ความหมายของดินหินแร่ มีคุณสมบัติอย่างไร ปี 2023
หมวดหมู่สินค้า: A238 ขายหินธรรมชาติ
28 มีนาคม 2566
ผู้ชม 235 ผู้ชม
ขายส่งหินจัดสวน จัดสวนหินธรรมชาติ จัดหาหินฟอร์มสวย
#หินฟองน้ำ #หินกาบ #หินน้ำตก #หินกรวด #สวนหิน
ขายส่งก้อนหินธรรมชาติ หินกาบ หินมอส หินฟองน้ำ หินธรรมชาติ หินน้ำตก จำหน่ายราคาส่ง จัดส่งทั่วประเทศ ขายส่งหินกาบ หินจัดสวนราคาถูก ก้อนหินธรรมชาติ หินน้ำตก จัดหาหินสวยจัดสวนลงตามโครงการ รีสอร์ท บ้านจัดสรร ผลงานของเรา
ขายส่งหินฟองน้ำ
ขายส่งหินกาบ
ขายส่งหินน้ำตก
ขายส่งหินกรวด
ดิน
ดิน(soil) หมายถึง เทหวัตถุธรรมชาติที่ปกคลุมผิวโลกเกิดจากการแปลงสภาพหรือสลายตัวของหินแร่ธาตุและอินทรีย์วัตถุผสมคลุกเคล้ากันตามธรรมชาติรวมตัวกันเป็นชั้นบางๆเมื่อมีน้ำและอากาศที่เหมาะสมก็จะทำให้พืชเจริญเติบโตและยังชีพอยู่ได้
ส่วนประกอบของดิน
ดินมีส่วนประกอบที่สำคัญอยู่ 4 ส่วน ดังนี้ คือ
1. ส่วนที่เป็นอนินทรีย์สาร ได้แก่ แร่ หิน ทราย เป็นต้น
2. ส่วนที่เป็นน้ำ คือ ความชื้นในดิน
3. ส่วนที่เป็นอากาศ คือ ช่องว่างระหว่างเม็ดดินที่มีอากาศแทรกอยู่
4. ส่วนที่เป็นอินทรีย์สาร ได้แก่ ซากพืช ซากสัตว์ที่สลายตัว มากน้อยแตกต่างกันและสิ่งมีชีวิตในดิน ซึ่งทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อพืช เช่น ไส้เดือนและแมลงในดิน เป็นต้น
ชนิดของดิน
จำแนกตามลักษณะของเนื้อดิน มี 3 ประเภทใหญ่ ๆ ดังต่อไปนี้
1. ดินเหนียว (Clay) คือ ดินที่มีเนื้อละเอียดที่สุด ยืดหยุ่นเมื่อเปียกน้ำ เหนียวติดมือ ปั้นเป็นก้อนหรือคลึงเป็นเส้นยาวได้ พังทลายได้ยาก การอุ้มน้ำดี จับยึดและแลกเปลี่ยนธาตุอาหารพืชได้ค่อนข้างสูงจึงมีธาตุอาหารพืชอยู่มาก
2. ดินทราย (Sand) เป็นดินที่เกาะตัวกันไม่แน่น ระบายน้ำและอากาศได้ดีมาก อุ้มน้ำได้น้อย พังทลายง่าย มีความอุดมสมบูรณ์ต่ำเพราะความสามารถในการจับยึดธาตุอาหารมีน้อย พืชที่ขึ้นอยู่ในบริเวณดินทรายจึงขาดน้ำและธาตุอาหารได้ง่าย
3. ดินร่วน (Loam) คือ ดินที่มีเนื้อค่อนข้างละเอียด นุ่มมือ ยืดหยุ่นพอควร ระบายน้ำได้ดีปานกลางมีแร่ธาตุอาหารพืชมากกว่าดินทรายเหมาะสำหรับใช้เพาะปลูก
การกำเนิดของดิน
เราสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ขั้นตอน ดังนี้
ขั้นที่ 1 การผุพัง สลายตัว (Weathering) เป็นสาเกตุทำให้ชั้นหินแตกเป็นหินก้อนใหญ่ๆ หินชั้นนี้ เมื่อถูกแสงแดดและฝนตกก็จะแตกหักและผุพังเป็นชิ้นเล็กๆต่อไป
