กมากจนไม่สามารถมองเห็นได้ ส่วนมากมีสีชมพู และสีเหลือง
หินแอนดีไซต์ (Andesite) เป็นหินอัคนีพุซึ่งเกิดจากการเย็นตัวของลาวาในลักษณะเดียวกับหินไรโอไรต์ แต่มีองค์ประกอบของแมกนีเซียมและเหล็กมากกว่า จึงมีสีเขียวเข้ม
หินพัมมิซ (Pumice) เป็นหินแก้วภูเขาไฟชนิดหนึ่งซึ่งมีฟองก๊าซเล็กๆ อยู่ในเนื้อมากมายจนโพรกคล้ายฟองน้ำ มีส่วนประกอบเหมือนหินไรโอไลต์ มีน้ำหนักเบา ลอยน้ำได้ ชาวบ้านเรียกว่า หินส้ม ใช้ขัดถูภาชนะทำให้มีผิววาว
หินออบซิเดียน (Obsedian) เป็นหินแก้วภูเขาไฟซึ่งเย็นตัวเร็วมากจนผลึกมีขนาดเล็กมาก เหมือนเนื้อแก้วสีดำ หินออบซิเดียน
หินตะกอน (Sedimentary rocks)
แม้ว่าหินจะเป็นของแข็ง แต่มันก็มิสามารถดำรงอยู่ได้อย่างถาวร หินเมื่อถูกแสงแดด ลมฟ้าอากาศ และน้ำ หรือ ถูกกระแทก ก็แตกเป็นก้อนเล็กๆ หรือผุกร่อน เสื่อมสภาพลง เศษหินที่ผุพังทั้งอนุภาคใหญ่และเล็กถูกพัดพาไปสะสมอัดตัวกัน เป็นชั้นๆ เกิดความกดดันและปฏิกิริยาเคมีจนกลับกลายเป็นหินอีกครั้ง หินที่เกิดใหม่นี้เราเรียกว่า “หินตะกอน” หรือ “หินชั้น” ปัจจัยที่ทำให้เกิดหินตะกอนหรือหินชั้น มีดังต่อไปนี้
การผุพัง (Weathering) คือ การที่หินผุพังทำลายลง (อยู่กับที่) ด้วยกรรมวิธีต่างๆ จากลมฟ้าอากาศ สารละลาย และรวมทั้งการกระทำของต้นไม้ แบคทีเรีย ตลอดจนการแตกตัวทางกลศาสตร์ มีการเพิ่มอุณหภูมิและลดอุณหภูมิสลับกันเป็นต้น ภาพที่ 5 แสดงให้เห็นถึงการผุพังของหินชั้นบน ประกอบกับการดันตัวจากใต้เปลือกโลก ทำให้เกิดภูเขาหินแกรนิต
การกร่อน (Erosion) หมายถึง กระบวนการที่ทำให้สารเปลือกโลกหลุด ละลายไป หรือกร่อนไป (โดยมีการเคลื่อนที่กระจัดกระจายไปจากที่เดิม) โดยมีต้นเหตุคือตัวการธรรมชาติ ซึ่งได้แก่ ลมฟ้าอากาศ กระแสน้ำ ธารน้ำแข็ง การครูดถู ภายใต้อิทธิพลของแรงโน้มถ่วง
การพัดพา (Transportation) หมายถึง การเคลื่อนที่ของมวลหิน ดิน ทราย โดยกระแสน้ำ กระแสลม หรือธารน้ำแข็ง ภายใต้แรงดึงดูดของโลก อนุภาคขนาดเล็กจะถูกพัดพาให้เคลื่อนที่ไปได้ไกลกว่าอนุภาคขนาดใหญ่
