เทคนิคเลือกแบบผ้าม่านให้ลงตัวกับบ้านใหม่
04 พฤษภาคม 2567
ผู้ชม 76 ผู้ชม
ติดตั้งผ้าม่าน มู่ลี่ วอลล์เปเปอร์. ม่านปรับแสง ฉากกั้นแอร์ ม่านม้วน ม่านปรับแสง พร้อมประเมิณราคาถึงบ้าน บริการติดฉากกั้นห้อง ฉากกั้นแอร์วอลเปเปอร์ บ้าน คอนโดฯลฯ สีสันสวย ผ้าม่านสำเร็จรูป พร้อมสั่งตัดได้ตามขนาดที่ต้องการ พร้อมจัดส่งทั่วประเทศ
ออกแบบติดตั้งผ้าม่าน
ออกแบบติดตั้งฉากกั้นห้อง
ผ้าม่านราคาถูก
ออกแบบติดตั้งม่าน
ร้านผ้าม่าน
ผ้าม่านสําเร็จรูป
ออกแบบติดตั้งมู่ลี่
ออกแบบติดตั้งม่านม้วน
รับติดตั้งม่านกั้นห้อง
ผลงานติดตั้งผ้าม่านมู่ลี่
ติดตั้งผ้าม่านสวย
เทคนิคเลือกแบบผ้าม่านให้ลงตัวกับบ้านใหม่
เริ่มต้นคือเลือกแบบม่านที่ต้องการก่อน ม่านในท้องตลาดมีให้เลือกใช้หลายแบบ เช่น
ผ้าม่าน
เป็นวัสดุที่เป็นที่นิยมและมีมานานสั่งตัดได้ทั้ง ม่านจีบ ม่านพับ ม่านตาไก่ ม่านลอน ในการตกแต่งบ้านเมื่อนึกถึงการกรองแสงหรือบังแสงแดดแล้วผ้าม่านมักจะเป็นสินค้าอันดับแรกที่หลายๆท่านนึกถึง นอกจากจะช่วยในเรื่องของการกรองแสงได้แล้วยังช่วยทำให้บ้านหรือสถานที่นั้นดูสวยงามอย่างมีสไตล์อีกด้วย
ข้อแนะนำแรกสำหรับท่านที่ใช้งานเปิดปิดม่านทุกๆวัน สำหรับส่วนของเป็นประตูมักจะใช้ม่านที่มีลักษณะแหวกออกตรงกลาง เช่น ม่านจีบ ม่านตาไก่ เนื่องจากสะดวกในการเดินเข้าออกมากกว่าม่านพับ สำหรับหน้าต่างเลือกได้ทั้งม่านจีบและม่านพับ ม่านที่ไม่แนะนำให้เลือกใช้คือม่านคอกระเช้าเนื่องจากใช้งานดึงเปิดปิดทำได้ยาก โดยเฉพาะกับบานประตูขนาดใหญ่
สำหรับเนื้อผ้าแบ่งได้หลักๆเป็น3ชนิดได้แก่
เนื้อผ้าชนิดที่แสงผ่านได้บ้างเป็นเนื้อผ้ามาตรฐานที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน ความสามารถในการกันแสงขึ้นอยู่กับสีของเนื้อผ้าเป็นหลัก(สีเข้มแสงผ่านได้น้อย สีอ่อนแสงผ่านได้มาก)
ผ้าม่านทึบแสง (blackout)หรือผ้ากันแสงกำลังเป็นที่นิยมอย่างสูงปัจจุบันได้กลายเป็นมาตรฐานไปแล้วก็ว่าได้ เหมาะสำหรับลูกค้าที่ไม่ต้องการแสงในช่วงเช้าหรือบริเวณที่ถูกแสงแดดแรงๆ ผ้าชนิดนี้กันแสงได้มากกว่า 80%
เนื้อผ้าที่สามารถมองเห็นวิวภายนอกได้ (ผ้าโปร่ง) มักติดซ้อนกับม่านที่ใช้งานปกติ(ผ้าม่านแบบทึบ) หน้าที่หลักๆคือให้ความสวยงาม ช่วยให้แสงที่ส่องเข้ามาภายในดูนวลตา พลางสายตาจากคนภายนอกและยังป้องกันแสงแดดได้บ้างอีกด้วย
เลือกใช้ผ้าชนิดทึบแสงเลยดีหรือเปล่า ?