ขั้นที่ 2 ขบวนการสร้างดิน (Soil Forming Process) จะเกิดขึ้นต่อเนื่องจากการผุพังสลายตัวของหินและ พืชจะเจริญงอกงามตามบริเวณรอยแตกของหิน แมลงเล็กๆ และสัตว์อื่นๆ เข้ามาอาศัยตามบริเวณรอยแตกเมื่อพืชและสัตว์ตายจะสลายตัวไปเป็นฮิวมัส
ขั้นที่ 3 สัตว์เล็กๆ ในดิน จะเคลื่อนที่ไปมาทำให้ฮิวมัสผสมกับเศษหินและแร่กลายเป็นดินที่อุดมสมบูรณ์ เรียกว่า ดินชั้นบน
หน้าตัดดิน
ปัจจัยต่างๆ ของการกำเนิดดิน ทำให้ได้ดินที่มีคุณสมบัติแตกต่างกันอย่างมาก ดินในภูมิประเทศหนึ่งๆ จะมีลักษณะเฉพาะของตัวเอง เราเรียกภาคตัดตามแนวดิ่งของชั้นดิน เรียกว่า หน้าตัดดิน (Soil Horizon) หน้าตัดดินบอกถึงลักษณะทางธรณีวิทยา และประวัติภูมิอากาศของภูมิประเทศที่เกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้นับพันปี รวมถึงว่ามนุษย์ใช้ดินอย่างไร อะไรเป็นสาเหตุให้ดินนั้นมีสมบัติเช่นในปัจจุบัน ตลอดจนแนวทางที่ดีที่สุดในการใช้ดิน
การปรับปรุงคุณภาพของดิน
การปรับปรุงคุณภาพของดินให้เหมาะกับการเพาะปลูกมีหลายวิธี ดังนี้
การใส่ปุ๋ยเพื่อเพิ่มแร่ธาตุ จุดประสงค์ของการใส่ปุ๋ยเพื่อเพิ่มเกลือแร่ให้กับดินเกลือแร่บางชนิดจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืชเช่นเกลือแร่ของาตุไนโตรเจนฟอสฟอรัสโพแทสเซียมและอื่นๆนอกจากนั้นยังเป็นการเพิ่มสารอินทรีย์ในดินอาจกระทำได้โดยใช้ปุ๋ยพืชสดใส่ปุ๋ยคอกและปุ๋ยหมักซึ่งปุ๋ยอินทรีย์เหล่านี้จะช่วยให้ดินมีความสามารถอุ้มน้ำได้ดีอากาศแทรกซึมได้สะดวกและลดอัตราการสูญเสียหน้าดิน
การปรับความเป็นกรด - เบสของดิน ปัจจัยที่เพิ่มความเป็นกรด - เบสของดิน ได้แก่ การเน่าเปื่อยของสารอินทรีย์ในดิน การใส่ปุ๋ยเคมีบางชนิด การใส่ปูนขาว โดยทั่วไปเป็นเพราะปริมาณแคลเซียม แมกนีเซียม โพแทสเซียม และโซเดียมที่เกาะอยู่กับเม็ดดินมากน้อยต่างกัน จึงทำให้ดินแต่ละชนิดมีความเป็นกรด - เบส แตกต่างกัน
การปลูกพืชหมุนเวียน การปลูกพืชหมุนเวียนจะเป็นวิธีการที่ทำให้มีการเพิ่มสารอินทรีย์ในดินเพื่อการเพิ่มคุณภาพของดิน
หิน
หิน (Rocks) คือมวลของแข็งที่ประกอบไปด้วยแร่ชนิดเดียวกันหรือหลายชนิดรวมตัวกันอยู่ตามธรรมชาติเปลือกโลกส่วนใหญ่มักเป็นแร่ตระกูลซิลิเกตนอกจากนั้นยังมีแร่ตระกูลคาร์บอเนตเนื่องจากบรรยากาศโลกในอดีตส่วนใหญ่เป็นคาร์บอนไดออกไซด์น้ำฝนได้ละลายคาร์บอนไดออกไซด์บนบรรยากาศลงมาสะสมบนพื้นดินและมหาสมุทรสิ่งมีชีวิตอาศัยคาร์บอนสร้างธาตุอาหารและร่างกายแพลงตอนบางชนิดอาศัยซิลิกาสร้างเปลือกเมื่อตายลงทับถมกันเป็นตะกอน
