ความหมายของดินหินแร่ มีคุณสมบัติอย่างไร
หมวดหมู่สินค้า: A327 ปั้นหินเทียม บริษัทเราทำได้
09 เมษายน 2565
ผู้ชม 185 ผู้ชม
ช่างน้ำตกเทียมรับจัดสวนตกแต่ง น้ำตกจำลอง น้ำผุด น้ำล้น จัดสร้างน้ำตก จำหน่ายหินธรรมชาติ ต้นไม้มงคล รับจัดสวนออกแบบสวน จัดสร้างน้ำตก ต้นไม้มงคลต้นไม้จัดสวนพร้อมให้ร่มเงาส่งและปลูก
หินเทียม
หินกาบ
จัดสวนหน้าบ้าน
ปั้นต้นไม้เทียม
ขายหินธรรมชาติ
จัดสวนข้างบ้าน
จัดสวนน้ำตก
หินเทียมราคา
จัดสวนน้ําตก
ดิน
ดิน(soil) หมายถึง เทหวัตถุธรรมชาติที่ปกคลุมผิวโลกเกิดจากการแปลงสภาพหรือสลายตัวของหินแร่ธาตุและอินทรีย์วัตถุผสมคลุกเคล้ากันตามธรรมชาติรวมตัวกันเป็นชั้นบางๆเมื่อมีน้ำและอากาศที่เหมาะสมก็จะทำให้พืชเจริญเติบโตและยังชีพอยู่ได้
ส่วนประกอบของดิน
ดินมีส่วนประกอบที่สำคัญอยู่ 4 ส่วน ดังนี้ คือ
1. ส่วนที่เป็นอนินทรีย์สาร ได้แก่ แร่ หิน ทราย เป็นต้น
2. ส่วนที่เป็นน้ำ คือ ความชื้นในดิน
3. ส่วนที่เป็นอากาศ คือ ช่องว่างระหว่างเม็ดดินที่มีอากาศแทรกอยู่
4. ส่วนที่เป็นอินทรีย์สาร ได้แก่ ซากพืช ซากสัตว์ที่สลายตัว มากน้อยแตกต่างกันและสิ่งมีชีวิตในดิน ซึ่งทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อพืช เช่น ไส้เดือนและแมลงในดิน เป็นต้น
ชนิดของดิน
จำแนกตามลักษณะของเนื้อดิน มี 3 ประเภทใหญ่ ๆ ดังต่อไปนี้
1. ดินเหนียว (Clay) คือ ดินที่มีเนื้อละเอียดที่สุด ยืดหยุ่นเมื่อเปียกน้ำ เหนียวติดมือ ปั้นเป็นก้อนหรือคลึงเป็นเส้นยาวได้ พังทลายได้ยาก การอุ้มน้ำดี จับยึดและแลกเปลี่ยนธาตุอาหารพืชได้ค่อนข้างสูงจึงมีธาตุอาหารพืชอยู่มาก
2. ดินทราย (Sand) เป็นดินที่เกาะตัวกันไม่แน่น ระบายน้ำและอากาศได้ดีมาก อุ้มน้ำได้น้อย พังทลายง่าย มีความอุดมสมบูรณ์ต่ำเพราะความสามารถในการจับยึดธาตุอาหารมีน้อย พืชที่ขึ้นอยู่ในบริเวณดินทรายจึงขาดน้ำและธาตุอาหารได้ง่าย
3. ดินร่วน (Loam) คือ ดินที่มีเนื้อค่อนข้างละเอียด นุ่มมือ ยืดหยุ่นพอควร ระบายน้ำได้ดีปานกลางมีแร่ธาตุอาหารพืชมากกว่าดินทรายเหมาะสำหรับใช้เพาะปลูก
การกำเนิดของดิน
เราสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ขั้นตอน ดังนี้