การทับถม (Deposit) เกิดขึ้นเมื่อตัวกลางซึ่งทำให้เกิดการพัดพา เช่น กระแสน้ำ กระแสลม หรือธารน้ำแข็ง อ่อนกำลังลงและยุติลง ตะกอนที่ถูกพัดพาจะสะสมตัวทับถมกัน ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางอุณหภูมิ ความกดดัน ปฏิกิริยาเคมี และเกิดการตกผลึก หินตะกอนที่อยู่ชั้นล่างจะมีความหนาแน่นสูงและมีเนื้อละเอียดกว่าชั้นบน เนื่องจากแรงกดดันซึ่งเกิดขึ้นจากน้ำหนักตัวทับถมกันเป็นชั้นๆ (หมายเหตุ: การทับถมบางครั้งเกิดจากการระเหยของสารละลาย ส่วนที่เป็นน้ำระเหยไปในอากาศทิ้งสารที่เหลือให้ตกผลึกไว้เช่นเดียวกับการทำนาเกลือ)
การกลับคืนเป็นหิน (Lithification) เมื่อเศษตะกอนทับถมกันจะเกิดโพรงขึ้นประมาณ 20 – 40% ของเนื้อตะกอน น้ำพาสารละลายเข้ามาแทนที่อากาศในโพรง เมื่อเกิดการทับถมกันจนมีน้ำหนักมากขึ้น เนื้อตะกอนจะถูกทำให้เรียงชิดติดกันทำให้โพรงจะมีขนาดเล็กลง จนน้ำที่เคยมีอยู่ถูกขับไล่ออกไป สารที่ตกค้างอยู่ทำหน้าที่เป็นซีเมนต์เชื่อมตะกอนเข้าด้วยกันกลับเป็นหินอีกครั้ง
ประเภทของหินตะกอน
นักธรณีวิทยาจำแนกหินตะกอนตามลักษณะการเกิดออกเป็น 3 กลุ่มคือ
1. หินตะกอนอนุภาค (Clastic rocks) ได้แก่
o หินกรวดมน (Congromorate) เป็นหินเนื้อหยาบเกิดจากตะกอนซึ่งเป็นหิน กรวด ทราย ที่ถูกกระแสน้ำพัดพามาอยู่รวมกัน สารละลายในน้ำใต้ดินทำตัวเป็นซิเมนต์ประสานให้อนุภาคใหญ่เล็กเหล่านี้ เกาะตัวกันเป็นก้อนหิน
o หินทราย (Sandstone) เป็นหินตะกอนเนื้อละเอียดปานกลาง เกิดจากการทับถมตัวของทราย มีองค์ประกอบหลักเป็นแร่ควอรตซ์ คนโบราณใช้หินทรายแกะสลัก สร้างปราสาท และทำหินลับมีด
o หินดินดาน (Shale) เป็นหินตะกอนเนื้อละเอียดมาก เนื่องจากประกอบด้วยอนุภาคทรายแป้งและอนุภาคดินเหนียวทับถมกันเป็นชั้นบางๆ ขนานกัน เมื่อทุบหินจะแตกตัวตามรอยชั้น (ฟอสซิลมีอยู่ในหินดินดาน) ดินเหนียวที่เกิดดินดานใช้ทำเครื่องปั้นดินเผา
2. หินตะกอนเคมี (Chemical sedimentary rocks) ได้แก่
o หินปูน (Limestone) เป็นหินตะกอนคาร์บอเนต เกิดจากการทับถมของตะกอนคาร์บอเนตในท้องทะเล ทั้งจากสารอนินทรีย์ และซากสิ่งมีชีวิต เช่น ปะการัง และกระดองของสัตว์ทะเล ซึ่งถับถมกันภายใต้ความกดดันและตกผลึกใหม่เป็นแร่แคลไซต์จึงทำปฏิกิริยากับกรด หินปูนใช้ทำเป็นปูนซิเมนต์ และใช้ในการก่อสร้าง