สำหรับห้องหันหน้าไปทางทิศใต้จะโดนแดดค่อนข้างแรง หรือ กรณีผู้อยู่อาศัยต้องการนอนตื่นสาย การใช้ผ้าม่านทึบแสงเลยก็เป็นทางเลือกที่ดี แต่ก็ไม่เหมาะนักสำหรับห้องที่ต้องการแสงสว่างจากภายนอกเนื่องจากผ้าทีึบแสงเวลาปิดใช้งานแล้วแสงจะผ่านเข้ามาภายในห้องได้น้อยมาก
ควรจะติดผ้าโปร่งอีกชั้นด้วยไหม ?
การติดผ้าโปร่งเพิ่มเข้าไป ที่ได้แน่ๆคือเรื่องความสวยงามและช่วยให้ความเป็นส่วนตัวในขณะที่แสงยังส่อง เข้ามาในห้องได้ แต่ต้องแลกมาด้วยค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นมา(เท่ากับการติดม่าน2ชุดซ้อนกัน รวมถึงต้องเหนื่อยในการซักเป็น2เท่าด้วย
บางท่านอาจเข้าใจผิดไปว่าถ้าเราติดผ้าโปร่งเสริมแล้วไม่ต้องใช้ผ้าแบบทึบแสงก็ได้ ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด ผ้าโปร่งนั้นไม่ได้มีคุณสมบัติในการป้องกันแสงเท่าไรนัก จะเน้นไปทางด้านความสวยงามและช่วยเปลี่ยนบรรยากาศภายในห้องมากกว่า หากต้องการให้ห้องมืดผ้าทึบที่ใช้ควรเป็นผ้าชนิดทึบแสง(ผ้ากันแสงหรือผ้าแบล็คเอ้าท์)
ใช้รางม่านแบบใดดี ?
รางสำหรับผ้าม่านหลักๆมี2ชนิดคือรางชนิดลูกล้อกับรางโชว์
รางชนิดลูกล้อได้แก่รางตัวเอ็มและรางซี เหมาะสำหรับจุดที่เน้นการใช้งานเปิดปิดบ่อยๆเป็นหลักไม่เน้นความสวยงามมากมากนักรางม่านชนิดนี้เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดและเป็นระบบรางมาตรฐาน
การเปิดปิดม่านเลือกได้2วิธีคือ
- ใช้มือจูงหรือใช้ด้ามจูงผ้าม่าน มีข้อดีคือเลือกดึงม่านทางด้านซ้ายหรือทางด้านขวาแยกกันได้ (ปิดเปิดแต่ละด้านได้อิสระจากกัน)
- ใช้เชือกชักรอก(ปัจจุบันไม่นิยม) ดึงรวบม่านโดยใช้เชือก เวลาใช้งานรางระบบนี้ตัวผ้าม่านด้านซ้ายและขวาจะถูกดึงเปิดหรือปิดไปพร้อมๆกัน
หรือ หากต้องการความสวยงามมีแบบให้เลือกมากมายก็เลือกใช้รางโชว์(ราวผ้าม่านแบบโชว์ราว) ทั้งชนิดที่เป็นเหล็ก อลูมิเนียมและไม้ จุดเด่นของรางประเภทนี้คือดูสวยงามมีให้เลือกหลากหลายแบบ แต่จุดด้อยคือความคล่องตัวในการดึงเปิดปิดม่านจะสะดวกสู้รางผ้าม่านระบบลูกล้อไม่ได้
ยิ่งถ้าเป็นม่านแบบตาไก่ก็จะยิ่งมีความฝืดกว่าแบบใช้ห่วง สำหรับลูกค้าที่ชื่นชอบรางโชว์ทางร้านผ้าม่านไทยมีจำหน่ายรางโชว์รุ่นมีลูกกลิ้งรางรุ่นนี้ช่วยแก้ปัญหาเรื่องความฝืดของรางโชว์รุ่นปกติได้เป็นอย่างดี
ม่านม้วน