ขั้นที่ 1 การผุพัง สลายตัว (Weathering) เป็นสาเกตุทำให้ชั้นหินแตกเป็นหินก้อนใหญ่ๆ หินชั้นนี้ เมื่อถูกแสงแดดและฝนตกก็จะแตกหักและผุพังเป็นชิ้นเล็กๆต่อไป
ขั้นที่ 2 ขบวนการสร้างดิน (Soil Forming Process) จะเกิดขึ้นต่อเนื่องจากการผุพังสลายตัวของหินและ พืชจะเจริญงอกงามตามบริเวณรอยแตกของหิน แมลงเล็กๆ และสัตว์อื่นๆ เข้ามาอาศัยตามบริเวณรอยแตกเมื่อพืชและสัตว์ตายจะสลายตัวไปเป็นฮิวมัส
ขั้นที่ 3 สัตว์เล็กๆ ในดิน จะเคลื่อนที่ไปมาทำให้ฮิวมัสผสมกับเศษหินและแร่กลายเป็นดินที่อุดมสมบูรณ์ เรียกว่า ดินชั้นบน
หน้าตัดดิน
ปัจจัยต่างๆ ของการกำเนิดดิน ทำให้ได้ดินที่มีคุณสมบัติแตกต่างกันอย่างมาก ดินในภูมิประเทศหนึ่งๆ จะมีลักษณะเฉพาะของตัวเอง เราเรียกภาคตัดตามแนวดิ่งของชั้นดิน เรียกว่า หน้าตัดดิน (Soil Horizon) หน้าตัดดินบอกถึงลักษณะทางธรณีวิทยา และประวัติภูมิอากาศของภูมิประเทศที่เกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้นับพันปี รวมถึงว่ามนุษย์ใช้ดินอย่างไร อะไรเป็นสาเหตุให้ดินนั้นมีสมบัติเช่นในปัจจุบัน ตลอดจนแนวทางที่ดีที่สุดในการใช้ดิน
การปรับปรุงคุณภาพของดิน
การปรับปรุงคุณภาพของดินให้เหมาะกับการเพาะปลูกมีหลายวิธี ดังนี้
การใส่ปุ๋ยเพื่อเพิ่มแร่ธาตุ จุดประสงค์ของการใส่ปุ๋ยเพื่อเพิ่มเกลือแร่ให้กับดินเกลือแร่บางชนิดจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืชเช่นเกลือแร่ของาตุไนโตรเจนฟอสฟอรัสโพแทสเซียมและอื่นๆนอกจากนั้นยังเป็นการเพิ่มสารอินทรีย์ในดินอาจกระทำได้โดยใช้ปุ๋ยพืชสดใส่ปุ๋ยคอกและปุ๋ยหมักซึ่งปุ๋ยอินทรีย์เหล่านี้จะช่วยให้ดินมีความสามารถอุ้มน้ำได้ดีอากาศแทรกซึมได้สะดวกและลดอัตราการสูญเสียหน้าดิน
การปรับความเป็นกรด - เบสของดิน ปัจจัยที่เพิ่มความเป็นกรด - เบสของดิน ได้แก่ การเน่าเปื่อยของสารอินทรีย์ในดิน การใส่ปุ๋ยเคมีบางชนิด การใส่ปูนขาว โดยทั่วไปเป็นเพราะปริมาณแคลเซียม แมกนีเซียม โพแทสเซียม และโซเดียมที่เกาะอยู่กับเม็ดดินมากน้อยต่างกัน จึงทำให้ดินแต่ละชนิดมีความเป็นกรด - เบส แตกต่างกัน