ประเภทของหิน
นักธรณีวิทยาแบ่งหินออกเป็น 3 ประเภท ตามลักษณะการเกิด คือ
หินอัคนี
หินตะกอน
หินแปร
วัฏจักรหิน (Rock cycle)
เมื่อหินหนืดร้อนภายในโลก (Magma) และ หินหนืดร้อนบนพื้นผิวโลก (Lava) เย็นตัวลงกลายเป็น หินอัคนี ลมฟ้าอากาศ น้ำ และแสงแดด ทำให้หินผุพังสึกกร่อนเป็นตะกอน ทับถมกันเป็นเวลานานหลายล้านปี แรงดันและปฏิกิริยาเคมีทำให้เกิดการรวมตัวเป็น หินตะกอน หรือ หินชั้น การเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลกและความร้อนจากแมนเทิลข้างล่าง ทำให้เกิดการแปรสภาพเป็น หินแปร กระบวนการเหล่านี้เกิดขึ้นเป็นวงรอบเรียกว่า วัฏจักรหิน (Rock cycle) อย่างไรก็ตามกระบวนการไม่จำเป็นต้องเรียงลำดับ หินอัคนี หินชั้น และหินแปร การเปลี่ยนแปลงประเภทหินอาจเกิดขึ้นย้อนกลับไปมาได้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยแวดล้อม
หินอัคนี
หินอัคนี (Igneous rocks) เป็นหินที่เกิดจากการแข็งตัวของหินหนืด (Magma) จากชั้นแมนเทิลที่โผล่ขึ้นมา เราแบ่งหินอัคนีตามแหล่งที่มาออกเป็น 2 ประเภท คือ
หินตะกอน
หินตะกอน หรือ หินชั้น (Sedimentary rocks) เป็น หินที่ถูกแสงแดด ลมฟ้าอากาศ และน้ำ หรือ ถูกกระแทก แล้วแตกเป็นก้อนเล็กๆ หรือผุกร่อน เสื่อมสภาพลง เศษหินที่ผุพังทั้งอนุภาคใหญ่และเล็กถูกพัดพาไปสะสมอัดตัวกัน เป็นชั้นๆ เกิดความกดดันและปฏิกิริยาเคมีจนกลับกลายเป็นหินอีกครั้ง ซึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดหินตะกอนหรือหินชั้น คือ การผุพัง (Weathering) การกร่อน (Erosion) และการพัดพา (Transportation)
หินแปร
หินแปร คือ หินที่แปรสภาพไปจากโดยการกระทำของความร้อน แรงดัน และปฏิกิริยาเคมี หินแปรบางชนิดยังแสดงเค้าเดิม บางชนิดผิดไปจากเดิมมากจนต้องอาศัยดูรายละเอียดของเนื้อใน หรือสภาพสิ่งแวดล้อมจึงจะทราบที่มา อย่างไรก็ตามหินแปรชนิดหนึ่งๆ จะมีองค์ประกอบเดียวกันกับหินต้นกำเนิด แต่อาจจะมีการตกผลึกของแร่ใหม่ เช่น หินชนวนแปรมาจากหินดินดาน หินอ่อนแปรมาจากหินปูน เป็นต้น หินแปรส่วนใหญ่เกิดขึ้นในระดับลึกใต้เปลือกโลกหลายกิโลเมตร ที่ซึ่งมีความดันสูงและอยู่ใกล้กลับหินหนืดร้อนในชั้นแอสทีโนสเฟียร์ แต่การแปรสภาพในบริเวณใกล้พื้นผิวโลกเนื่องจากสิ่งแวดล้อมโดยรอบก็คงมี นักธรณีวิทยาแบ่งการแปรสภาพออกเป็น 2 ประเภท คือ
