ร้านโซล่าเซลล์ ติดตั้งปั๊มน้ำ โซล่าเซลล์ซับเมิส ระบบสูบน้ำบาดาลโซล่าเซลล์ ปั๊มน้ำพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อการเกษตร
โซล่าเซลล์
โซล่าเซลล์ราคา
แผงโซล่าเซลล์ราคาถูก
ขายส่งแผงโซล่าเซลล์
ระบบโซล่าเซลล์
ราคาโซล่าเซลล์
ปั๊มน้ำโซล่าเซลล์
โซล่าเซลล์ซับเมิส
ระบบสูบน้ำบาดาลโซล่าเซลล์
ติดต่อสอบถาม
Mono หรือ Poly แผงแบบไหนที่ควรเลือก
ควรเลือกแผงโซล่าแบบไหน?
หลายท่านคงรู้จักเกี่ยวกับการผลิตไฟฟ้าจากการติดตั้งโซล่าเซลล์กันเป็นอย่างดี องค์ประกอบหลักในการผลิตพลังงานนั้นอยู่ที่แผงโซล่าเซลล์(Solar panel หรือ Photovoltaics) ซึ่งแผงของโซล่าเซลล์นั้นจะถูกจำแนกออกเป็นประเภทต่างๆ แผงโซล่าเซลล์ที่นิยมใช้กันในปัจจุบันจะแบ่งออกเป็นสองกลุ่มใหญ่ๆ คือ 1.โมโนคริสตัลไลน์ (Monocrystalline Silicon Solar Cells) 2.โพลีคริสตัลไลน์ (Polycrystalline Silicon Solar Cells) ซึ่งทั้งสองกลุ่มนี้จะทำมาจากสารกึ่งตัวนำประเภทซิลิคอน
1.โมโนคริสตัลไลน์ (Monocrystalline Silicon Solar Cells)
แผงโซล่าเซลล์ชนิด โมโนคริสตัลไลน์ นั้น เป็นชนิดที่ทำมาจากซิลิคอนที่มีความบริสุทธิ์สูง โดยเริ่มมาจากแท่งซิลิคอนทรงกระบอก อันเนื่องมาจาก เกิดจากกระบวนการ กวนให้ผลึกเกาะกันที่แกนกลาง ทำให้เกิดแท่งทรงกระบอก จากนั้นจึงนำมาตัดให้เป็นสี่เหลี่ยม และลบมุมทั้งสี่ออก เพื่อที่จะทำให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด และลดการใช้วัตถุดิบโมโนซิลิคอนลง
ข้อดีของโมโนคริสตัลไลน์
- แผงโซล่าเซลล์ชนิด โมโนคริสตัลไลน์ มีประสิทธิภาพสูงสุด เพราะผลิตมาจาก ซิลิคอนเกรดดีที่สุด โดยมีประสิทธิภาพเฉลี่ยอยู่ที่ 15-20%
- มีอายุการใช้งานยาวนานที่สุด โดยเฉลี่ยแล้วประมาณ 25 ปีขึ้นไป
ข้อเสียของโมโนคริสตัลไลน์
- มีราคาสูง
2.โพลีคริสตัลไลน์ (Polycrystalline Silicon Solar Cells)
ทำมาจากผลึกซิลิคอน โดยทั่วไปเรียกว่า โพลีคริสตัลไลน์ (polycrystalline, p-Si) ในกระบวนการผลิต จะนำเอาซิลิคอนเหลว มาเทใส่โมลด์ที่เป็นสี่หลี่ยม ก่อนที่จะนำมาตัดเป็นแผ่นบาง ทำให้เซลล์แต่ละเซลล์เป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ไม่มีการตัดมุม สีของแผงจะเป็นน้ำเงิน
ข้อดีของโพลีคริสตัลไลน์
- มีขั้นตอนกระบวนการผลิตที่ง่าย ไม่ซับซ้อน ใช้ปริมาณซิลิคอนในการผลิตน้อยกว่า
- มีประสิทธิภาพในการใช้งาน ในที่อุณหภูมิสูง ดีกว่า ชนิด โมโนคริสตัลไลน์ เล็กน้อย กล่าวคือ ในการผลิตแผงโซล่าเซลล์จะมีการวัดค่าประสิทธิภาพการทำงานของแผงโซล่าเซลล์ของแต่ละชนิด ณ อุณหภูมิ ใด อุณหภูมิ หนึ่ง เช่น วัดค่ากันที่อุณหภูมิ 25 *c
ตัวอย่าง
ณ อุณหภูมิคงที่ 25 *c
- แผงโพลีคริสตัลไลน์ ขนาด 100w สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ 80% คือ 80w/ช.ม.
- แผงโมโนคริสตัลไลน์ ขนาด 100w สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ 85% คือ 85w/ช.ม.
ณ อุณหภูมิคงที่ 27 *c
- แผงโพลีคริสตัลไลน์ ขนาด 100w สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ 88% คือ 88w/ช.ม.
- แผงโมโนคริสตัลไลน์ ขนาด 100w สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ 75% คือ 75w/ช.ม.
ณ อุณหภูมิคงที่ 23 *c
- แผงโพลีคริสตัลไลน์ ขนาด 100w สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ 75% คือ 75w/ช.ม.
- แผงโมโนคริสตัลไลน์ ขนาด 100w สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ 90% คือ 90w/ช.ม.
จากตัวอย่างข้างต้นจะเห็นได้ว่า ทั้งแผงโพลีคริสตัลไลน์ และแผงโมโนคริสตัลไลน์ มีความสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าผันแปรตามอุณหภูมิเหมือนกัน ที่ต่างกันคือ
- แผงโพลีคริสตัลไลน์ ถ้าอุณหภูมิสูงขึ้นมากกว่า 25 *c จะมีความสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ดีกว่า แผงโมโนคริสตัลไลน์
- แผงโพลีคริสตัลไลน์ ถ้าอุณหภูมิต่ำลงน้อยกว่า 25 *c จะมีความสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้น้อยกว่า แผงโมโนคริสตัลไลน์
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม ในเขตประเทศเมืองหนาว เช่น ยุโรป อเมริกา ญี่ปุ่น นิยมใช้แผงโซล่าเซลล์ชนิด Mono (โมโน) โดยเฉพาะโรงผลิตกระแสไฟฟ้าโซล่าเซลล์ต่างๆ ในเขตประเทศเมืองหนาว แต่สำหรับเมืองไทยเรา ทำไมใช้แต่แผงโพลีคริสตัลไลน์ ในการทำโรงผลิตกระแสไฟฟ้าโซลาเซลล์ทั้งที่ราคาค่าแผงโซล่าเซลล์ทั้งสองชนิดแทบไม่แตกต่างกันในปัจจุบัน
ช่างติดโซล่าเซลล์เชียงราย