การปลูกพืชหมุนเวียน การปลูกพืชหมุนเวียนจะเป็นวิธีการที่ทำให้มีการเพิ่มสารอินทรีย์ในดินเพื่อการเพิ่มคุณภาพของดิน
หิน
หิน (Rocks) คือมวลของแข็งที่ประกอบไปด้วยแร่ชนิดเดียวกันหรือหลายชนิดรวมตัวกันอยู่ตามธรรมชาติเปลือกโลกส่วนใหญ่มักเป็นแร่ตระกูลซิลิเกตนอกจากนั้นยังมีแร่ตระกูลคาร์บอเนตเนื่องจากบรรยากาศโลกในอดีตส่วนใหญ่เป็นคาร์บอนไดออกไซด์น้ำฝนได้ละลายคาร์บอนไดออกไซด์บนบรรยากาศลงมาสะสมบนพื้นดินและมหาสมุทรสิ่งมีชีวิตอาศัยคาร์บอนสร้างธาตุอาหารและร่างกายแพลงตอนบางชนิดอาศัยซิลิกาสร้างเปลือกเมื่อตายลงทับถมกันเป็นตะกอน
ประเภทของหิน
นักธรณีวิทยาแบ่งหินออกเป็น 3 ประเภท ตามลักษณะการเกิด คือ
หินอัคนี
หินตะกอน
หินแปร
วัฏจักรหิน (Rock cycle)
เมื่อหินหนืดร้อนภายในโลก (Magma) และ หินหนืดร้อนบนพื้นผิวโลก (Lava) เย็นตัวลงกลายเป็น หินอัคนี ลมฟ้าอากาศ น้ำ และแสงแดด ทำให้หินผุพังสึกกร่อนเป็นตะกอน ทับถมกันเป็นเวลานานหลายล้านปี แรงดันและปฏิกิริยาเคมีทำให้เกิดการรวมตัวเป็น หินตะกอน หรือ หินชั้น การเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลกและความร้อนจากแมนเทิลข้างล่าง ทำให้เกิดการแปรสภาพเป็น หินแปร กระบวนการเหล่านี้เกิดขึ้นเป็นวงรอบเรียกว่า วัฏจักรหิน (Rock cycle) อย่างไรก็ตามกระบวนการไม่จำเป็นต้องเรียงลำดับ หินอัคนี หินชั้น และหินแปร การเปลี่ยนแปลงประเภทหินอาจเกิดขึ้นย้อนกลับไปมาได้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยแวดล้อม
หินอัคนี
หินอัคนี (Igneous rocks) เป็นหินที่เกิดจากการแข็งตัวของหินหนืด (Magma) จากชั้นแมนเทิลที่โผล่ขึ้นมา เราแบ่งหินอัคนีตามแหล่งที่มาออกเป็น 2 ประเภท คือ
หินตะกอน
หินตะกอน หรือ หินชั้น (Sedimentary rocks) เป็น หินที่ถูกแสงแดด ลมฟ้าอากาศ และน้ำ หรือ ถูกกระแทก แล้วแตกเป็นก้อนเล็กๆ หรือผุกร่อน เสื่อมสภาพลง เศษหินที่ผุพังทั้งอนุภาคใหญ่และเล็กถูกพัดพาไปสะสมอัดตัวกัน เป็นชั้นๆ เกิดความกดดันและปฏิกิริยาเคมีจนกลับกลายเป็นหินอีกครั้ง ซึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดหินตะกอนหรือหินชั้น คือ การผุพัง (Weathering) การกร่อน (Erosion) และการพัดพา (Transportation)