1. การแปรสภาพสัมผัส (Contact metamorphism) เป็นการแปรสภาพเพราะความร้อน เกิดขึ้น ณ บริเวณที่หินหนืดหรือลาวาแทรกดันขึ้นมาสัมผัสกับหินท้องที่ ความร้อนและสารจากหินหนืดหรือลาวาทำให้หินท้องที่ในบริเวณนั้นแปรเปลี่ยนสภาพผิดไปจากเดิม
2. การแปรสภาพบริเวณไพศาล (Regional metamophic) เป็นการแปรสภาพของหินซึ่งเกิดเป็นบริเวณกว้างใหญ่ไพศาลเนื่องจากอุณหภูมิและความกดดัน โดยปกติการเปรสภาพแบบนี้จะไม่มีความเกี่ยวพันกับมวลหินอัคนี และมักจะมี ริ่วขนาน (Foliation) จนแลดูเป็นแถบลายสลับสี บิดย้วยแบบลูกคลื่น ซึ่งพบในหินชีสต์ หินไนส์ ทั้งนี้เป็นผลมาจากการการตกผลึกใหม่ของแร่ในหิน ทั้งนี้ริ้วขนานอาจจะแยกออกได้เป็นแผ่นๆ และมีผิวหน้าเรียบเนียน เช่น หินชนวน
แร่
แร่ (Mineral) หมายถึง ธาตุหรือสารประกอบอนินทรีย์ ( ไม่เกี่ยวข้องกับสิ่งมีชีวิต) ที่มีสถานะเป็นของแข็ง เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติและมีโครงสร้างภายในที่เป็นผลึก มีสูตรเคมีและสมบัติอื่นๆ ที่แน่นอนหรือเปลี่ยนแปลงได้ในวงจำกัด ตัวอย่างเช่น แร่เฮไลต์ ( เกลือ) เป็นสารประกอบ (Compound) ซึ่งประกอบด้วยอะตอมของโซเดียมและคลอรีนจำนวนเท่ากัน เกาะตัวกันอยู่ ทั้งนี้ผลึกเกลือขนาดเท่าหัวเข็มหมุด ประกอบด้วยโซเดียมคลอไรด์หลายล้านโมเลกุล
คุณสมบัติทางกายภาพของแร่
ผลึก ( Crystal) หมายถึง ของแข็งที่มีเนื้อเดียวกัน มีรูปทรงสามมิติ ผิวหน้าแต่ด้านเป็นระนาบ ซึ่งเป็นผลมาจากการจัดตัวของอะตอมหรือโมเลกุลของธาตุที่ประกอบอยู่ในของแข็งนั้นอย่างมีแบบแผน
แนวแตกเรียบ (Clevage) หมายถึง รอยที่แตกเป็นระนาบเรียบตามโครงสร้างอะตอมในผลึกแร่
แนวแตกประชิด (Fracture) หมายถึง แนวแตกบางๆ ซึ่งปรากฏเป็นแนวขนานบางๆ หลายแนวบนเนื้อแร่ และมิได้อยู่ในระนาบเดียวกับแนวแตกเรียบ
ความถ่วงจำเพาะ (Specific Gravity) เป็นอัตราส่วนระหว่างน้ำหนักของสสารต่อน้ำหนักของน้ำ ณ อุณหภูมิหนึ่งๆ
ความแข็ง (Hardness) มาตราความแข็งของแร่ตามระบบสเกลของโมล (Mol’s scale) ประกอบด้วยแร่มาตรฐาน 10 ชนิด เรียงลำดับตั้งแต่แร่ที่ทนทานต่อการขูดขีดน้อยที่สุด ถึงมากที่สุด ตามตาราง
สี (Color) เป็นคุณสมบัติที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดแต่เชื่อถือไม่ได้ แร่บางชนิดเช่น แร่ควอรตซ์ (SiO2) ปกติใสไม่มีสี แต่ที่พบเห็นส่วนมากจะมีสีขาว เหลือง ชมพู หรือดำ เนื่องมีสารอื่นเจือปนทำให้ไม่บริสุทธิ์ แร่คอรันดัม (Al2O3) โดยปกติมีสีขาวอมน้ำตาลขุ่น แต่เมื่อมีธาตุโครเมียมจำนวนเล็กน้อยเจือปน ก็จะมีสีแดงเรียกว่า “ ทับทิม” (Ruby) หรือถ้ามีธาตุเหล็กเจือปน ก็จะมีสีน้ำเงินเรียกว่า “ ไพลิน” (Sapphire)