เป็นรูปแบบของม่านที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบันเนื่องจากดูแลรักษาง่ายไม่ผมฝุ่นเหมาะกับชีวิตในเมืองที่เร่งรีบไม่ค่อยมีเวลามาทำความสะอาดม่านมากนัก เน้นความเรียบง่ายแต่ดูทันสมัย ใช้งานง่ายไม่ยุ่งยาก พื้นที่ในการติดตั้งน้อย ม่านม้วนเป็นม่านชนิดเดียวที่มีคุณสมบัติทั้งหมดตามที่ได้กล่าวมา และด้วยราคาที่ไม่สูงเหมือนในอดีตทำให้ในปัจจุบันลูกค้าหลายๆท่านเริ่มสอบถามถึงม่านม้วนเพื่อนำไปใช้กันทั้งใน บ้าน คอนโด หน้าต่างที่ทำงาน หรือ ในร้านอาหารต่างๆ ตัวม่านม้วนมีลักษณะเด่นที่เห็นได้ชัดคือเมื่อม้วนเก็บจะกินพื้นที่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ชนิดของม่านม้วน ตัวม่านโดยมากจะผลิตจากเส้นใยสังเคราะห์ สามารถแบ่งได้เป็น3ชนิดได้แก่
ชนิดทึบแสง (แบล็กเอ้าท์) ม่านม้วนชนิดทึบแสง สามารถป้องกันได้ทั้งแสงและแดด ตัวใบโดยมากจะมีผิวมันทำให้ฝุ่นไม่ค่อยจับและช่วยให้ทำความสะอาดได้ง่าย นิยมนำไปใช้ภายในห้องนอน
ข้อดีของม่านม้วนชนิดทึบแสง(กันแสง Blackout)
- ป้องกันแสงได้มากกว่า 95%
- มีส่วนช่วยในเรื่องการป้องกันความร้อนได้ด้วย
- ม่านม้วนแบล็กเอาท์บางชนิดมีผิวมันทำให้ดูแลรักษาได้ง่าย ไม่ต้องกังวลเรื่องฝุ่น
- ช่วยให้นอกตื่นสายได้สำหรับบางคนที่นอนไม่เป็นเวลา
ข้อด้อยของม่านม้วนชนิดทึบแสง(กันแสง Blackout)
- หากใช้ในบริเวณที่ไม่เหมาะสมอาจะทำให้บรรยากาศในห้องดูอึดอัดเนื่องจากแสงไม่สามารถผ่านเข้ามาได้
- ม่านม้วนทึบแสงช่วยให้ห้องมืดในยามเช้า
ม่านม้วนชนิดซันสกรีน เป็นรูปแบบม่านม้วนที่เมื่อปิดม่านลงแล้วยังสามารถเห็นวิวภายนอกได้โดยผ่านทางรูเล็กๆ นิยมใช้กันในร้านอาหารหรือห้องรับแขก
ข้อดีของม่านม้วนซันสกรีน(Sunscreen)
- มองเห็นบรรยากาศภายนอกห้องได้ในขณะที่ปิดม่านอยู่
- ดึงม่านปิดแล้วไม่รู้สึกปิดทึบ
- ให้ความเป็นส่วนตัวได้ถ้าหากว่าแสงจากภายนอกสว่างกว่าภายในเช่นในช่วงเช้า
ข้อด้อยของม่านม้วนชนิดซันสกรีน
ป้องกันแสงแดดไม่ได้100% เมื่อปิดม่านลงแล้วหากมีแดดส่อง แสงแดดจะผ่านทะลุตัวม่านไปได้บ้าง
อาจไม่เป็นส่วนตัวนักในสภาวะที่แสงจากภายในสว่างกว่าภายนอกเช่นตอนกลางคืน (หากมองเข้ามาจะเห็นเป็นภาพมัวๆ)
ม่านม้วนแบบดิมเอ้าท์ เป็นชนิดที่เมื่อติดตั้งแล้วให้ความเป็นธรรมชาติมากที่สุดเนื่องจากแสงจากภายนอกสามารถผ่านเข้ามาได้บ้าง โดยที่ยังป้องกันแดดได้
ข้อดีของม่านม้วนชนิดแสงผ่านได้(Dimout)
- เมื่อปิดม่านลงแล้วให้ความส่วนตัวได้โดยที่ภายในห้องยังคงมีแสงสว่าง
- ป้องกันแสงและแดดได้