หินแปร
หินแปร คือ หินที่แปรสภาพไปจากโดยการกระทำของความร้อน แรงดัน และปฏิกิริยาเคมี หินแปรบางชนิดยังแสดงเค้าเดิม บางชนิดผิดไปจากเดิมมากจนต้องอาศัยดูรายละเอียดของเนื้อใน หรือสภาพสิ่งแวดล้อมจึงจะทราบที่มา อย่างไรก็ตามหินแปรชนิดหนึ่งๆ จะมีองค์ประกอบเดียวกันกับหินต้นกำเนิด แต่อาจจะมีการตกผลึกของแร่ใหม่ เช่น หินชนวนแปรมาจากหินดินดาน หินอ่อนแปรมาจากหินปูน เป็นต้น หินแปรส่วนใหญ่เกิดขึ้นในระดับลึกใต้เปลือกโลกหลายกิโลเมตร ที่ซึ่งมีความดันสูงและอยู่ใกล้กลับหินหนืดร้อนในชั้นแอสทีโนสเฟียร์ แต่การแปรสภาพในบริเวณใกล้พื้นผิวโลกเนื่องจากสิ่งแวดล้อมโดยรอบก็คงมี นักธรณีวิทยาแบ่งการแปรสภาพออกเป็น 2 ประเภท คือ
1. การแปรสภาพสัมผัส (Contact metamorphism) เป็นการแปรสภาพเพราะความร้อน เกิดขึ้น ณ บริเวณที่หินหนืดหรือลาวาแทรกดันขึ้นมาสัมผัสกับหินท้องที่ ความร้อนและสารจากหินหนืดหรือลาวาทำให้หินท้องที่ในบริเวณนั้นแปรเปลี่ยนสภาพผิดไปจากเดิม
2. การแปรสภาพบริเวณไพศาล (Regional metamophic) เป็นการแปรสภาพของหินซึ่งเกิดเป็นบริเวณกว้างใหญ่ไพศาลเนื่องจากอุณหภูมิและความกดดัน โดยปกติการเปรสภาพแบบนี้จะไม่มีความเกี่ยวพันกับมวลหินอัคนี และมักจะมี ริ่วขนาน (Foliation) จนแลดูเป็นแถบลายสลับสี บิดย้วยแบบลูกคลื่น ซึ่งพบในหินชีสต์ หินไนส์ ทั้งนี้เป็นผลมาจากการการตกผลึกใหม่ของแร่ในหิน ทั้งนี้ริ้วขนานอาจจะแยกออกได้เป็นแผ่นๆ และมีผิวหน้าเรียบเนียน เช่น หินชนวน
แร่
แร่ (Mineral) หมายถึง ธาตุหรือสารประกอบอนินทรีย์ ( ไม่เกี่ยวข้องกับสิ่งมีชีวิต) ที่มีสถานะเป็นของแข็ง เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติและมีโครงสร้างภายในที่เป็นผลึก มีสูตรเคมีและสมบัติอื่นๆ ที่แน่นอนหรือเปลี่ยนแปลงได้ในวงจำกัด ตัวอย่างเช่น แร่เฮไลต์ ( เกลือ) เป็นสารประกอบ (Compound) ซึ่งประกอบด้วยอะตอมของโซเดียมและคลอรีนจำนวนเท่ากัน เกาะตัวกันอยู่ ทั้งนี้ผลึกเกลือขนาดเท่าหัวเข็มหมุด ประกอบด้วยโซเดียมคลอไรด์หลายล้านโมเลกุล