o หินเชิร์ต (Chert) หินตะกอนเนื้อแน่น แข็ง เกิดจากการตกผลึกใหม่ เนื่องจากน้ำพาสารละลายซิลิกาเข้าไปแล้วระเหยออก ทำให้เกิดผลึกซิลิกาแทนที่เนื้อหินเดิม หินเชิร์ตมักเกิดขึ้นใต้ท้องทะเล เนื่องจากแพลงตอนที่มีเปลือกเป็นซิลิกาตายลง เปลือกของมันจะจมลงทับถมกัน หินเชิร์ตจึงปะปะอยู่ในหินปูน
3. หินตะกอนอินทรีย์ (Organic sedimentary rocks) ได้แก่
o ถ่านหิน (Coal) เกิดจากการทับถมของซากพืชที่ยังไม่เน่าเปื่อยไปหมดเนื่องจากสภาวะออกซิเจนต่ำ สภาวะเช่นนี้เกิดตามห้วยหนองคลองบึง ในแถบภูมิอากาศแบบเส้นศูนย์สูตร การทับถมทำให้เกิดการแรงกดดันที่จะระเหยขับไล่น้ำและสารละลายอื่นๆออกไป ยิ่งมีปริมาณคาร์บอนมากขึ้นถ่านหินจะยิ่งมีสีดำ ลิกไนต์ (Lignite) เป็นถ่านหินคุณภาพปานกลาง มีมากที่เหมืองแม่เมาะ จ.ลำปาง แอนทราไซต์ (Anthracite) เป็นถ่านหินคุณภาพสูง ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ
ปั้นน้ำตกเทียมเชียงราย
ปั้นน้ำตกเทียมเชียงใหม่
ปั้นน้ำตกเทียมน่าน
ปั้นน้ำตกเทียมพะเยา
ปั้นน้ำตกเทียมแพร่
ปั้นน้ำตกเทียมแม่ฮ่องสอน
ปั้นน้ำตกเทียมลำปาง
ปั้นน้ำตกเทียมลำพูน
ปั้นน้ำตกเทียมอุตรดิตถ์
ปั้นน้ำตกเทียมกาฬสินธุ์
ปั้นน้ำตกเทียมขอนแก่น
ปั้นน้ำตกเทียมชัยภูมิ
ปั้นน้ำตกเทียมนครพนม
ปั้นน้ำตกเทียมนครราชสีมา
ปั้นน้ำตกเทียมบึงกาฬ
ปั้นน้ำตกเทียมบุรีรัมย์
ปั้นน้ำตกเทียมมหาสารคาม
ปั้นน้ำตกเทียมมุกดาหาร
ปั้นน้ำตกเทียมยโสธร
ปั้นน้ำตกเทียมร้อยเอ็ด
ปั้นน้ำตกเทียมเลย
ปั้นน้ำตกเทียมสกลนคร
ปั้นน้ำตกเทียมสุรินทร์
ปั้นน้ำตกเทียมศรีสะเกษ
ปั้นน้ำตกเทียมหนองคาย
ปั้นน้ำตกเทียมหนองบัวลำภู
ปั้นน้ำตกเทียมอุดรธานี
ปั้นน้ำตกเทียมอุบลราชธานี
ปั้นน้ำตกเทียมอำนาจเจริญ
ปั้นน้ำตกเทียมกำแพงเพชร
ปั้นน้ำตกเทียมชัยนาท
ปั้นน้ำตกเทียมนครนายก
ปั้นน้ำตกเทียมนครปฐม
ปั้นน้ำตกเทียมนครสวรรค์
ปั้นน้ำตกเทียมนนทบุรี
ปั้นน้ำตกเทียมปทุมธานี
ปั้นน้ำตกเทียมพระนครศรีอยุธยา
ปั้นน้ำตกเทียมพิจิตร
ปั้นน้ำตกเทียมพิษณุโลก
ปั้นน้ำตกเทียมเพชรบูรณ์
ปั้นน้ำตกเทียมลพบุรี
ปั้นน้ำตกเทียมสมุทรปราการ
ปั้นน้ำตกเทียมสมุทรสงคราม