สีผงละเอียด (Streak) เป็นคุณสมบัติเฉพาะตัวของแร่แต่ละชนิด เมื่อนำแร่มาขีดบนแผ่นกระเบื้อง ( ที่ไม่เคลือบ) จะเห็นสีของรอยขีดติดอยู่แผ่นกระเบื้อง ซึ่งอาจมีสีไม่เหมือนกับชิ้นแร่ก็ได้
ความวาว (Luster) หมายถึง คุณสมบัติในการสะท้อนแสงของผิวแร่ ความวาวมีหลายแบบ เช่น วาวแบบโลหะ แบบมุก แบบเพชร แบบน้ำมัน แบบแก้ว เป็นต้น
ความเป็นโลหะและอโลหะ ( Metal and Nonmetal) เป็นสมบัติพื้นฐานของแร่ ต่างๆ ที่มีความแตกต่างกันในด้านสมบัติ ความเป็นโลหะและอโลหะ เช่น การนำไฟฟ้า การนำความร้อน การเกิดสารประกอบ เป็นต้น
การจำแนกแร่
การจำแนกแร่ สามารถจำแนกออกได้ 4 ประเภท
1. แร่โลหะและแร่อโลหะ เป็นแร่ที่อยู่ในหินทั่วไป
แร่โลหะมีออกไซของโลหะ ซึ่งประกอบโลหะ กับออกซิเจน การนำแร่โลหะมาใช้ให้เกิดประโยชน์จะต้องทำการถลุงแร่ให้ได้โลหะบริสุทธิเสียก่อน โลหะที่ยังไม่ผ่านการถลุงเรียกว่า สินแร่ เช่น ตะกั่ว สังกะสี ดีบุก ทองแดง แมงกานีส พลวง โครเมียม
2. แร่รัตนาชาติ เป็นแร่อโลหะที่สามารถนำมาเจียระไนหรือขัดมันให้เกิดความสวยงาม มีความเด่นชัด ของสี ความวาว การให้แสงผ่าน การกระทบแสง นิยมนำมาทำเครื่องประดับโดยการขายเป็นกระรัต เช่นไพลิน หยก เพทาย มรกต โกเมน เป็นต้น
3. แร่กัมมันตรังสี เป็นสภาพของนิวเคลียสไม่เสถียร จะมีการปล่อยรังสีออกมาจากอะตอมอยู่ตลอดเวลา จัดเป็นแร่ที่ให้พลังงานที่มหาศาล ปัจจุบันรังสีที่ปลดปล่อยออกจาก แร่กัมมันตรังสี มาใช้ประโยชน์ เช่น การรักษาโรค ผลิตกระแสไฟฟ้า เป็นต้น
4. แร่เชื้อเพลิง เป็นทรัพยากรทางเศรษฐกิจ เช่น ถ่านหิน ก๊าซธรรมชาติ น้ำมัน น้ำมันดิบหรือน้ำมันปิโตรเลียม
ตัวอย่างสวนหินเชียงราย
ตัวอย่างสวนหินเชียงใหม่
ตัวอย่างสวนหินน่าน
ตัวอย่างสวนหินพะเยา
ตัวอย่างสวนหินแพร่
ตัวอย่างสวนหินแม่ฮ่องสอน
ตัวอย่างสวนหินลำปาง
ตัวอย่างสวนหินลำพูน
ตัวอย่างสวนหินอุตรดิตถ์
ตัวอย่างสวนหินกาฬสินธุ์
ตัวอย่างสวนหินขอนแก่น
ตัวอย่างสวนหินชัยภูมิ
ตัวอย่างสวนหินนครพนม
ตัวอย่างสวนหินนครราชสีมา
ตัวอย่างสวนหินบึงกาฬ
ตัวอย่างสวนหินบุรีรัมย์
ตัวอย่างสวนหินมหาสารคาม
ตัวอย่างสวนหินมุกดาหาร
ตัวอย่างสวนหินยโสธร
ตัวอย่างสวนหินร้อยเอ็ด
ตัวอย่างสวนหินเลย
ตัวอย่างสวนหินสกลนคร
ตัวอย่างสวนหินสุรินทร์
ตัวอย่างสวนหินศรีสะเกษ