คุณสมบัติทางกายภาพของแร่
ผลึก ( Crystal) หมายถึง ของแข็งที่มีเนื้อเดียวกัน มีรูปทรงสามมิติ ผิวหน้าแต่ด้านเป็นระนาบ ซึ่งเป็นผลมาจากการจัดตัวของอะตอมหรือโมเลกุลของธาตุที่ประกอบอยู่ในของแข็งนั้นอย่างมีแบบแผน
แนวแตกเรียบ (Clevage) หมายถึง รอยที่แตกเป็นระนาบเรียบตามโครงสร้างอะตอมในผลึกแร่
แนวแตกประชิด (Fracture) หมายถึง แนวแตกบางๆ ซึ่งปรากฏเป็นแนวขนานบางๆ หลายแนวบนเนื้อแร่ และมิได้อยู่ในระนาบเดียวกับแนวแตกเรียบ
ความถ่วงจำเพาะ (Specific Gravity) เป็นอัตราส่วนระหว่างน้ำหนักของสสารต่อน้ำหนักของน้ำ ณ อุณหภูมิหนึ่งๆ
ความแข็ง (Hardness) มาตราความแข็งของแร่ตามระบบสเกลของโมล (Mol’s scale) ประกอบด้วยแร่มาตรฐาน 10 ชนิด เรียงลำดับตั้งแต่แร่ที่ทนทานต่อการขูดขีดน้อยที่สุด ถึงมากที่สุด ตามตาราง
สี (Color) เป็นคุณสมบัติที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดแต่เชื่อถือไม่ได้ แร่บางชนิดเช่น แร่ควอรตซ์ (SiO2) ปกติใสไม่มีสี แต่ที่พบเห็นส่วนมากจะมีสีขาว เหลือง ชมพู หรือดำ เนื่องมีสารอื่นเจือปนทำให้ไม่บริสุทธิ์ แร่คอรันดัม (Al2O3) โดยปกติมีสีขาวอมน้ำตาลขุ่น แต่เมื่อมีธาตุโครเมียมจำนวนเล็กน้อยเจือปน ก็จะมีสีแดงเรียกว่า “ ทับทิม” (Ruby) หรือถ้ามีธาตุเหล็กเจือปน ก็จะมีสีน้ำเงินเรียกว่า “ ไพลิน” (Sapphire)
สีผงละเอียด (Streak) เป็นคุณสมบัติเฉพาะตัวของแร่แต่ละชนิด เมื่อนำแร่มาขีดบนแผ่นกระเบื้อง ( ที่ไม่เคลือบ) จะเห็นสีของรอยขีดติดอยู่แผ่นกระเบื้อง ซึ่งอาจมีสีไม่เหมือนกับชิ้นแร่ก็ได้
ความวาว (Luster) หมายถึง คุณสมบัติในการสะท้อนแสงของผิวแร่ ความวาวมีหลายแบบ เช่น วาวแบบโลหะ แบบมุก แบบเพชร แบบน้ำมัน แบบแก้ว เป็นต้น
ความเป็นโลหะและอโลหะ ( Metal and Nonmetal) เป็นสมบัติพื้นฐานของแร่ ต่างๆ ที่มีความแตกต่างกันในด้านสมบัติ ความเป็นโลหะและอโลหะ เช่น การนำไฟฟ้า การนำความร้อน การเกิดสารประกอบ เป็นต้น
การจำแนกแร่
การจำแนกแร่ สามารถจำแนกออกได้ 4 ประเภท
1. แร่โลหะและแร่อโลหะ เป็นแร่ที่อยู่ในหินทั่วไป