ปั้นน้ำตกเทียมสมุทรสาคร
ปั้นน้ำตกเทียมสิงห์บุรี
ปั้นน้ำตกเทียมสุโขทัย
ปั้นน้ำตกเทียมสุพรรณบุรี
ปั้นน้ำตกเทียมสระบุรี
ปั้นน้ำตกเทียมอ่างทอง
ปั้นน้ำตกเทียมอุทัยธานี
ปั้นน้ำตกเทียมจันทบุรี
ปั้นน้ำตกเทียมฉะเชิงเทรา
ปั้นน้ำตกเทียมชลบุรี
ปั้นน้ำตกเทียมตราด
ปั้นน้ำตกเทียมปราจีนบุรี
ปั้นน้ำตกเทียมระยอง
ปั้นน้ำตกเทียมสระแก้ว
ปั้นน้ำตกเทียมกาญจนบุรี
ปั้นน้ำตกเทียมตาก
ปั้นน้ำตกเทียมประจวบคีรีขันธ์
ปั้นน้ำตกเทียมเพชรบุรี
ปั้นน้ำตกเทียมราชบุรี
ปั้นน้ำตกเทียมกระบี่
ปั้นน้ำตกเทียมชุมพร
ปั้นน้ำตกเทียมตรัง
ปั้นน้ำตกเทียมนครศรีธรรมราช
ปั้นน้ำตกเทียมนราธิวาส
ปั้นน้ำตกเทียมปัตตานี
ปั้นน้ำตกเทียมพังงา
ปั้นน้ำตกเทียมพัทลุง
ปั้นน้ำตกเทียมภูเก็ต
ปั้นน้ำตกเทียมระนอง
ปั้นน้ำตกเทียมสตูล
ปั้นน้ำตกเทียมสงขลา
ปั้นน้ำตกเทียมสุราษฎร์ธานี
ปั้นน้ำตกเทียมยะลา
ปั้นน้ำตกเทียมกรุงเทพมหานคร
ปั้นน้ำตกเทียมคลองสาน
ปั้นน้ำตกเทียมคลองสามวา
ปั้นน้ำตกเทียมคลองเตย
ปั้นน้ำตกเทียมคันนายาว
ปั้นน้ำตกเทียมจอมทอง
ปั้นน้ำตกเทียมดอนเมือง
ปั้นน้ำตกเทียมดินแดง
ปั้นน้ำตกเทียมดุสิต
ปั้นน้ำตกเทียมตลิ่งชัน
ปั้นน้ำตกเทียมทวีวัฒนา
ปั้นน้ำตกเทียมทุ่งครุ
ปั้นน้ำตกเทียมธนบุรี
ปั้นน้ำตกเทียมบางกอกน้อย
ปั้นน้ำตกเทียมบางกอกใหญ่
ปั้นน้ำตกเทียมบางกะปิ
ปั้นน้ำตกเทียมบางคอแหลม
ปั้นน้ำตกเทียมบางซื่อ
ปั้นน้ำตกเทียมบางนา
ปั้นน้ำตกเทียมบางพลัด
ปั้นน้ำตกเทียมบางรัก
ปั้นน้ำตกเทียมบางเขน
ปั้นน้ำตกเทียมบางแค
ปั้นน้ำตกเทียมบึงกุ่ม
ปั้นน้ำตกเทียมปทุมวัน
ปั้นน้ำตกเทียมประเวศ
ปั้นน้ำตกเทียมป้อมปราบศัตรูพ่าย
ปั้นน้ำตกเทียมพญาไท
ปั้นน้ำตกเทียมพระนคร
ปั้นน้ำตกเทียมพระโขนง
ปั้นน้ำตกเทียมภาษีเจริญ
ปั้นน้ำตกเทียมมีนบุรี
ปั้นน้ำตกเทียมยานนาวา
ปั้นน้ำตกเทียมราชเทวี
ปั้นน้ำตกเทียมราษฎร์บูรณะ
ปั้นน้ำตกเทียมลาดกระบัง
ปั้นน้ำตกเทียมลาดพร้าว
ปั้นน้ำตกเทียมวังทองหลาง
ปั้นน้ำตกเทียมวัฒนา
ปั้นน้ำตกเทียมสวนหลวง
ปั้นน้ำตกเทียมสะพานสูง
ปั้นน้ำตกเทียมสัมพันธวงศ์
ปั้นน้ำตกเทียมสาทร
ปั้นน้ำตกเทียมสายไหม
ปั้นน้ำตกเทียมหนองจอก
ปั้นน้ำตกเทียมหนองแขม
ปั้นน้ำตกเทียมหลักสี่