ตัวอย่างสวนหินหนองคาย
ตัวอย่างสวนหินหนองบัวลำภู
ตัวอย่างสวนหินอุดรธานี
ตัวอย่างสวนหินอุบลราชธานี
ตัวอย่างสวนหินอำนาจเจริญ
ตัวอย่างสวนหินกำแพงเพชร
ตัวอย่างสวนหินชัยนาท
ตัวอย่างสวนหินนครนายก
ตัวอย่างสวนหินนครปฐม
ตัวอย่างสวนหินนครสวรรค์
ตัวอย่างสวนหินนนทบุรี
ตัวอย่างสวนหินปทุมธานี
ตัวอย่างสวนหินพระนครศรีอยุธยา
ตัวอย่างสวนหินพิจิตร
ตัวอย่างสวนหินพิษณุโลก
ตัวอย่างสวนหินเพชรบูรณ์
ตัวอย่างสวนหินลพบุรี
ตัวอย่างสวนหินสมุทรปราการ
ตัวอย่างสวนหินสมุทรสงคราม
ตัวอย่างสวนหินสมุทรสาคร
ตัวอย่างสวนหินสิงห์บุรี
ตัวอย่างสวนหินสุโขทัย
ตัวอย่างสวนหินสุพรรณบุรี
ตัวอย่างสวนหินสระบุรี
ตัวอย่างสวนหินอ่างทอง
ตัวอย่างสวนหินอุทัยธานี
ตัวอย่างสวนหินจันทบุรี
ตัวอย่างสวนหินฉะเชิงเทรา
ตัวอย่างสวนหินชลบุรี
ตัวอย่างสวนหินตราด
ตัวอย่างสวนหินปราจีนบุรี
ตัวอย่างสวนหินระยอง
ตัวอย่างสวนหินสระแก้ว
ตัวอย่างสวนหินกาญจนบุรี
ตัวอย่างสวนหินตาก
ตัวอย่างสวนหินประจวบคีรีขันธ์
ตัวอย่างสวนหินเพชรบุรี
ตัวอย่างสวนหินราชบุรี
ตัวอย่างสวนหินกระบี่
ตัวอย่างสวนหินชุมพร
ตัวอย่างสวนหินตรัง
ตัวอย่างสวนหินนครศรีธรรมราช
ตัวอย่างสวนหินนราธิวาส
ตัวอย่างสวนหินปัตตานี
ตัวอย่างสวนหินพังงา
ตัวอย่างสวนหินพัทลุง
ตัวอย่างสวนหินภูเก็ต
ตัวอย่างสวนหินระนอง
ตัวอย่างสวนหินสตูล
ตัวอย่างสวนหินสงขลา
ตัวอย่างสวนหินสุราษฎร์ธานี
ตัวอย่างสวนหินยะลา
ตัวอย่างสวนหินกรุงเทพมหานคร
ตัวอย่างสวนหินคลองสาน
ตัวอย่างสวนหินคลองสามวา
ตัวอย่างสวนหินคลองเตย
ตัวอย่างสวนหินคันนายาว
ตัวอย่างสวนหินจอมทอง
ตัวอย่างสวนหินดอนเมือง
ตัวอย่างสวนหินดินแดง
ตัวอย่างสวนหินดุสิต
ตัวอย่างสวนหินตลิ่งชัน
ตัวอย่างสวนหินทวีวัฒนา
ตัวอย่างสวนหินทุ่งครุ
ตัวอย่างสวนหินธนบุรี
ตัวอย่างสวนหินบางกอกน้อย
ตัวอย่างสวนหินบางกอกใหญ่
ตัวอย่างสวนหินบางกะปิ
ตัวอย่างสวนหินบางคอแหลม
ตัวอย่างสวนหินบางซื่อ
ตัวอย่างสวนหินบางนา
ตัวอย่างสวนหินบางพลัด
ตัวอย่างสวนหินบางรัก
ตัวอย่างสวนหินบางเขน
ตัวอย่างสวนหินบางแค
ตัวอย่างสวนหินบึงกุ่ม
ตัวอย่างสวนหินปทุมวัน
ตัวอย่างสวนหินประเวศ
ตัวอย่างสวนหินป้อมปราบศัตรูพ่าย
ตัวอย่างสวนหินพญาไท
ตัวอย่างสวนหินพระนคร
ตัวอย่างสวนหินพระโขนง
ตัวอย่างสวนหินภาษีเจริญ
ตัวอย่างสวนหินมีนบุรี
ตัวอย่างสวนหินยานนาวา
ตัวอย่างสวนหินราชเทวี
ตัวอย่างสวนหินราษฎร์บูรณะ
ตัวอย่างสวนหินลาดกระบัง