แร่โลหะมีออกไซของโลหะ ซึ่งประกอบโลหะ กับออกซิเจน การนำแร่โลหะมาใช้ให้เกิดประโยชน์จะต้องทำการถลุงแร่ให้ได้โลหะบริสุทธิเสียก่อน โลหะที่ยังไม่ผ่านการถลุงเรียกว่า สินแร่ เช่น ตะกั่ว สังกะสี ดีบุก ทองแดง แมงกานีส พลวง โครเมียม
2. แร่รัตนาชาติ เป็นแร่อโลหะที่สามารถนำมาเจียระไนหรือขัดมันให้เกิดความสวยงาม มีความเด่นชัด ของสี ความวาว การให้แสงผ่าน การกระทบแสง นิยมนำมาทำเครื่องประดับโดยการขายเป็นกระรัต เช่นไพลิน หยก เพทาย มรกต โกเมน เป็นต้น
3. แร่กัมมันตรังสี เป็นสภาพของนิวเคลียสไม่เสถียร จะมีการปล่อยรังสีออกมาจากอะตอมอยู่ตลอดเวลา จัดเป็นแร่ที่ให้พลังงานที่มหาศาล ปัจจุบันรังสีที่ปลดปล่อยออกจาก แร่กัมมันตรังสี มาใช้ประโยชน์ เช่น การรักษาโรค ผลิตกระแสไฟฟ้า เป็นต้น
4. แร่เชื้อเพลิง เป็นทรัพยากรทางเศรษฐกิจ เช่น ถ่านหิน ก๊าซธรรมชาติ น้ำมัน น้ำมันดิบหรือน้ำมันปิโตรเลียม
ปั้นน้ำตกเทียมเชียงราย
ปั้นน้ำตกเทียมเชียงใหม่
ปั้นน้ำตกเทียมน่าน
ปั้นน้ำตกเทียมพะเยา
ปั้นน้ำตกเทียมแพร่
ปั้นน้ำตกเทียมแม่ฮ่องสอน
ปั้นน้ำตกเทียมลำปาง
ปั้นน้ำตกเทียมลำพูน
ปั้นน้ำตกเทียมอุตรดิตถ์
ปั้นน้ำตกเทียมกาฬสินธุ์
ปั้นน้ำตกเทียมขอนแก่น
ปั้นน้ำตกเทียมชัยภูมิ
ปั้นน้ำตกเทียมนครพนม
ปั้นน้ำตกเทียมนครราชสีมา
ปั้นน้ำตกเทียมบึงกาฬ
ปั้นน้ำตกเทียมบุรีรัมย์
ปั้นน้ำตกเทียมมหาสารคาม
ปั้นน้ำตกเทียมมุกดาหาร
ปั้นน้ำตกเทียมยโสธร
ปั้นน้ำตกเทียมร้อยเอ็ด
ปั้นน้ำตกเทียมเลย
ปั้นน้ำตกเทียมสกลนคร
ปั้นน้ำตกเทียมสุรินทร์
ปั้นน้ำตกเทียมศรีสะเกษ
ปั้นน้ำตกเทียมหนองคาย
ปั้นน้ำตกเทียมหนองบัวลำภู
ปั้นน้ำตกเทียมอุดรธานี
ปั้นน้ำตกเทียมอุบลราชธานี
ปั้นน้ำตกเทียมอำนาจเจริญ
ปั้นน้ำตกเทียมกำแพงเพชร
ปั้นน้ำตกเทียมชัยนาท
ปั้นน้ำตกเทียมนครนายก
ปั้นน้ำตกเทียมนครปฐม
ปั้นน้ำตกเทียมนครสวรรค์
ปั้นน้ำตกเทียมนนทบุรี
ปั้นน้ำตกเทียมปทุมธานี
ปั้นน้ำตกเทียมพระนครศรีอยุธยา
ปั้นน้ำตกเทียมพิจิตร
ปั้นน้ำตกเทียมพิษณุโลก
ปั้นน้ำตกเทียมเพชรบูรณ์
ปั้นน้ำตกเทียมลพบุรี
ปั้นน้ำตกเทียมสมุทรปราการ
ปั้นน้ำตกเทียมสมุทรสงคราม
ปั้นน้ำตกเทียมสมุทรสาคร
ปั้นน้ำตกเทียมสิงห์บุรี
ปั้นน้ำตกเทียมสุโขทัย