- ให้ความเป็นธรรมชาติม่านกว่าม่านม้วนชนิดอื่นๆ
ข้อด้อยของม่านม้วนชนิดแสงผ่านได้(ดิมเอาท์)
เนื่องจากยังมีแสงผ่านเข้ามาได้ แสงสว่างจึงพาความร้อนเข้ามาภายในได้
ดูแลรักษาได้ยากกว่าม่านม้วนชนิดอื่นๆ
มู่ลี่ การใช้มู่ลี่เพื่อบังแสงแดดเป็นรูปแบบของม่านชนิดหนึ่งที่มีมานานและยังคงได้รับความนิยมจนถึงในปัจจุบันนี้ เนื่องจากใช้งานได้ง่ายสามารถปรับระดับแสงให้เข้ามาได้มากหรือน้อยได้ตามต้องการ มีสีให้เลือกหลากหลายสีสรร ใช้ได้ทั้งในที่ทำงานและบ้านพักอาศัย
โดยชนิดใบของมู่ลี่ที่มีจำหน่ายแบ่งออกได้เป็น2ประเภทคือ
มู่ลี่อลูมิเนียมตัวใบผลิตจากอลูมิเนียม ขนาดที่นิยมใช้มี2ขนาดคือ 25มม.ร้อยใบด้วยเชือกปรับองศาของใบด้วยระบบแกนปรัรบ และ ขนาด50มม.ร้อยใบด้วยบันไดผ้าเลือสีเทปผ้าได้กว่า10สี การปรับใบจะใช้เชือกในการปรับใบ
มู่ลี่อลูมิเนียม มู่ลี่อลูมิเนียม ขนาด25มม.จะเป็นที่นิยมใช้กันมากตามออฟฟิตเนื่องจากมีราคาย่อมเยา ส่วนขนาดใบ50มม.ซึ่งร้อยตัวใบด้วยบันไดผ้าขนาด1" นิยมใช้กันทั้งในบ้านและที่ทำงานเนื่องจากให้ความสวยงามมากว่าใบ25มม.
มู่ลี่ไม้ตัวใบผลิตจากไม้แท้มีให้เลือกใช้ทั้งไม้บาสและไม้รามิน มีขนาดตัวใบให้เลือก3ขนาดคือ 25,35,50 มิลลิเมตร โดยทั้ง3ขนาดร้อยใบด้วยบันไดผ้าช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับตัวมู่ลี่ สำหรับมู่ลี่ไม้ขนาดที่นิยมใช้กันมากคือขนาด50มม. เนื่องจากให้ความสวยงามและมีบันไดผ้าใหญ่กว่าขนาด25,35มม.
มู่ลี่ไม้เป็นรูปแบบของม่านชนิดหนึ่งที่ใช้ในการตกแต่งหน้าต่าง จัดเป็นสินค้าที่มีราคาสูงพอสมควรแต่ให้ความสวยงามและให้กลิ่นอายของความเป็นธรรมชาติได้ดีกว่าม่านรูปแบบอื่นๆ จึงยังได้รับความนิยมเลือกนำมาตกแต่งบ้านกัน ไม่ว่าจะกี่ยุคสมัยก็ตาม ตำแหน่งที่ติดมู่ลี่ไม้จะไม่ติดตั้งที่ตำแหน่งประตูที่มีการเดินเข้าออกเนื่องจากการดึงมู่ลี่ไม้ซึ่งมีน้ำหนักมากจะทำให้ตัวเชือกชำรุดได้ โดยมากมักติดตั้งที่ตำแหน่งหน้าต่าง ตัวมู่ลี่ไม้สามารถปรับระดับของแสงที่สาดส่องเข้ามาได้โดยระบบที่ใช้จะมีเชือก2เส้นในการปรับมุมของตัวใบมู่ลี่ไม้
ข้อแนะนำในการเลือกซื้อมู่ลี่ไม้ ควรเลือกระบบในการร้อยใบแบบด้ายคู่ โดยการร้อบใบแบบนี้ตัวด้ายจะอยู่บนตัวมู่ลี่ทั้งด้านบนและด้านล่าง ซึ่งโดยทั่วไปจะร้อยเฉพาะด้านล่างทำให้เกิดปัญหาเวลาปรับองศาของตัวใบ การร้อยแบบด้ายคู่จะทำให้ใบมู่ลี่ไม่สามารถบิดตัวได้เองช่วยแก้ปัญหาใบมู่ลี่พลิกตัวอย่างไม่เป็นระเบียบ