ตัวอย่างสวนหินลาดพร้าว
ตัวอย่างสวนหินวังทองหลาง
ตัวอย่างสวนหินวัฒนา
ตัวอย่างสวนหินสวนหลวง
ตัวอย่างสวนหินสะพานสูง
ตัวอย่างสวนหินสัมพันธวงศ์
ตัวอย่างสวนหินสาทร
ตัวอย่างสวนหินสายไหม
ตัวอย่างสวนหินหนองจอก
ตัวอย่างสวนหินหนองแขม
ตัวอย่างสวนหินหลักสี่
ตัวอย่างสวนหินห้วยขวาง
ตัวอย่างสวนหินเมืองนครปฐม
ตัวอย่างสวนหินกำแพงแสน
ตัวอย่างสวนหินดอนตูม
ตัวอย่างสวนหินนครชัยศรี
ตัวอย่างสวนหินบางเลน
ตัวอย่างสวนหินพุทธมณฑล
ตัวอย่างสวนหินสามพราน
ตัวอย่างสวนหินเมืองนนทบุรี
ตัวอย่างสวนหินบางกรวย
ตัวอย่างสวนหินบางบัวทอง
ตัวอย่างสวนหินบางใหญ่
ตัวอย่างสวนหินปากเกร็ด
ตัวอย่างสวนหินไทรน้อย
ตัวอย่างสวนหินเมืองปทุมธานี
ตัวอย่างสวนหินคลองหลวง
ตัวอย่างสวนหินธัญบุรี
ตัวอย่างสวนหินลาดหลุมแก้ว
ตัวอย่างสวนหินลำลูกกา
ตัวอย่างสวนหินสามโคก
ตัวอย่างสวนหินหนองเสือ
ตัวอย่างสวนหินเมืองสมุทรปราการ
ตัวอย่างสวนหินบางพลี
ตัวอย่างสวนหินบางเสาธง
ตัวอย่างสวนหินพระประแดง
ตัวอย่างสวนหินพระสมุทรเจดีย์
ตัวอย่างสวนหินเมืองระยอง
ตัวอย่างสวนหินนิคมพัฒนา
ตัวอย่างสวนหินเขาชะเมา
ตัวอย่างสวนหินบ้านฉาง
ตัวอย่างสวนหินปลวกแดง
ตัวอย่างสวนหินวังจันทร์
ตัวอย่างสวนหินแกลง
ตัวอย่างสวนหินเมืองชลบุรี
ตัวอย่างสวนหินเกาะจันทร์
ตัวอย่างสวนหินบางละมุง
ตัวอย่างสวนหินบ่อทอง
ตัวอย่างสวนหินบ้านบึง
ตัวอย่างสวนหินพนัสนิคม
ตัวอย่างสวนหินพานทอง
ตัวอย่างสวนหินศรีราชา
ตัวอย่างสวนหินสัตหีบ
ตัวอย่างสวนหินหนองใหญ่
ตัวอย่างสวนหินเกาะสีชัง
ตัวอย่างสวนหินเมืองสมุทรสาคร
ตัวอย่างสวนหินกระทุ่มแบน
ตัวอย่างสวนหินบ้านแพ้ว
ตัวอย่างสวนหินมหาชัย
ตัวอย่างสวนหินเมืองสมุทร
ตัวอย่างสวนหินอัมพวา
ตัวอย่างสวนหินบางคนที
ตัวอย่างสวนหินเมืองราชบุรี
ตัวอย่างสวนหินบ้านคา
ตัวอย่างสวนหินจอมบึง
ตัวอย่างสวนหินดำเนินสะดวก
ตัวอย่างสวนหินบางแพ
ตัวอย่างสวนหินบ้านโป่ง
ตัวอย่างสวนหินปากท่อ
ตัวอย่างสวนหินวัดเพลง
ตัวอย่างสวนหินสวนผึ้ง
ตัวอย่างสวนหินโพธาราม
ตัวอย่างสวนหินเมืองฉะเชิงเทรา
ตัวอย่างสวนหินคลองเขื่อน
ตัวอย่างสวนหินท่าตะเกียบ
ตัวอย่างสวนหินบางคล้า
ตัวอย่างสวนหินบางน้ำเปรี้ยว
ตัวอย่างสวนหินบางปะกง
ตัวอย่างสวนหินบ้านโพธิ์
ตัวอย่างสวนหินพนมสารคาม
ตัวอย่างสวนหินราชสาส์น
ตัวอย่างสวนหินสนามชัยเขต
ตัวอย่างสวนหินแปลงยาว
ตัวอย่างสวนหินเมืองนครนายก
ตัวอย่างสวนหินปากพลี
ตัวอย่างสวนหินบ้านนา
ตัวอย่างสวนหินองครักษ์