ปั้นน้ำตกเทียมสุพรรณบุรี
ปั้นน้ำตกเทียมสระบุรี
ปั้นน้ำตกเทียมอ่างทอง
ปั้นน้ำตกเทียมอุทัยธานี
ปั้นน้ำตกเทียมจันทบุรี
ปั้นน้ำตกเทียมฉะเชิงเทรา
ปั้นน้ำตกเทียมชลบุรี
ปั้นน้ำตกเทียมตราด
ปั้นน้ำตกเทียมปราจีนบุรี
ปั้นน้ำตกเทียมระยอง
ปั้นน้ำตกเทียมสระแก้ว
ปั้นน้ำตกเทียมกาญจนบุรี
ปั้นน้ำตกเทียมตาก
ปั้นน้ำตกเทียมประจวบคีรีขันธ์
ปั้นน้ำตกเทียมเพชรบุรี
ปั้นน้ำตกเทียมราชบุรี
ปั้นน้ำตกเทียมกระบี่
ปั้นน้ำตกเทียมชุมพร
ปั้นน้ำตกเทียมตรัง
ปั้นน้ำตกเทียมนครศรีธรรมราช
ปั้นน้ำตกเทียมนราธิวาส
ปั้นน้ำตกเทียมปัตตานี
ปั้นน้ำตกเทียมพังงา
ปั้นน้ำตกเทียมพัทลุง
ปั้นน้ำตกเทียมภูเก็ต
ปั้นน้ำตกเทียมระนอง
ปั้นน้ำตกเทียมสตูล
ปั้นน้ำตกเทียมสงขลา
ปั้นน้ำตกเทียมสุราษฎร์ธานี
ปั้นน้ำตกเทียมยะลา
ปั้นน้ำตกเทียมกรุงเทพมหานคร
ปั้นน้ำตกเทียมคลองสาน
ปั้นน้ำตกเทียมคลองสามวา
ปั้นน้ำตกเทียมคลองเตย
ปั้นน้ำตกเทียมคันนายาว
ปั้นน้ำตกเทียมจอมทอง
ปั้นน้ำตกเทียมดอนเมือง
ปั้นน้ำตกเทียมดินแดง
ปั้นน้ำตกเทียมดุสิต
ปั้นน้ำตกเทียมตลิ่งชัน
ปั้นน้ำตกเทียมทวีวัฒนา
ปั้นน้ำตกเทียมทุ่งครุ
ปั้นน้ำตกเทียมธนบุรี
ปั้นน้ำตกเทียมบางกอกน้อย
ปั้นน้ำตกเทียมบางกอกใหญ่
ปั้นน้ำตกเทียมบางกะปิ
ปั้นน้ำตกเทียมบางคอแหลม
ปั้นน้ำตกเทียมบางซื่อ
ปั้นน้ำตกเทียมบางนา
ปั้นน้ำตกเทียมบางพลัด
ปั้นน้ำตกเทียมบางรัก
ปั้นน้ำตกเทียมบางเขน
ปั้นน้ำตกเทียมบางแค
ปั้นน้ำตกเทียมบึงกุ่ม
ปั้นน้ำตกเทียมปทุมวัน
ปั้นน้ำตกเทียมประเวศ
ปั้นน้ำตกเทียมป้อมปราบศัตรูพ่าย
ปั้นน้ำตกเทียมพญาไท
ปั้นน้ำตกเทียมพระนคร
ปั้นน้ำตกเทียมพระโขนง
ปั้นน้ำตกเทียมภาษีเจริญ
ปั้นน้ำตกเทียมมีนบุรี
ปั้นน้ำตกเทียมยานนาวา
ปั้นน้ำตกเทียมราชเทวี
ปั้นน้ำตกเทียมราษฎร์บูรณะ
ปั้นน้ำตกเทียมลาดกระบัง
ปั้นน้ำตกเทียมลาดพร้าว
ปั้นน้ำตกเทียมวังทองหลาง
ปั้นน้ำตกเทียมวัฒนา
ปั้นน้ำตกเทียมสวนหลวง
ปั้นน้ำตกเทียมสะพานสูง
ปั้นน้ำตกเทียมสัมพันธวงศ์
ปั้นน้ำตกเทียมสาทร
ปั้นน้ำตกเทียมสายไหม
ปั้นน้ำตกเทียมหนองจอก
ปั้นน้ำตกเทียมหนองแขม
ปั้นน้ำตกเทียมหลักสี่
ปั้นน้ำตกเทียมห้วยขวาง