ปั้นน้ำตกเทียมห้วยขวาง
ปั้นน้ำตกเทียมเมืองนครปฐม
ปั้นน้ำตกเทียมกำแพงแสน
ปั้นน้ำตกเทียมดอนตูม
ปั้นน้ำตกเทียมนครชัยศรี
ปั้นน้ำตกเทียมบางเลน
ปั้นน้ำตกเทียมพุทธมณฑล
ปั้นน้ำตกเทียมสามพราน
ปั้นน้ำตกเทียมเมืองนนทบุรี
ปั้นน้ำตกเทียมบางกรวย
ปั้นน้ำตกเทียมบางบัวทอง
ปั้นน้ำตกเทียมบางใหญ่
ปั้นน้ำตกเทียมปากเกร็ด
ปั้นน้ำตกเทียมไทรน้อย
ปั้นน้ำตกเทียมเมืองปทุมธานี
ปั้นน้ำตกเทียมคลองหลวง
ปั้นน้ำตกเทียมธัญบุรี
ปั้นน้ำตกเทียมลาดหลุมแก้ว
ปั้นน้ำตกเทียมลำลูกกา
ปั้นน้ำตกเทียมสามโคก
ปั้นน้ำตกเทียมหนองเสือ
ปั้นน้ำตกเทียมเมืองสมุทรปราการ
ปั้นน้ำตกเทียมบางพลี
ปั้นน้ำตกเทียมบางเสาธง
ปั้นน้ำตกเทียมพระประแดง
ปั้นน้ำตกเทียมพระสมุทรเจดีย์
ปั้นน้ำตกเทียมเมืองระยอง
ปั้นน้ำตกเทียมนิคมพัฒนา
ปั้นน้ำตกเทียมเขาชะเมา
ปั้นน้ำตกเทียมบ้านฉาง
ปั้นน้ำตกเทียมปลวกแดง
ปั้นน้ำตกเทียมวังจันทร์
ปั้นน้ำตกเทียมแกลง
ปั้นน้ำตกเทียมเมืองชลบุรี
ปั้นน้ำตกเทียมเกาะจันทร์
ปั้นน้ำตกเทียมบางละมุง
ปั้นน้ำตกเทียมบ่อทอง
ปั้นน้ำตกเทียมบ้านบึง
ปั้นน้ำตกเทียมพนัสนิคม
ปั้นน้ำตกเทียมพานทอง
ปั้นน้ำตกเทียมศรีราชา
ปั้นน้ำตกเทียมสัตหีบ
ปั้นน้ำตกเทียมหนองใหญ่
ปั้นน้ำตกเทียมเกาะสีชัง
ปั้นน้ำตกเทียมเมืองสมุทรสาคร
ปั้นน้ำตกเทียมกระทุ่มแบน
ปั้นน้ำตกเทียมบ้านแพ้ว
ปั้นน้ำตกเทียมมหาชัย
ปั้นน้ำตกเทียมเมืองสมุทร
ปั้นน้ำตกเทียมอัมพวา
ปั้นน้ำตกเทียมบางคนที
ปั้นน้ำตกเทียมเมืองราชบุรี
ปั้นน้ำตกเทียมบ้านคา
ปั้นน้ำตกเทียมจอมบึง
ปั้นน้ำตกเทียมดำเนินสะดวก
ปั้นน้ำตกเทียมบางแพ
ปั้นน้ำตกเทียมบ้านโป่ง
ปั้นน้ำตกเทียมปากท่อ
ปั้นน้ำตกเทียมวัดเพลง
ปั้นน้ำตกเทียมสวนผึ้ง
ปั้นน้ำตกเทียมโพธาราม
ปั้นน้ำตกเทียมเมืองฉะเชิงเทรา
ปั้นน้ำตกเทียมคลองเขื่อน
ปั้นน้ำตกเทียมท่าตะเกียบ
ปั้นน้ำตกเทียมบางคล้า
ปั้นน้ำตกเทียมบางน้ำเปรี้ยว
ปั้นน้ำตกเทียมบางปะกง
ปั้นน้ำตกเทียมบ้านโพธิ์
ปั้นน้ำตกเทียมพนมสารคาม
ปั้นน้ำตกเทียมราชสาส์น
ปั้นน้ำตกเทียมสนามชัยเขต
ปั้นน้ำตกเทียมแปลงยาว
ปั้นน้ำตกเทียมเมืองนครนายก
ปั้นน้ำตกเทียมปากพลี
ปั้นน้ำตกเทียมบ้านนา
ปั้นน้ำตกเทียมองครักษ์