ปั้นน้ำตกเทียมเมืองนครปฐม
ปั้นน้ำตกเทียมกำแพงแสน
ปั้นน้ำตกเทียมดอนตูม
ปั้นน้ำตกเทียมนครชัยศรี
ปั้นน้ำตกเทียมบางเลน
ปั้นน้ำตกเทียมพุทธมณฑล
ปั้นน้ำตกเทียมสามพราน
ปั้นน้ำตกเทียมเมืองนนทบุรี
ปั้นน้ำตกเทียมบางกรวย
ปั้นน้ำตกเทียมบางบัวทอง
ปั้นน้ำตกเทียมบางใหญ่
ปั้นน้ำตกเทียมปากเกร็ด
ปั้นน้ำตกเทียมไทรน้อย
ปั้นน้ำตกเทียมเมืองปทุมธานี
ปั้นน้ำตกเทียมคลองหลวง
ปั้นน้ำตกเทียมธัญบุรี
ปั้นน้ำตกเทียมลาดหลุมแก้ว
ปั้นน้ำตกเทียมลำลูกกา
ปั้นน้ำตกเทียมสามโคก
ปั้นน้ำตกเทียมหนองเสือ
ปั้นน้ำตกเทียมเมืองสมุทรปราการ
ปั้นน้ำตกเทียมบางพลี
ปั้นน้ำตกเทียมบางเสาธง
ปั้นน้ำตกเทียมพระประแดง
ปั้นน้ำตกเทียมพระสมุทรเจดีย์
ปั้นน้ำตกเทียมเมืองระยอง
ปั้นน้ำตกเทียมนิคมพัฒนา
ปั้นน้ำตกเทียมเขาชะเมา
ปั้นน้ำตกเทียมบ้านฉาง
ปั้นน้ำตกเทียมปลวกแดง
ปั้นน้ำตกเทียมวังจันทร์
ปั้นน้ำตกเทียมแกลง
ปั้นน้ำตกเทียมเมืองชลบุรี
ปั้นน้ำตกเทียมเกาะจันทร์
ปั้นน้ำตกเทียมบางละมุง
ปั้นน้ำตกเทียมบ่อทอง
ปั้นน้ำตกเทียมบ้านบึง
ปั้นน้ำตกเทียมพนัสนิคม
ปั้นน้ำตกเทียมพานทอง
ปั้นน้ำตกเทียมศรีราชา
ปั้นน้ำตกเทียมสัตหีบ
ปั้นน้ำตกเทียมหนองใหญ่
ปั้นน้ำตกเทียมเกาะสีชัง
ปั้นน้ำตกเทียมเมืองสมุทรสาคร
ปั้นน้ำตกเทียมกระทุ่มแบน
ปั้นน้ำตกเทียมบ้านแพ้ว
ปั้นน้ำตกเทียมมหาชัย
ปั้นน้ำตกเทียมเมืองสมุทร
ปั้นน้ำตกเทียมอัมพวา
ปั้นน้ำตกเทียมบางคนที
ปั้นน้ำตกเทียมเมืองราชบุรี
ปั้นน้ำตกเทียมบ้านคา
ปั้นน้ำตกเทียมจอมบึง
ปั้นน้ำตกเทียมดำเนินสะดวก
ปั้นน้ำตกเทียมบางแพ
ปั้นน้ำตกเทียมบ้านโป่ง
ปั้นน้ำตกเทียมปากท่อ
ปั้นน้ำตกเทียมวัดเพลง
ปั้นน้ำตกเทียมสวนผึ้ง
ปั้นน้ำตกเทียมโพธาราม
ปั้นน้ำตกเทียมเมืองฉะเชิงเทรา
ปั้นน้ำตกเทียมคลองเขื่อน
ปั้นน้ำตกเทียมท่าตะเกียบ
ปั้นน้ำตกเทียมบางคล้า
ปั้นน้ำตกเทียมบางน้ำเปรี้ยว
ปั้นน้ำตกเทียมบางปะกง
ปั้นน้ำตกเทียมบ้านโพธิ์
ปั้นน้ำตกเทียมพนมสารคาม
ปั้นน้ำตกเทียมราชสาส์น
ปั้นน้ำตกเทียมสนามชัยเขต
ปั้นน้ำตกเทียมแปลงยาว
ปั้นน้ำตกเทียมเมืองนครนายก
ปั้นน้ำตกเทียมปากพลี
ปั้นน้ำตกเทียมบ้านนา
ปั้นน้ำตกเทียมองครักษ์